3 ก.พ. 63 – ที่ห้องพิจารณา 801 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 09.00 น. ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์คดีหมายเลขดำ อ.3078/2562 ที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 กรณีโจทก์ฟ้องกล่าวหา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ หมิ่นประมาทจากการให้สัมภาษณ์ทำนองว่าเป็น ส.ส.สวะ ซื้อเสียง

นายสิระ โจทก์เดินทางมาศาล โดยให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นห้องพิจารณาว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีหมายเชิญให้เข้าระบบไกล่เกลี่ย ตนไม่ขอไกล่เกลี่ย ขอดำเนินคดีถึงที่สุด เพื่อทวงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ความเป็นผู้แทนราษฎรของตน ทนายความได้ยื่นพยานขึ้นไต่สวน 3 ปาก เป็นประชาชนทั่วไป ที่ได้เห็น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ หมิ่นประมาทตน ตนไม่ได้ไปซื้อเสียง ไม่ได้เป็น ส.ส.เศษสวะ เป็น ส.ส.ที่มีคุณภาพ เป็นตัวแทนประชาชน ที่ฟ้องไปขอให้ท่านขอโทษตนตามหน้าข่าว หนังสือพิมพ์ต่างๆ ตนไม่จำเป็นต้องให้ใครมากราบเท้า ไม่ต้องทำเหมือนที่ท่านทำกับคนอื่น เพียงแต่ขอให้ท่านขอโทษตนแล้วประกาศต่อหน้าสาธารณชนว่าตนไม่ผิด ตนไม่ใช่อย่างที่ท่านพูด แค่ทวงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของตนคืนมาก็พอ

ทั้งนี้ นายสิระยังได้ตอบคำถามถึงกรณีเกิดเหตุวุ่นวายในการประชุมคณะกรรมาธิการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร บ่อยครั้ง โดยนายสิระได้ตั้งข้อสังเกตถึงเจตนาประธานคณะกรรมาธิการให้นักข่าวเข้าไปห้องประชุม กมธ. ต่อเมื่อจะจัดการใคร เอาเรื่องของใครประจานหรือไม่ พอถึงกรณีของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และของตน ก็เอานักข่าวเข้าไป ถามว่ามีเจตนาอะไรหรือไม่ มีประโยชน์แอบแฝงหรือไม่ มีเรื่องเฉพาะช่วงที่เอานักข่าวเข้าไป พอวาระอื่นก็ไม่ได้ให้นักข่าวเข้าเลย.