2 ก.พ.63 - ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจการทำนาบัวของกลุ่มเกษตรกรในเขต ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ที่สถานการณ์ภัยแล้งทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น จนทำให้นาบัวของชาวบ้านแห้งตายยกแปลง พื้นดินแตกระแหง เนื่องจากขาดแคลนน้ำมาทำการเกษตรในระยะนี้

นางรัตนา น้ำคำอายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 326 ม.18 บ้านศิลา ต.ศิลา อ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า ได้ใช้พื้นที่นาข้างบ้านจำนวน 2 ไร่ ทำนาบัวมากว่า 10 ปี ที่ผ่านมาเก็บดอกบัวสัปดาห์ละ 1 ครั้งๆละประมาณ 3,000 ดอก ส่งจำหน่ายให้แก่พ่อค้าในพื้นที่ขอนแก่นมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในการทำนาบัวไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องปรับที่ดินให้มีความอุดมสมบูรณ์และไม่ขาดน้ำ เมื่อปรับที่ดินแล้วก็จะลงบัว ต้องใส่ปุ๋ยทั้งปุ๋ยคอกและปุ๋ยเคมีเพื่อให้ดอกบัวที่จะเก็บขายนั้นมีความสวยทั้งก้านและดอก

"แต่เมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน 2562 น้ำในนาบัวก็เริ่มแห้งขอด จนถึงเดือนมกราคมปีนี้ไม่มีน้ำทำการเกษตรเลย จนผืนดินแตกระแหง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้น อีกทั้งขณะนี้ดอกบัวกว่าหมื่นดอก ไม่สามารถเก็บขายได้ เพราะนาบัวไม่มีน้ำ ดอกบัวไม่สมบูรณ์ จึงต้องปล่อยให้เฉาตายจนสูญเสียรายได้มาหลายเดือนแล้ว”

ขณะที่ น.ส.ชไมพร สาคุณ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 262 ม.18 บ้านศิลา ต.ศิลา อ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า ครอบครัวทำนาบัวจำนวน 4 ไร่ แต่วันนี้ขาดน้ำจนพื้นดินแตกระแหง บัวแห้งตายทั้งแปลง ซึ่งการทำนาบัวของครอบครัวต้องอาศัยน้ำฝนและน้ำจากคลองชลประทาน เพราะบัวต้องการพื้นดินที่ชุ่มชื้น ขาดน้ำบัวก็แห้งตาย

"ตั้งแต่พ่อกับแม่ทำนาบัวมาประมาณ 40 ปี ครั้งนี้ถือว่าแล้งหนักที่สุด เนื่องจากปีที่ผ่านมา ฝนตกน้อยมาก และทางราชการไม่ปล่อยน้ำมาให้ เพราะน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์มีน้อยมาก ซึ่งก็เข้าใจและนับตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นมาก็ไม่มีน้ำมาเติมนาบัว ครอบครัวก็ทำใจว่านาบัวต้องขาดน้ำและปล่อยให้แห้งตาย ซึ่งหลังจากนาบัวแห้งตายก็มีผลกระทบตามมาคือ ค่าใช้จ่ายในครอบครัวไม่พอ ทุกวันนี้แม่และทุกคนต้องไปหาซื้อดอกไม้จากเพื่อนบ้านมาร้อยพวงมาลัย ไปนั่งขายที่ตลาดสด หารายได้เลี้ยงครอบครัว”