'เขาปิด' ไทยเรา 'ยิ่งต้องเปิด'


เพิ่มเพื่อน    

           เยี่ยมจริงๆ.....

                ที่ได้เกิดบนแผ่นดินที่เรียกประเทศไทย!

                เพราะ "คนไทย-แพทย์ไทย"

                เจ๋งสุดๆ!

                นาทีเป็น-นาทีตาย......

                โลกมะงุมมะงาหรา อยู่กับการค้นหาวัคซีนใช้ต้าน "ไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่"

                ๒ แพทย์ไทย "โรงพยาบาลราชวิถี"

                "นพ.เกรียงศักดิ์ อติพรวณิช" แพทย์ชำนาญการพิเศษ

                "รศ.นพ.สืบสาย คงแสงดาว" แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

                เมื่อวาน (๒ ก.พ.๖๓) ประกาศให้โลกรู้......

                สามารถค้นพบกระบวนการยาใช้รักษา "ไวรัสอู่ฮั่น" ได้ผลชะงัด ภายใน ๔๘ ชั่วโมง

                แม้อาการรุนแรง ขั้น "เป็น-ตาย"

                ใช้ตัวยาที่ ๒ แพทย์นี้ คิดค้นรูปแบบใช้รักษา อาการดีขึ้นทันที ใน ๑๒ ชั่วโมง

                ลุกนั่งได้ ไม่มีอาการอ่อนเพลีย ภายใน ๔๘ ชั่วโมง

                ผลแล็บจาก "บวก" เป็น "ลบ" สุดมหัศจรรย์!

                อย่างนี้ ต้องปรบมือให้วงการแพทย์ แห่งสาธารณสุขไทยของเรา พร้อมกันทั้งประเทศแล้วล่ะ

                โดยเฉพาะกับ ๒ หมอ "นพ.เกรียงศักดิ์" กับ "รศ.นพ.สืบสาย" แห่งโรงพยาบาลราชวิถี

                ผมเอง "ฝากผี-ฝากไข้" อยู่ที่โรงพยาบาลนี้ด้วย ขอบอกไว้เลย แต่ละวัน ที่ราชวิถี คนมากปานมด-ปลวก      

                แต่แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ "ทุกคน-ทุกแผนก" ไม่รู้ไปฝึกจิตบริการมาจากไหน ผมเห็นคนมาโรงพยาบาลซึ่งต่างจิต-ต่างใจ ยังปวดหัว

                แต่เจ้าหน้าที่ทุกคน จิตพ่อพระ-แม่พระจริงๆ

                สนองตอบผู้มารับบริการแต่ละคน-แต่ละจริต โดยไม่ใช้อารมณ์ ไม่ชักสีหน้า ดูแลทุกคนด้วยจิตราบเรียบเสมอเหมือนกัน

                ใครไม่ป่วย ไปที่ราชวิถี เห็นความยิ้มแย้ม เอาใจใส่ โอบเอื้ออารี ของเจ้าหน้าที่ที่นี่แล้ว อยากป่วย เพราะอยู่กับคนจิตงาม แล้ว

                ใจมันชื่นน่ะ!

                ตามที่กระทรวงสาธารณสุขแถลง การค้นพบวิธีรักษาไวรัสอู่ฮั่น ของ ๒ นายแพทย์ราชวิถี ก็สืบเนื่องจาก.......

                มีหญิงจีนจากเมืองอู่ฮั่น อายุ ๗๑ มาเที่ยวไทย ไวรัสออกอาการ ก็เข้ารักษาที่โรงพยาบาลหัวหิน และถูกส่งตัวมาราชวิถี

                ๒๙ ม.ค.อาการรุนแรงขึ้น.......

                ๒ นายแพทย์ จึงตัดสินใจใช้ยา Oseltamivir เป็นยาต้านไวรัสหวัด ที่เคยใช้รักษาโรคเมอร์ส 

                ใช้ร่วมกับยา Lopinavir และ Ritonavia ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสเอดส์

                ปรากฏว่า "ยาถูกโรค" ทันที....

                หญิงจีนผู้นั้น อาการดีขึ้นทันตา ผลตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เป็นลบ ภายใน ๔๘ ชั่วโมง

                สรุปแล้ว ยาที่ใช้นี้...........

                หลักๆ เป็นยาต้านไวรัสโรคเอดส์กับยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ "องค์การเภสัชกรรม" ของไทยเรานี่แหละผลิต

                ส่วนขั้นตอน-กรรมวิธี ที่เรียก "เคล็ดลับ" นำสู่การใช้ให้ได้ผล ตามสูตรของ ๒ แพทย์ราชวิถี  กระทรวงสาธารณสุข ไม่ได้แจกแจงรายละเอียด

                แต่ขณะนี้........

                การคิดค้นได้เป็นผลสำเร็จครั้งนี้ รายงานไปยังนิตยสารทางการแพทย์ของโลก

                เพื่อบันทึกเป็น "ความสำเร็จ" ของแพทย์ไทยแล้ว

                และเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติผู้ป่วยไวรัสนี้ต่อไป

                ครับ.....

                ก็นำมาสรุปให้ชื่นใจกัน และก็น่าชื่นใจยิ่งๆ ขึ้น ถึง ณ ตอนนี้ ในประเทศไทย ไม่มีผู้ป่วยเพิ่ม

                ที่ป่วยอยู่แล้ว ก็รักษาหาย กลับบ้าน-กลับเมืองได้อีก ๑ ราย

                ที่ยังรักษาอยู่ ก็ดีวัน-ดีคืน ก็สบายใจกันได้ แพทย์ไทย สาธารณสุขไทย "มาตรฐานโลก"

                มีแต่หายช้า-หายเร็ว ไม่มีทรุด ไม่มีทรง!

                ดูตามสภาพการณ์แล้ว ผมประเมินว่า ถึงขณะนี้ ไวรัสอู่ฮั่นเลยจุด "เฮี้ยนสุดขีด" ไปแล้ว นับวันจะค่อยๆ ลดจำนวนคนป่วยลง

                เพราะเท่าที่ดู ผีตัวนี้ ปรากฏวันตรุษจีน ๑๐ มกรา ออกฤทธิ์เห็นผลสุดๆ ภายใน ๑๔ วัน ก็ตกราวๆ  ๒๕ มกรา

                คือ ๒๕ มกรา ใคร "ติด-ไม่ติดเชื้อ" รู้ผลกันแล้ว

                เอาให้แน่ใจ เผื่อติดเชื้อวันหลัง ต่อเวลาให้อีก ๑๔ วัน ระยะฟักตัว ก็ตกประมาณ ๑๐ กุมภา

                ฉะนั้น จากสัปดาห์หน้า คือ ๘ กุมภาเป็นต้นไป ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จะกลายเป็น

                "สายพันธุ์หมอบ"!

                คือ จะสิ้นฤทธิ์ ผมหมายถึงในบ้านเรา เพราะในบ้านเรา ชัดแล้วว่า ไวรัสคือผีตัวนี้ ไม่สิงในบ้านเราแน่

                ที่ปรากฏ มันสิงพี่น้องจีนที่เข้ามา เมื่อรัฐบาลจีนปิดประเทศ ไม่ให้คนจีนเดินทางท่องเที่ยว

                ก็เท่ากับว่า "สัปดาห์หน้า" เป็นสัปดาห์แห่งการสิ้นสุด!

                ฉะนั้น ไม่ต้องตีโพย-ตีพาย

                บรรดากูรูทั้งหลาย ก็เก็บวิชาไว้ ไม่ต้องขยายพุงเที่ยวพยากรณ์เศรษฐกิจ พยากรณ์ประเทศ ให้วุ่นวายมากไป

                ว่าจะวิบัติ ล่มจมทางเศรษฐกิจ อย่างนั้น-อย่างนี้ ด้วยพิษไวรัส

                ลำพังพวกชังชาติและการเมืองพังชาติสาดใส่รัฐบาล ทุกวัน คนจิตอ่อน ก็นอนไม่หลับอยู่แล้ว

                ขืนตอกย้ำ-ซ้ำเติม เอะอะเศรษฐกิจประเทศจะพัง ก็จะพากันจิตตก ที่ไม่พัง ก็จะพากันพัง เพราะต่างคน-ต่างเอาตัวรอดนี่แหละ

                ที่ว่ากันว่า นักท่องเที่ยวจะไม่มาเที่ยวไทย เพราะกลัวไวรัสสายพันธุ์ใหม่

                ก็ไม่มาเฉพาะช่วงนี้แหละ

                คอยดูเถอะ.......

                "สงกรานต์" จะแห่กันมา ประเทศแทบแตก!

                เพราะอะไร เพราะวิกฤติในโอกาส จากไวรัสอู่ฮั่นระบาดนี่แหละ

                ๑.ทำให้ทั่วโลกเห็นมาตรฐานสาธารณสุขไทย "เยี่ยม"

                ๒.ไทยนักท่องเที่ยวจีนมากที่สุด แต่คัดกรอง "เยี่ยม" มีคนป่วยน้อยสุด ป่วยก็รักษาหาย ไม่มีตายเลย

                ๓.เป็นที่ประจักษ์ เชื้อไวรัสไม่มีแพร่ในไทย และ

                ๔.ฝีมือแพทย์ไทย การพบยารักษาไวรัสของไทย ทำให้ความเชื่อมั่น "ไทย-มาตรฐานโลก"

                เหล่านี้ จะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกแห่กันมา

                รวมทั้ง "นักท่องเที่ยวจีน"!

                พอบอกนักเที่ยวจีน บางคนผวา และว่า อยากจะปิดประเทศชั่วคราว สำหรับนักท่องเที่ยวจีนด้วยซ้ำ

                ผมอยากให้คิดใหม่!

                ปิดประเทศก็ดี ยกเลิกวีซ่าหน้าด่านก็ดี เป็นเรื่องปลายเหตุ

                ใช้เหตุผลกันนิด อย่าใช้ความคิดสั้นๆ สะบั้นมิตรภาพไมตรี ซึ่งสุดท้ายแล้ว "ผลลบ" มีกับเรามากกว่า "กับเขา" ล้านเท่า

                ประเทศอื่น "ปิดประเทศ" ห้ามจีนเข้า นั่นเป็นเหตุผลเขา แต่สำหรับไทยเรา ไม่มีเหตุผลต้องทำอย่างนั้นเลย

                ยิ่งเขาปิด....

                เราต้องเปิดให้กว้าง กับทุกสายการบิน ที่บินจากจีนมาไทย!

                ต้องเข้าใจนะ จีนเขาปิดประเทศ ไม่ให้คนออก เพื่อสกัดการนำเชื้อออกไประบาดที่อื่น

                การระบาดในจีน ก็เป็นบางเมือง และในจำนวนคนพันกว่าล้านคน มีติดเชื้อในเฉพาะพื้นที่ รวมแล้วระดับหมื่น

                และในจีน ใช่ว่ามีเฉพาะคนจีน........

                การเดินทางด้วยธุรกิจและความจำเป็นของคนทั้งต่างชาติและจีน มันยังต้องมี

                จะเดินทางออกจากจีนมาได้ ก็ต้องผ่านมาตรการคัดกรองเข้มข้น

                เมื่อต้นทางเข้มข้น บวกกับมนุษย์แต่ละคนล้วนมีค่าในตัวที่จะป้องกัน

                ดังนั้น การที่ไทยเปิดประตูต้อนรับทุกสายการบินและทุกคนที่บินจากจีนเข้ามา

                มีอะไรต้องกลัว ต้องเสี่ยง หือ? 

                แถมจะผ่านด่านเข้ามาได้ ก็ต้องรีเช็กจากไทยอีก ๓-๔ ด่านคัดกรอง

                ฉะนั้น คนไทย "อย่าแคบ"

                โดยเฉพาะกับ "พี่น้องจีน" ในยามทั่วโลกรังเกียจ!

                อีกอย่าง...........

                เรามียาปราบ "ไวรัสอู่ฮั่น" เจ้าแรกในโลกอยู่แล้วตอนนี้ ไม่ทำให้ประจักษ์ด้วย "ป่วยจริง-รักษาจริง-หายจริง" ตอนนี้ แล้วจะหาจังหวะตอนไหน?

                ทุกโรค มันมีอยู่ในตัวมนุษย์ทุกคนอยู่แล้ว ขึ้นอยู่แต่ว่า เราเปิดช่องให้มันโจมตีตอนไหนเท่านั้น

                ฉะนั้น อย่า "สติแตก" จนทำลายมิตร ทำลายตัวเอง ด้วยเบาคิด-เบาปัญญา

                ยามพี่น้อง มิตรสหาย ว้าเหว่ มีภัย "ใจจะได้ใจ" ต่อกันหรือไม่นั้น

                เอา "ใจเราต่อใจเขา" ก็จะเข้าใจ.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"