29 ม.ค. 63-ที่ห้องจุฬาภรณ์ อาคารสยามินทร์ โรงพยาบาลศิริราช ศาสตราจารย์ ดร.ราล์ฟ เอฟ ดับเบิ้ลยู บาร์เทนชลากเกอร์ (Professor Dr. Ralf F.W. Bartenschlager) จากสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลนักวิจัยเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี 2562 สาขาการแพทย์ ที่ศึกษาเกี่ยวกับวงจรชีวิตของไวรัสตับอักเสบซี กล่าวว่า เชื้อไวรัส โคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019  เป็นไวรัสตัวใหม่ที่เกิดขึ้น ยังไม่มีข้อมูลที่แน่น หรือมากเพียงพอที่จะกล่าวถึง เรารู้เพียงว่าเกิดจากสัตว์ ที่สามารถถ่ายทอดจากสัตว์มาสู่คน และถ่ายทอดจากคนไปสู่คน ซึ่งข้อมูลนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เชื่อว่าต้องมีรายละเอียดที่เรายังทราบไม่ครบ ทำให้ตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถบอกได้เลยว่า จะควบคุมได้ดีแค่ไหน จะระบาดไปเท่าไร แต่ถ้าให้แนะนำในฐานะคนที่ศึกษาเกี่ยวกับไวรัส ก็เห็นด้วยกับที่รัฐบาลจีนทำคือปิดเมือง ไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายพลเมือง แล้วต่อไป ก็ต้องรีบวินิจฉัยไวรัสตัวนี้ให้เร็วที่สุด ทั้งศึกษาเกี่ยวกับการระบาด ศึกษากรณีของผู้ป่วย เพื่อนำมาสู่การหาทางหยุดยั้ง ที่สำคัญ ประชาชนอย่าตื่นตระหนกมากเกินไป ติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง และดูแลตนเอง 

ขณะที่ศาสตราจารย์ นายแพทย์เดวิด เมบี (Professor David Mabey)  จากสหราชอาณาจักร ผู้ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับโรคริดสีดวงตา ที่เกิดจากการติดเชื้อตา และได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล สาขาการสาธารณสุข ประจำปี 2562 กล่าวว่า ไวรัสตัวนี้ยังไม่มียาต้าน แต่เท่าที่ดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับโรคที่เคยเกิดในอดีตอย่างโรคเมอร์ส ซาร์ส อีโบล่า ไวรัสโคโรน่า ยังถือว่ามีความรุนแรงน้อยกว่า จึงคิดว่าอนาคตเราน่าจะผลิตวัคซีนเป็นยาต้านได้ได้ แต่ต้องรอผลจากการศึกษาหลายๆ แหล่ง

ด้าน ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยได้วินิจฉัยกับผู้ป่วยรายที่สงสัยมาจากประเทศจีนหลายราย ซึ่งส่วนใหญ่พบว่าตื่นตระหนก กังวลกับโรคดังกล่าวมาก ซึ่งก็ต้องเฝ้าดูสถานการณ์ต่อไปว่าจะพบปริมาณคนติดเชื้อเพิ่มหรือไม่ เพราะไวรัสตัวนี้ยังไม่แสดงออกง่ายๆ หากใครติดก็จะอยู่ในระยะปรับตัว ไม่แสดงอาการให้เห็นทันที ถ้าเราดูข้อมูลของผู้เสียชีวิตจากไวรัสตัวนี้ เมื่อเทียบกับกรณีเก่าอย่าง เมอร์ส ซาร์ส ถือว่ามีอัตราการเสียชีวิตที่ต่ำกว่ามาก ฉะนั้น ทางทีดีไม่ควรตระหนก แต่ให้ระมัดระวังด้วยการป้องกัน สวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือให้บ่อย เพราะเราไปสัมผัสสถานที่ต่างๆ ราวบันไดบ้าง บันไดเลื่อนตามห้างสรรพสินค้า อาจจะมีคนที่ติดไวรัสไม่รู้ตัว ยังดูร่างกายแข็งแรงปกติ ทำให้เราติดเชื้อมาจากเขา

คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราช กล่าวอีกว่า ตอนนี้แหล่งข่าวมาจากหลายทิศทางมาก จริงบ้างไม่จริงบ้าง เพราะจริงๆ แล้วข้อมูลของโรคนี้มีน้อยมาก เลยทำให้เกิดการคาดการณ์ไปต่างๆ มากกว่า มีการเอาไวรัสตัวนี้ไปเปรียบเทียบกับไวรัสตัวอื่นที่เคยเกิดขึ้น ข้อมูลเลยผิดเพี้ยนก็มี เพราะไวรัสหรือโรคแต่ละอย่างมันมีรายละเอียดต่างกัน เทียบกันไม่ได้ ถ้าเกิดขึ้นแล้วต้องมีการศึกษาจริงจัง พอมีข้อมูลมากขึ้น การป้องกันก็จะเกิดขึ้นตามมา