“คลัง” รับสภาพจีดีพีปี 2562 โตแค่ 2.5% ยังหวัง 2563 ผงกหัวโตได้ 2.8% ส่งออก 1% จากที่ติดลบ ประเมินสถานการณ์ไวรัสโคโรนาไม่ยืดเยื้อ 3 เดือนน่าจะจบ สศอ.มั่นใจกระทบน้อยยืนจีดีพีอุตฯ ที่ 1.5-2.5%
เมื่อวันพุธที่ 29 มกราคม นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงข่าวประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2562 และ 2563 ว่า เศรษฐกิจไทยปี 2562 คาดว่าจะขยายตัวที่ 2.5% ชะลอลงจากปีก่อนหน้าที่ขยายตัว 4.1% ซึ่งปัจจัยหลักมาจากอุปสงค์ต่างประเทศเป็นสำคัญ ทั้งเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า ปริมาณการค้าโลกที่ชะลอตัวลงจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าหดตัวลง -2.7% แม้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมีถึง 39.8 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 4.2%
นายลวรณกล่าวต่อว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2563 คาดว่ามีแนวโน้มขยายตัวเร่งขึ้นจากปีก่อนหน้ามาอยู่ที่ 2.8% โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 2.3-3.3% ตามการลงทุนภาคเอกชนที่มีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการการเงินการคลังที่สนับสนุนการลงทุนในประเทศ ปี 2563 รวมทั้งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนาดใหญ่ของรัฐวิสาหกิจ รวมถึงโครงการร่วมลงทุนของภาครัฐและเอกชน (พีพีพี) และการฟื้นตัวด้านการส่งออกที่ติดลบมาเป็นบวกได้ 1%
โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวอีกว่า ปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในปี 2563 ได้แก่ สถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่อาจส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจจีน ความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน การถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร (เบร็กซิต)
“คาดว่าสถานการณ์ไวรัสโคโรนาจะคลี่คลายได้ไม่เกิน 3 เดือน หากเป็นไปตามคาดก็ไม่ส่งผลกระทบกับภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจมากนัก แต่ยังต้องรอประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเบื้องต้นประเมินว่านักท่องเที่ยวชาวจีนจะปรับตัวลดลง แต่ก็จะมีนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นเข้ามาชดเชย โดยเฉพาะอินเดีย ทำให้ภาคการท่องเที่ยวของไทยยังเติบโตได้ และจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงไม่มากนัก” นายลวรณกล่าว และว่า ความล่าช้าของงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตาม แต่เชื่อว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยภายในเดือน มี.ค.นี้
วันเดียวกัน นายทองชัย ชวลิตเชษฐ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เอ็มพีไอ) เดือน ธ.ค.2562 อยู่ที่ระดับ 99.02 หดตัว 4.35% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ระดับ 103.52 แต่ถือว่าปรับตัวดีขึ้น 2.13% เมื่อเทียบกับเดือน พ.ย.2562 ที่หดตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 8.09% อยู่ที่ระดับ 96.95 อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 63.96% จากเดือนก่อนอยู่ที่ 63.29% ส่วนภาพรวมเอ็มพีไอปี 2562 ทั้งปีหดตัว 3.7% อัตราการใช้กำลังการผลิตทั้งปีอยู่ที่ 66.3%
“สศอ.มองแนวโน้มภาคอุตสาหกรรมในเดือนถัดไปจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง เห็นได้จากแนวโน้มเอ็มพีไอเดือน ธ.ค.2562 หดตัวน้อยลงจากเดือนก่อนหน้า การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมไม่รวมทองคำเริ่มกลับมาขยายตัวได้ 0.2% หลังจากติดลบต่อเนื่อง การนำเข้าสินค้าทุนขยายตัว 0.3% ตัวเลขการลงทุนในการประกอบกิจการโรงงานทั้งปี 2562 มีมูลค่าสูงถึง 4.8 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 31.47% สร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน ประกอบกับจีนและสหรัฐสามารถบรรลุยุติข้อตกลงทางการค้าร่วมกันได้เมื่อกลางเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ทำให้เชื่อว่าสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างทั้งสองประเทศมีทิศทางผ่อนคลายลงเป็นผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลกและไทยด้วย”
นายทองชัยกล่าวว่า สำหรับความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนานั้น สศอ.อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ส่งออกไปยังจีน โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองอู่ฮั่นที่เป็นต้นตอการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา โดยจากการประเมินเบื้องต้นคาดว่าสินค้าอุตสาหกรรมของไทยที่ส่งออกไปอู่ฮั่นมีไม่มาก จึงไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมมากนัก หรืออาจส่งผลกระทบในวงจำกัดต่อบางอุตสาหกรรมที่ส่งออกเพียงระยะสั้น เพราะเชื่อว่าจีนจะควบคุมสถานการณ์ได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว
“การส่งออกสินค้าไปยังพื้นที่อื่นในจีนยังดำเนินการได้ สศอ.จึงยืนยันสินค้าอุตสาหกรรมของไทยที่มีซัพพลายเชนผลิตเพื่อส่งออกไปยังเมืองอู่ฮั่นมีเพียงไม่กี่รายการ เช่น ชิ้นส่วนรถยนต์และอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียดว่ามีกี่ราย และมีจำนวนมากหรือน้อยเท่าไหร่ ต้องติดตามและประเมินผลกระทบให้เห็นภาพชัดเจนอีกครั้ง” นายทองชัยกล่าว และว่า ในระยะยาวจะส่งผลดีในแง่ของการย้ายฐานผลิตมายังไทยมากขึ้น เช่น บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า โดย สศอ.ยังไม่ปรับประมาณการอัตราการขยายตัวของจีดีพีภาคอุตสาหกรรมปี 2563 ที่คาดจะขยายตัว 1.5-2.5% และเอ็มพีไอคาดขยายตัว 2-3%.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |