รัฐสภาฝรั่งเศสผ่านกฎหมายห้ามผู้ค้าปลีกทำลายเสื้อผ้าที่ขายไม่ออก และห้ามใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้งในปี 2583 ในความพยายามของรัฐบาลที่จะลดปริมาณขยะ
ที่ประชุมวุฒิสภาฝรั่งเศสผ่านกฎหมายฉบับนี้เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม หลังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผ่านกฎหมายนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กฎหมายฉบับนี้กำหนดให้ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดในฝรั่งเศสห้ามใช้ภาชนะพลาสติกสำหรับเสิร์ฟอาหารที่ลูกค้ารับประทานในร้าน แต่อาหารที่ลูกค้าสั่งกลับบ้านยังใช้ภาชนะพลาสติกได้ โดยบังคับใช้ในปี 2566 และจะห้ามใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้งทั้งหมดหลังจากนั้น 17 ปี หรือในปี 2583
กฎหมายนี้ระบุให้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำหน่ายในฝรั่งเศสจะต้องมี "ดัชนีบอกการซ่อมแซมได้" เพื่อให้ลูกค้าที่กำลังตัดสินใจซื้อดูได้ว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ซ่อมแซมได้ง่ายหรือไม่ รวมถึงวิธีการหาซื้ออะไหล่
กฎหมายเพื่อขจัดขยะของฝรั่งเศสฉบับนี้ ห้ามซูเปอร์มาร์เก็ตและผู้ค้าปลีกออนไลน์ทำลายสินค้าที่ขายไม่ออกรวมถึงเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์สุขอนามัย โดยบังคับใช้ในปี 2565
ฝรั่งเศสมีกฎหมายห้ามร้านอาหารและผู้ค้าปลีกทิ้งอาหารที่ขายไม่ออกอยู่แล้ว โดยให้นำอาหารที่ขายไม่ออกไปบริจาค การขยายการห้ามทิ้งหรือทำลายไปยังสินค้าอื่นโดยเฉพาะเสื้อผ้า เนื่องจากมีรายงานหลายชิ้นที่ออกมาเปิดเผยว่า แบรนด์แฟชั่นหลายแบรนด์นำเสื้อผ้าที่ขายไม่ออกปริมาณมากไปทำลายทิ้ง ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์อย่างหนัก
กฎหมายฉบับนี้ระบุด้วยว่าซูเปอร์มาร์เก็ตต้องขายผลิตภัณฑ์ในรูปแบบที่ปลอดบรรจุภัณฑ์มากขึ้นภายในปี 2566, เทศบาลและบริษัทรีไซเคิลมีเวลาถึงปี 2566 ในการนำขวดพลาสติกมารีไซเคิลให้ได้ตามเป้าหมาย ถ้าทำไม่ได้จะต้องบังคับให้เก็บค่ามัดจำขวดพลาสติก ซึ่งลูกค้าจะได้เงินค่ามัดจำเมื่อนำขวดมาคืนที่ร้านค้า.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |