การที่มีเทคโนโลยีหลายอย่างถูกพัฒนาขึ้นบนโลก ในเชิงธุรกิจก็นับเป็นเครื่องมือที่ช่วยส่งเสริมการทำงานขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินเทคโนโลยีเออาร์และวีอาร์กันมาพอสมควรแล้ว โดยคาดการณ์กันว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยขับเคลื่อนจีพีดีโลกในปี 2573 ให้เติบโตถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยทุกกลุ่มอุตสาหกรรมจะหันมาใช้เทคโนโลยีดังกล่าวในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพ หรือแม้กระทั่งค้าปลีกเองก็ตาม และในอีก 10 ปีข้างหน้าเทคโนโลยีทั้ง 2 ประเภทจะส่งผลกระทบต่องานจำนวนกว่า 23 ล้านตำแหน่งทั่วโลกอีกด้วย
จากปัจจัยดังกล่าว วิไลพร ทวีลาภพันทอง หุ้นส่วนสายงานธุรกิจที่ปรึกษา บริษัท PwC ประเทศไทย ได้เผยถึงบทวิเคราะห์ Seeing is Believing ซึ่งจัดทำโดยนักเศรษฐศาสตร์ของ PwC ประเทศสหราชอาณาจักร ว่าเทคโนโลยีความจริงเสมือน (Virtual Reality : VR) และเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม (Augmented Reality : AR) มีศักยภาพที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกให้เติบโตถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2573 จากปัจจุบันที่ 4.64 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพราะทั้งเทคโนโลยีวีอาร์และเออาร์ช่วยสร้างประสบการณ์ ใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้า รวมถึงช่วยเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ และปรับปรุงความปลอดภัยภายในสถานที่ทำงานด้วย
เมื่อศึกษาถึงข้อมูลเป็นรายประเทศ พบว่าเทคโนโลยีวีอาร์และวีอาร์จะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาปี 2573 เติบโตได้ถึง 5.37 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นจีดีพีที่เพิ่มขึ้นราว 2.83% ส่วนสาธารณรัฐประชาชนจีน 1.83 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และญี่ปุ่น 1.43 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่จะได้รับการผลักดัน หรือคิดเป็นจีดีพีที่เพิ่มขึ้นราว 2.09% และ 2.0% ตามลำดับ ขณะที่เศรษฐกิจในยุโรปอย่างฟินแลนด์ประมาณ 7.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เยอรมนี 1.03 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และอังกฤษ 6.93 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าจะเห็นการเพิ่มขึ้นของจีดีพีในแง่เปอร์เซ็นต์มากที่สุดในปี 2573 ที่ 2.64%, 2.46% และ 2.44% ตามลำดับ
ผลวิจัยยังคาดการณ์อีกว่าวีอาร์และเออาร์จะส่งผลกระทบต่อการจ้างงานทั่วโลกอย่างมีนัยสำคัญ โดยปัจจุบันมีงานจำนวนน้อยกว่า 1 ล้านตำแหน่งที่ได้ผลกระทบจากเทคโนโลยีทั้ง 2 ประเภท แต่จะเพิ่มขึ้นเป็น 23 ล้านตำแหน่งในปี 2573 โดยจะส่งผลกระทบมากที่สุดในกลุ่มประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เช่น จีน สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และเยอรมนี
นอกจากนี้ รายงานยังได้สำรวจตัวอย่างการใช้งานของเออาร์และวีอาร์ที่จะช่วยส่งเสริมนวัตกรรมและกำลังผลิตด้วย ไม่ว่าจะเป็นการประยุกต์ใช้วีอาร์และเออาร์ในธุรกิจดูแลสุขภาพ จะช่วยผลักดันจีดีพีโลกได้ถึง 3.51 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2573 ผ่านการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ โดยปัจจุบันมีการนำวีอาร์มาใช้เพื่อช่วยให้นักศึกษาแพทย์เข้าถึงการจำลองการผ่าตัด และช่วยให้คำปรึกษาแบบทางไกลจากสถานที่ที่แตกต่างกัน รวมถึงหารือเกี่ยวกับขั้นตอนการผ่าตัดที่จะเกิดขึ้นได้
ส่วนการใช้งานวีอาร์และเออาร์ในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกและบริโภค จะช่วยผลักดันจีดีพีโลกให้เติบโตได้ราว 2.04 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2573 โดยผู้ค้าปลีกสามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าได้ ผ่านการให้ลูกค้าสามารถลองสวมใส่เสื้อผ้าแบบเสมือนจริง หรือใช้แอปพลิเคชันเออาร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเห็นภาพว่า เมื่อวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้นๆ ที่บ้านของตนแล้วจะออกมาเป็นอย่างไร ก่อนการตัดสินใจซื้อ ทั้งนี้ เทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ค้าปลีกเข้าใจถึงพฤติกรรมของผู้ซื้อมากขึ้นผ่านการวิจัยผู้บริโภคขั้นสูง
อย่างไรก็ดี จะพบว่าในประเทศไทยมีหลายอุตสาหกรรมนำวีอาร์และเออาร์เข้ามาประยุกต์ใช้ในธุรกิจ โดยบางรายนำเทคโนโลยีเหล่านี้เข้ามาช่วยในงานที่มีความเสี่ยงสูง งานด้านการฝึกอบรม หรืองานทางด้านการแพทย์ แต่ก็ต้องยอมรับว่าขอบเขตของการประยุกต์ใช้ยังอยู่ในวงจำกัด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะข้อจำกัดเรื่องความเร็วของอินเทอร์เน็ตที่ยังไม่รองรับ หากเข้าสู่ยุค 5 จีที่อินเทอร์เน็ตมีความเร็วสูง ทำให้การรับส่งและการประมวลผลข้อมูลเร็วขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่า เชื่อว่าจะมีการนำเทคโนโลยีทั้ง 2 ประเภทมาใช้ในแวดวงธุรกิจไทยอย่างแพร่หลายมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีก บันเทิง และเกม.
รุ่งนภา สารพิน
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |