ภัยคุกคามยุคใหม่???


เพิ่มเพื่อน    

     จะช่วงปลายกุมภาฯ หรือช่วงจังหวะใด ก็ยังไม่ทราบชัด...ที่รัฐบาลท่านนายกฯ บิ๊กตู่ คงหนีไม่พ้นต้องเผชิญกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจของบรรดาพรรคฝ่ายค้าน ไล่ไปตั้งแต่นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีแต่ละรายไปเป็นเม็ดๆ ซึ่งจะหนัก-ไม่หนัก สมราคาคุยหรือไม่ เพียงใด ก็ยังมิอาจคาดคะเนได้...

                                                             --------------------------------------------------

                แต่เท่าที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นปี...คงต้องยอมรับว่า รัฐบาลท่านก็เจอแต่เรื่อง หนักๆ มาโดยตลอด อย่างที่คุณน้า สุทธิชัย หยุ่น ท่านได้แจกแจงไว้เป็นเรื่องๆ ข้อๆ ในข้อเขียน บทความ เรื่อง วิกฤติแห่งการบริหารวิกฤติ ในไทยโพสต์ เมื่อช่วงวันเสาร์ (1 ก.พ.) ที่ผ่านมานั่นแหละว่า ทั้งที่เรื่อง ภัยแล้ง ยังแก้ไม่หมด แก้ไม่จบ ยังต้องเจอกับเรื่อง ฝุ่น PM2.5 ตามมาติดๆ ต่อด้วยเรื่อง งบประมาณ ที่ติดๆ ขัดๆ ยังไม่รู้จะออกหัว-ออกก้อย เพราะความขี้เกียจสันหลังยาวของบรรดา ส.ส. และตามด้วยล่าสุด...ก็คือโรคระบาดอู่ฮั่น ที่ทำเอารายได้จาก นักท่องเที่ยวจีน แทบหายวับไปกับตา...

                                                              ------------------------------------------------

                คือเจอเข้ากับแค่นี้ ประมาณนี้ ก็น่าจะอ้วกแตก อ้วกแตน พอสมควรแล้ว เรียกว่า...อาจต้องหยอดน้ำใบบัวบก น้ำข้าวต้ม ชนิดวันละ 3 เวลาก่อนและหลังอาหาร แต่ยังไงๆ...คงหนีไม่พ้นต้องเจอมีด เจอดาบ เจอใบมีดโกน หรือปังตอ ฯลฯ ของฝ่ายค้าน ที่ไม่ว่าจะทื่อ-ไม่ทื่อ คม-ไม่คม ขนาดไหน แต่ภายใต้การกรีด การหั่น การเชือดเนื้อ-เถือหนัง ชนิดต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 3 วัน 3 คืน หรือ 4 วัน 4 คืน ก็แล้วแต่จะว่ากันไป ย่อมมิอาจปฏิเสธได้ว่า...มันคงต้องเจ็บๆ แสบๆ กันมั่ง หรือคงต้องหนังลอก หนังถลอก อยู่พอสมควรเหมือนกัน...

                                                             --------------------------------------------------

                แต่ทำไงได้...ในเมื่อระบอบประชาธิปไตย ไม่ว่าจะครึ่งใบ เสี้ยวใบ หรือกี่ใบก็แล้วแต่ มันคงเลี่ยงไม่พ้นที่ต้องมีองค์ประกอบของกระบวนการตรวจสอบเป็นพื้นฐานเอาไว้ในตัว และไม่ว่ากระบวนการดังกล่าวจะถูกขับเคลื่อนด้วยการ ค้าน หรือการ แค้น ก็ตาม ฝ่ายที่ถือครองอำนาจในการบริหารอย่างรัฐบาล ก็มีแต่จะต้องหาทางฝ่าด่าน ฝ่าอุปสรรค กันไปให้จงได้ ไม่ว่าจะตกอยู่ในสภาพหนังลอก หนังถลอก หรือกระทั่งแขนขาด ขาขาด ก็ตามที ขอแต่อย่าให้ถึงขั้น หัวขาด เพียงอย่างเดียวเท่านั้นเอง...

                                                           --------------------------------------------------

                จะเป็นด้วย ดวงเมือง หรือ ดวงโลก ก็ยังมิอาจระบุได้แน่ชัด...ที่ทำให้เรื่อง หนักๆ ระดับแทบถือเป็น วิกฤติ ไปด้วยกันทั้งสิ้นมันเลยประเด ประดัง เข้าสู่รัฐบาลท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ชนิดเป็นสายๆ  แถมยังเข้ามาในจังหวะที่ไม่ได้มี อาวุธลับ ไม่ได้มี มาตราฉี่ฉิบฉี่ เอาไว้ในมือ เหมือนอย่างยุคที่ยังเป็น เผด็จการละมุนภัณฑ์ เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว การรับมือกับ วิกฤติ ในแต่ละรูป แต่ละแบบ มันจึง ไม่ง่าย อยู่แล้วแน่ๆ เพราะขนาดช่วงที่ยังมีอาวุธลับ มีกระบองยักษ์อยู่ในมือ ก็ยังแก้อะไรแทบไม่ค่อยจะได้  เมื่อขาดอาวุธ ขาดกระบอง ซะอีกต่างหาก ทุกสิ่งทุกอย่าง...มันเลยน่าจะ ยากซ์ซ์ซ์ฉิบหายย์ย์ย์ อย่างมิอาจปฏิเสธได้เลย...

                                                              -------------------------------------------------

                เจอเข้ากับสภาพการณ์เช่นนี้...คงต้องยอมรับว่า เป็นอะไรที่น่าเห็นใจเอามากๆ สำหรับความเป็นนายกรัฐมนตรีของ บิ๊กตู่ ในช่วงนี้ แทนที่จะได้ลงจาก หลังเสือ หันมามีความสุขกับการเลี้ยงหมา เลี้ยงแมว เหมือนอย่างอดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ ที่นับวันจะสดใส เต่งตึง สดชื่น ระรื่นเริง มีโอกาสแสวงหาความบันเทิงในแบบไหนก็ย่อมได้ หลังจากเก็บดาบ วางดาบ พักเรื่องการเมืองเอาไว้ชั่วคราว ขณะที่นายกฯ บิ๊กตู่ ยังคงต้องขี่เสือ ขี่เรือกันต่อ ไม่ว่าด้วยเหตุผลกลใดก็แล้วแต่ ดังนั้น...ความซูบ ความโทรม ความห่อเหี่ยว ไปจนความหย่อนยาน มันเลยย่อมปรากฏให้เห็นแบบชนิดแทบเอาไปเทียบกันไม่ได้...

                                                               -----------------------------------------------------

                และมันคงไม่ใช่แค่นี้ เท่านี้ แต่เพียงเท่านั้น...ถ้ามองถึงแนวโน้มฉากสถานการณ์ในอนาคตเบื้องหน้า ไม่ว่าจะ ภายใน หรือ ภายนอก ก็แล้วแต่ อะไรที่มันอาจ หนัก ซะยิ่งกว่านี้ ยังน่าจะจองคิว รอคิว กันเป็นสายๆ ไม่ว่าในแง่เศรษฐกิจ การเมือง ไปจนถึงสังคม-วัฒนธรรมก็ตาม ที่ต่างมีโอกาสถูก ดิสรัปถีบ หรือถูกถีบไปด้วยกันทั้งสิ้น โดยเฉพาะในสังคมที่มีลักษณะเปิด หรือสังคมประเภท  ประชาธิปไตย ทั้งหลาย ด้วยเหตุเพราะ ภูมิคุ้มกัน ของสังคมประเภทนี้ มันอาจไม่แน่นหนา ไม่แข็งแรง พอที่จะรับมือกับ “ภัยคุกคามใหม่ๆ” ที่สามารถ วิวัฒนาการ และ กลายพันธุ์ แทบไม่ต่างอะไรไปจาก ไวรัสอู่ฮั่น นั่นแล...

                                                            ----------------------------------------------------------

                พูดง่ายๆ ว่า...ภัยคุกคามยุคนี้ มันอาจถึงขั้นต้องงัดกรรมวิธี ปิดบ้าน-ปิดเมือง เหมือนอย่างที่คุณพี่จีนท่านใช้รับมือกับเชื้อไวรัสอู่ฮั่นเอาเลยก็ไม่แน่!!! ถึงอาจพอ เอาอยู่ ได้มั่ง แต่อย่างว่า...สำหรับสังคมไทยๆ และท่ามกลาง ความเป็นไทยๆ นั้น จะไปลอกเลียนแบบคุณพี่จีนเขามาดื้อๆ มันคงไม่ถูกเรื่อง หรือไม่น่าจะ เข้าท่า กันซักเท่าไหร่นัก ส่วนจะออกลูกไหน เดินไปแนวไหนอันนี้...คงเกินกว่าขีดความสามารถของปุถุชนคนธรรมดา อย่างเราๆ-ทั่นๆ จะคาดเดาได้ แต่ที่แน่ๆ ก็คือ...ยังไงๆ คงต้องละเอียด ประณีต และนุ่มนวลอย่างเป็นพิเศษ ไม่งั้น...โอกาสไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ...

                                                             ------------------------------------------------------

                ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Xenophone...Willing obedience always beats force obedience. - การเชื่อฟังด้วยความเต็มใจ ย่อมเหนือไปกว่าการเชื่อฟังด้วยการฝืนใจเสมอ...”

                                                             ------------------------------------------------------- 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"