เจ้าหน้าที่สนธิกำลังบุกยึดไม้สักกองมหึมาหลังพลเมืองดีแจ้งเบาะแสแต่ไร้เงามอดไม้ 

เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากพลดีว่ามีกลุ่มบุคคลได้เข้าไปลักลอบตัดไม้สักในป่าแล้วใช้รถยนต์บรรทุกไม้ ขนลำเลียงไม้สักมากองไว้ในทุ่งนาที่บ้านทุ่งปง หมู่ที่ 6 ตำบลทุ่งกว๋าว อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง และได้ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับการแปรรูปไม้บริเวณดังกล่าวโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย

นายชูเกียรติ พงศ์ศิริวรณ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง นายสุเทพ พุทชา ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สั่งการให้นายดนุศักดิ์ หมื่นโฮ้ง เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าสายตรวจฯ สนธิกำลังส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ ปรากฏว่าในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบมีการทำเป็นเพิงบังแดดชั่วคราวเพื่อใช้ในการแปรรูปไม้โดยเฉพาะ ตรวจพบไม้ท่อนวางกองอยู่ในทุ่งนาเป็นจำนวนมาก ไม่พบบุคคลใด ไม่พบยานพาหนะใดๆอยู่บริเวณดังกล่าวและบริเวณใกล้เคียง

เมื่อตรวจดูใต้เพิงบังแดด พบแท่นเลื่อยไม้ติดตั้งอุปกรณ์การแปรรูปไม้ โดยพบว่ามีลักษณะแปรรูปท่อนไม้ให้เปลี่ยนขนาดไปจากเดิม โดยการผ่าไม้ท่อนให้มีจำนวนหลายแผ่น โดยการเลื่อยไม้ให้ขนานไปตามความยาวหรือความยาวของไม้ท่อนหรือความสูงลำต้นไม้ แล้วทำการเลื่อยตัดขอบเหลี่ยมข้าง

นอกจากนี้ไม้ยังมีสภาพใหม่ ดิบ สด ไม่เคยผ่านการปัดไส กบตกแต่ง ขัด ทำสี มีร่องรอยการแปรรูปด้วยเลื่อยวงเดือน มีร่องรอยปรากฏให้เห็นเป็นลูกคลื่น ไม่ปรากฎรูปรอยตราของพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือรูปรอยตราอื่นใดตีประทับไว้แต่อย่างใด อีกทั้งไม่เคยผ่านการเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือเครื่องใช้อื่นใดมาก่อน ตรวจดูไม้ท่อน ไม้แปรรูปพบว่าเป็นชนิดไม้สัก ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามธรรมดา ตรวจดูที่ปีกไม้ เศษไม้ พบว่ามีชนิดไม้สัก ตรวจดูขี้เลื่อยซึ่งตกหล่นอยู่ที่พื้นดินใต้เพิงบังแดดและบนแท่นเลื่อยพบว่ามีชนิดไม้สัก พบเลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 1 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปานดำเนินคดี ส่วนไม้ของกลางได้นำเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป.7 (แม่สอย)