ประเทศไทยกับปรากฏการณ์ไวรัล


เพิ่มเพื่อน    

                 เจอกับเรื่อง ไวรัสอู่ฮั่น ในช่วงนี้...ก็น่าจะพอช่วย เบาแรง รัฐบาลในบางเรื่อง บางกรณี ได้พอสมควรเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ฝุ่นพิษพีเอ็ม 2.5 หรือเรื่อง พ.ร.บ.งบประมาณ ที่ยังไม่รู้ว่าจะออกหัว ออกก้อย อันเนื่องมาจาก ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเองนั่นแหละ ดันขี้เกียจสันหลังยาว หรือสันหลังขนานไปกับพื้นดิน ส่งผลให้การ เสียบบัตร แทนกันของนักการเมืองแค่ไม่กี่ตัว ไม่กี่ราย ทำเอาประเทศทั้งประเทศแทบ เดินหน้า ต่อไปแทบไม่ได้...

                                     -------------------------------------------------

                แต่ถึงกระนั้นก็ตาม...ก็ใช่ว่าเรื่อง ไวรัสอู่ฮั่น จะกลายเป็น ตัวช่วย รัฐบาลไปซะทั้งหมด เพราะถึงจะเป็นไวรัสที่เกิดขึ้นแถวๆ เมืองจีนโน่นเลย แต่สำหรับผู้ที่จ้องจังหวะจะออกหมัด-เท้า-เข่า-ศอก หรือมุ่งที่จะสาดสากกะเบือบินใส่ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ อย่างเป็นระบบและกิจการ ก็ยังสามารถหยิบเอาเรื่องราวเหล่านี้ มาเล่นงานรัฐบาล ได้อย่างชนิดเป็น คนละเรื่องเดียวกัน อีกจนได้ โดยอาศัย ไวรัลเมืองไทย มาแปลงสภาพควบคู่ไปกับ ไวรัสเมืองจีน ได้อย่างสอดคล้อง รองรับ รองมือ รองตีน และได้อย่างน่าตื่นตะลึง พรึงเพริด เป็นอันมาก...

                                     -----------------------------------------------

         คือสิ่งที่เรียกๆ กันว่า ไวรัล นั้น...อันที่จริงมันก็คือสิ่งที่มีลักษณะอาการคล้ายๆ กับการแพร่ระบาดของ ไวรัส นั่นแหละ คืออาศัยการแพร่ การกระจาย ในแบบปากต่อปาก หรือแบบการขยายตัวของบรรดาพวก เชื้อโรค ทั้งหลาย ชนิดบางครั้ง บางครา บรรดาพวก นักการตลาด หรือ นักโฆษณา เขาสามารถหยิบมาดัดแปลง มาใช้ให้เป็นประโยชน์ ต่อสินค้าต่างๆ นานา จนเกิดกลยุทธ์ทางการตลาด แบบที่เรียกๆ กันว่า ไวรัล มาร์เก็ตติ้ง อะไรทำนองนั้น คืออาศัยการพูด การร่ำลือ ในแบบปากต่อปากจริง-ไม่จริงก็ไม่รู้ หรือค่อยไปว่ากันอีกที แต่ก็สามารถช่วยให้สินค้านั้นๆ ขายได้-ขายดี ขายแบบเทน้ำ-เทท่า เอาง่ายๆ...

                                 ----------------------------------------------------

                ด้วยเหตุนี้...ไม่ว่ารัฐบาล บิ๊กตู่ จะเตรียมพร้อมรับมือกับ ไวรัสเมืองจีน กันในลักษณะไหนก็แล้วแต่ แต่เมื่อเจอเข้ากับ ไวรัลเมืองไทย เข้าแบบจะจะจังๆ ก็เล่นเอาต้องปวดหัว เวียนเฮด กันไปมิใช่น้อย กว่าจะตามไปแก้ข่าว เรื่องการติดตั้ง-ไม่ติดตั้งเครื่องสแกนเชื้อโรคในสนามบินสุวรรณภูมิ เรื่องการส่งเครื่องบินไปรับทหารเรือไทย แต่ไม่คิดจะรับพลเมืองไทยกลับมาด้วยเลย ชนิด หลับเถิดทหารกล้า ปวงประชาจะค้างคาวและค้างคืนอยู่ที่อู่ฮั่นอีกต่อไป ฯลฯ หรืออะไรต่อมิอะไรที่ออกไปทาง ข่าวลือ หรือ ข่าวปลอม ไปด้วยกันทั้งสิ้น แต่ก็ส่งผลให้รัฐบาลที่หนักไปทาง ข่าวล่า-มาเรือ มาโดยตลอด ย่อมเสียรังวัดกันไปมิใช่น้อย...

                                  -----------------------------------------------

                โดยเฉพาะกระทรวงดิจิตง ดิจิตอล ของรัฐมนตรีผู้มีภรรยาสวยที่สุดในปฐพี ที่ออกอาการยืดๆ ยาดๆ หนักซะยิ่งกว่าอนาล็อกไม่รู้กี่เท่า ต่อกี่เท่า เรียกว่า...ขณะที่ฝ่ายตรงข้าม ยกระดับไปถึงขั้น ไวรัล มาร์เก็ตติ้ง กันไปเรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว ไปสู่ยุค 5 จี ยุค 4.0 หรือ 5.0 อะไรต่อมิอะไรก็ตามที แต่กระทรวงดิจิตัลยังคงอาศัยการตลาดแบบ 0.4 แบบแม่ค้าปากคลองตลาด หรือแบบประเภทขายผัก ขายปลา ขายของโชห่วย รับมือกับข่าวสารต่างๆ อย่างชนิดน่าเหน็ดเหนื่อย น่าอเนจอนาถ เวทนา เป็นอันมาก

                                   -------------------------------------------------

                แต่ก็นั่นแหละ...จะไปโทษกระทรวงดิจิตอลเพียงลำพังก็ไม่น่าจะได้ เพราะไม่ว่ากระทรวงใดๆ ก็แล้วแต่ ลองถ้ายังถูกกัก ถูกยัด เอาไว้ใน ระบบราชการ อันเป็นสิ่งที่ผู้นำรัฐบาล อย่างท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ท่านยึดมั่น ถือมั่น มาโดยตลอด ตั้งแต่ครั้งที่สถาปนาตัวเองขึ้นเป็น รัฏฐาธิปัตย์ โดยไม่คิดจะเปลี่ยนแปลง แก้ไขใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย จนกระทั่งกลายสภาพมาเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยครึ่งใบ ไฮบริด จนตราบเท่าทุกวันนี้ ท่านก็ยังหนีไม่พ้นต้องอาศัย กลไกข้าราชการ นั่นแหละ เป็นตัวขับเคลื่อนในทุกสิ่งทุกอย่าง ดังนั้น...เมื่อเจอเข้ากับ ไวรัล มาร์เก็ตติ้ง แบบเน้นๆ เนื้อๆ รัฐบาลทั้งรัฐบาล...ก็เลยต้อง เจาะเวลาหาอดีต กันไปตามเรื่อง ตามราว...

                                   ------------------------------------------------

                แต่ก็ยังถือเป็น “โชคดี” ที่สังคมไทยในยุค 4.0 หรือยุค 5 จีก็แล้วแต่...ยังเผอิญมีพวก “จิตอาสา” ที่เชี่ยวชาญและไล่ทันเทคโนโลยีอยู่ตามสมควร บรรดาคนเหล่านี้นี่แหละ ที่พอช่วยเหลือ เยียวยา ไม่ให้ความล้าหลัง หลังเขา ของ “กลไกข้าราชการ” ที่ถูกความก้าวหน้า ก้าวไกล ภายใต้ความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี บดขยี้ กลืนกิน ไปแบบหมดด้าม มิดด้าม แม้บางรายจะไม่ได้เป็น ติ่งรัฐบาล ไม่ได้คิดจะ แหกทวารดม สูดกลิ่นมาดามหอมชื่นใจ บิ๊กตู่ ไปในทุกเรื่อง ทุกราว แต่ก็ด้วยความรัก ความห่วงใยในบ้าน ในเมือง ด้วยความไม่พึงพอใจกับสิ่งใดๆ ที่ไม่ถูกต้อง-เป็นธรรม โดยเฉพาะการโกหก ปลิ้นปล้อน หลอกลวง หรือการเล่นการเมืองกันในชนิดไม่ได้สนใจชาติ บ้านเมือง เอาเลยแม้แต่น้อย บรรดา จิตอาสาทางเทคโนโลยี เหล่านี้นี่แหละ ที่พอช่วยผ่อนหนักให้กลายเป็นเบาได้มั่ง...

                                   --------------------------------------------------

                สรุปเอาเป็นว่า...ด้วยเหตุเพราะโลกยุคนี้ หรือนับแต่นี้ มันย่อมต้องกลายเป็นโลกที่เต็มไปด้วย ปรากฏการณ์ไวรัล หรือ Viral Phenomena หนักยิ่งขึ้นเรื่อยๆ คล้ายๆ ช่วงที่เกิด ปรากฏการณ์หมูป่า ที่จังหวัดเชียงรายเมื่อเกือบ 2 ปีที่แล้วนั่นแหละ ซึ่ง ไวรัล ครั้งนั้น มันกลับถูกแปรสภาพให้เป็นไปในแง่บวก ได้อย่างน่าทึ่ง น่าประทับใจเอามากๆ ทำให้อดไม่ได้ที่จะหวนไปนึกถึง การบริหาร จัดการ ของ ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ ขึ้นมาดื้อๆ!!! โดยเฉพาะเมื่อ ระบบราชการ ยังไม่ได้รับการปฏิรูป ถ้าหากยังพอมี ข้าราชการ ในแนวนี้เอาไว้มั่ง ก็น่าจะพออยู่ๆ กันไปได้ ไม่ถึงกับต้องพังครืน หรือล่มสลายไปก่อนกำหนดการ...

                                   -------------------------------------------------

                ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Andy Warhol... “They always say time changes things, but you actually have to change them yourself. – มักพูดกันว่ากาลเวลาเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง แต่จริงๆ แล้ว...ท่านต้องเปลี่ยนทุกสิ่งด้วยตัวท่านเอง...”

                                    --------------------------------------------------- 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"