"บิ๊กตู่" โยน "สภา-ศาล รธน." หาทางออกร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ วอนทุกฝ่ายร่วมกันคิดหาทางออกให้ประเทศในยามวิกฤติ ฟุ้งไทยเลื่อนลำดับเป็น ปชต.มากสุดในโลกถึง 38 ลำดับ ฝ่ายค้านเลื่อนยื่นญัตติซักฟอกอีก รอสรุปพรรคร่วมฯ "เหลิม" ปัดโดนล็อบบี้อ้างกลัวเสียฟอร์มไม่มีข้อมูลพูดไปมีแต่จะโดนด่า ส.ส.พท.โวมีใบเสร็จมัด "บิ๊กป๊อก" ปล่อยทุจริตโรงกำจัดขยะ กทม. "ช่อ" เผย อนค.เล็งซักฟอกความไร้วิสัยทัศน์นำพาประเทศผิดทาง
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 28 มกราคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านเสนอให้นำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 เข้าสู่การพิจารณาของสภาเพื่อลงมติใหม่อีกครั้งว่า คงต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อน ซึ่งรัฐบาลได้ศึกษาหาแนวทางเรื่องนี้ไว้บ้างแล้ว ซึ่งข้อกังวลที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเป็นเรื่องของสภานิติบัญญัติและศาล ที่จะต้องหาทางออกให้ประเทศร่วมกัน
“ผมมั่นใจว่าทุกฝ่ายจะร่วมมือกัน ร่วมกันคิด ร่วมกันทำ ช่วยกันหาทางออกในสถานการณ์ที่กำลังวิกฤติในขณะนี้ ทั้งเรื่องของการใช้จ่ายงบประมาณและส่งผลกระทบต่างๆ ให้ได้มากที่สุด ก็หวังว่าทุกฝ่ายจะตั้งใจที่จะทำให้ประเทศของเราและประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุดในภาวะที่มีปัญหารุมเร้ามากมายในปัจจุบัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับมือในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านที่พุ่งเป้ามาที่ 3 ป.ว่า เป็นเรื่องที่ออกมาทางสื่อสารมวลชนในลักษณะการคาดเดาต่างๆ เรื่องนี้ทุกคนก็พร้อมแจง และตนก็ได้สั่งการในที่ประชุม ครม.ไปแล้ว ให้รัฐมนตรีได้ช่วยกันชี้แจง เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของคำถาม ซึ่งเป็นคำถามในเชิงอภิปราย เสร็จแล้วคนที่ถามก็ไม่ได้ฟังคำตอบ ข้อสำคัญคือประชาชนที่รับฟังอยู่ที่บ้านจะต้องรับฟังด้วยการตั้งสติให้ดีว่าอะไรมันใช่ อะไรคือสิ่งที่จริงหรือไม่จริง ที่ผ่านมารัฐบาลก็ทำอย่างเต็มที่แล้วในทุกๆ เรื่อง
"วันนี้ต้องยอมรับว่าเราเข้าสู่กระบวนการประชาธิปไตยเต็มรูปแบบแล้ว เราเป็นประเทศที่มีการเลือกตั้ง สื่อต่างประเทศก็ยอมรับปรับลำดับความเป็นประชาธิปไตยของประเทศไทยขึ้นมาถึง 38ลำดับ เพราะฉะนั้นจะมาบอกว่าผมไม่ได้รับการยอมรับได้อย่างไรวันนี้เราเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ถือว่าเลื่อนลำดับขึ้นมากที่สุดในโลก การตรวจสอบผ่านสภาและองค์กรอิสระต่างๆ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน ผมก็ปฏิบัติตามมาโดยตลอด และผมไม่เคยหาวิธีที่จะหลบเลี่ยง จึงขอให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นกับผมและรัฐบาลต่อไป” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงฝ่ายค้านมีความมั่นใจว่าจะสามารถน็อกรัฐบาลได้อยู่หมัดในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า จะมาน็อกได้อย่างไร เราทำตามขั้นตอนทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหาฝุ่น PM 2.5 หรือไวรัสโคโรนา ซึ่งเราได้ทำทุกอย่าง ส่วนรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายเป็นรายบุคคลตนมั่นใจว่าชี้แจงได้ เนื่องจากทุกคนทำงานมา 6 เดือนกว่าแล้ว มีความตั้งใจทำงานเพื่อประชาชน ไม่น่ามีอะไรต้องห่วง
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ต้องรอดูว่าพรรคฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายใครบ้าง พรรค พปชร.ได้เตรียมความพร้อมไว้แล้วว่ารัฐมนตรีคนใดจะถูกอภิปราย จะได้เตรียมข้อมูลข้อเท็จจริงเพื่อสนับสนุนข้อมูลในการชี้แจง สำหรับพรรคร่วมรัฐบาลต้องร่วมมือร่วมใจกันที่จะต้องร่วมกันตอบข้อซักถามของฝ่ายค้าน ส่วนการลงมติพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้มีปัญหาอะไร มีความเข้าใจร่วมกัน ความเห็นต่างทางการเมืองเป็นเรื่องธรรมดา การลงมติต่างๆ ของพรรคร่วมรัฐบาลจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
รมต.พร้อมรับมือศึกซักฟอก
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวถึงกระแสข่าวว่ามีชื่อถูกฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ยังไม่แน่ใจว่าจะมีชื่อถูกอภิปรายจริงหรือไม่ แต่คาดว่าเรื่องที่จะถูกอภิปรายคือ เรื่องการเลื่อนการยกเลิกใช้สารเคมีอันตรายในภาคการเกษตร เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของตน แต่เป็นการทำงานในรูปแบบของคณะกรรมการวัตถุอันตราย ยืนยันว่าสามารถตอบข้อสงสัยเรื่องดังกล่าวได้สบายมาก
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ กล่าวว่า เรามีการเตรียมพร้อมอยู่แล้ว ไม่ได้มีปัญหาอะไร ได้เตรียมในทุกๆ ประเด็น คาดว่าเป็นไปตามที่มีสื่อนำเสนอไว้ ไม่ได้กังวลและหนักใจที่ถูกอภิปรายแต่อย่างใด
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ตนทราบอยู่แล้วว่าเราต้องเตรียมตัวอย่างไร ยืนยันมาตลอดว่าการเข้าสู่เวทีการเมืองต้องพร้อมตลอดเวลาว่าเราจะถูกตรวจสอบจากฝ่ายค้าน เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยที่ต้องพร้อมให้ตรวจสอบ จึงไม่หนักใจอะไร ส่วนหากมีการนำเรื่องเก่าที่ชี้แจงไปแล้วมาอภิปรายอีกนั้น ตนโดนอะไรมาเยอะแล้ว จึงพร้อมในทุกสถานการณ์ และสิ่งใดที่ตนเคยชี้แจงไปแล้วก็ไม่ควรเอามาพูดใหม่ จะพูดในกรอบระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมาว่าได้ทำอะไรให้ประชาชนบ้าง
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ฝากบอกให้ ปชป.จัดการ ส.ส.ภายในพรรค หลังออกมาแฉ ส.ส. พรรคภูมิใจไทยเรื่องการเสียบบัตรแทนว่า เดี๋ยวเขาก็คงจะคุยกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เอง ส่วนการเตรียมตัวการถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนหนึ่งเราก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน คงไม่เสียงแตก ยังเหนียวแน่นแน่นอน
ที่ที่ทำการพรรคเพื่อไทย (พท.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษ พรรคเพื่อไทย (กพศ.) พร้อมด้วยคณะกรรมการฯ ประชุมเพื่อสรุปความคืบหน้าการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดย ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า คณะกรรมการกิจการพิเศษขอแสดงความเสียใจ และแสดงความห่วงใยจากภัยพิบัติหลายอย่างที่เกิดขึ้นในบ้านของเรา และที่เมืองอู่ฮั่น รัฐบาลไม่กระตือรือร้น ไม่เอาใจใส่ ทำงานไม่เป็น เอารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานมาเดินแจกที่ปิดจมูก ไม่ได้แจกในนามรัฐบาล เป็นการแจกในนามพรรคพลังประชารัฐ แปลว่ามีวาระซ่อนเร้น ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะให้นักวิชาการออกมาวิเคราะห์ วิจัย ผ่านช่องทางโทรทัศน์
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวถึงการกดบัตรแทนกันของ ส.ส.บางพรรคว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุถึงรัฐธรรมนูญมาตรา 143 พวกตนอ่านกฎหมายเป็น มาตราดังกล่าวใช้ในกรณีปกติ แต่เรื่องเสียบบัตรแทนกัน เรียกทุจริต รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลสีเทา รัฐมนตรี ส.ส.บุกรุกป่า บุกรุกที่ดิน ก็เงียบกัน พอฝ่ายค้านทำอะไรบ้าง เอาตาย ตามจี้ หายใจดังยังไม่ได้ รัฐบาลไม่มีหลักเกณฑ์ วันนี้ประชาชนส่งข้อมูลมามากมาย เพราะเกลียดรัฐบาล
"พล.อ.ประยุทธ์อย่ามาโกรธพรรคเพื่อไทย พวกเราเป็นฝ่ายค้าน ไม่ใช่พวกสอพลอคุณ อย่ามาดุแบบที่ดุนักข่าว ดุไม่ได้ เพราะถ้าดุมาก็สวนไป พวกเราไม่ใช่ทหารเกณฑ์ในบ้านคุณ ขอให้มาพูดกันด้วยหลักฐาน ตรงไปตรงมา ถ้าฟ้าดินมีจริง หลังการอภิปรายขอให้รัฐบาลชุดนี้หายนะ การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง" ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
"เหลิม"ย้ำไม่มีล็อบบี้
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองประธาน กพศ. กล่าวว่า หัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้าน 7 พรรค จะร่วมประชุมอีกครั้ง ในวันที่ 29 ม.ค. แล้วจะตัดสินใจยื่นญัตติในช่วงวันที่ 29-31 มกราคม เพราะยังต้องรอดูเรื่องการสรุปตัวบุคคล พล.อ.ประยุทธ์ คือศูนย์กลางของปัญหา หากหาข้อสรุปได้ วันศุกร์ที่ 31 ม.ค. ยังถือว่าอยู่ในช่วงเวลาที่เรากำหนดอยู่ ตัวบุคคลที่จะถูกอภิปราย ก็ยังไม่ได้ข้อยุติว่าจะกี่คน เนื่องจากวันนี้ยังมีการประชุมของหลายๆ พรรคในกลุ่มพรรคร่วมฝ่ายค้านอยู่ และตัวบุคคลก็ซ้ำกัน แต่ไม่ได้รอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเรื่องการเสียบบัตรแทนกันให้ออกมาก่อน ส่วนพรรคเศรษฐกิจใหม่จะร่วมอภิปรายด้วย แต่ยังไม่ได้สรุปว่าใครจะเป็นผู้อภิปราย เพราะต้องรอดูการกำหนดตัวผู้ถูกอภิปรายก่อน เพื่อจะได้รู้ว่าใครมีข้อมูลอะไรที่ไปทำการบ้านมา
เมื่อถามถึงกระแสข่าวการเลื่อนยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเนื่องจากมีการล็อบบี้ไม่ให้อภิปราย พล.อ.ประวิตร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่มีใครมาล็อบบี้ เมื่อไม่มีข้อมูลจะอภิปรายเรื่องอะไร ถ้าพรรคอื่นมีข้อมูล ขอใส่ชื่อก็เอา แต่ กพศ.กลัวเสียฟอร์ม ถ้าเสนอแล้วไม่มีข้อมูลอะไรไปพูดในสภาก็จะถูกด่าอีก แต่ไม่มีใครมาล็อบบี้
ผู้สื่อข่าวรายงาน กพศ.ว่า ได้เปิดตัว Specialmissionptp.com ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลการทำงานของคณะกรรมการกิจการพิเศษ และยังเป็นช่องทางในการแลกเปลี่ยน รับเรื่องราวข่าวสารจากประชาชน
นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนแสดงความจำนงขออภิปราย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ประเด็นการบริหารราชการที่ผิดพลาดในฐานเป็นผู้กำกับดูแล กทม. ที่ปล่อยให้โครงการก่อสร้างโรงกำจัดขยะด้วยวิธีการเผาและผลิตเป็นกระแสไฟฟ้ามีการทุจริตและทำให้ กทม.เสียประโยชน์หลายพันล้าน มีข้อมูลทุกอย่างชัดเจน แต่ขออุบข้อมูลไว้ก่อนเพื่อเปิดเผยในการอภิปรายที่จะถึง
"ยืนยันว่ามีใบเสร็จหลักฐานชัดเจน พล.อ.อนุพงษ์ ในฐานะกำกับดูแล กทม. ต้องออกมาชี้แจงสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้ ถ้าไม่สามารถชี้แจงให้สังคมกระจ่างได้ ก็ควรต้องแสดงความรับผิดชอบ เพราะการบริหารงานของ กทม.ภายใต้การกำกับดูแลของท่านทำให้ประเทศชาติเสียหาย" นายประเดิมชัยกล่าว
น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวว่า พรรค อนค.ได้เตรียมการที่จะอภิปรายรัฐมนตรีหลายคน เช่น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และนายวิษณุ เครืองาม ที่จะเป็นผู้ถูก ส.ส.พรรค อนค.อภิปรายเป็นหลัก สำหรับภาพรวมจะไม่ได้เน้นแค่เรื่องการเปิดโปงการทุจริตหรือการใช้อำนาจในทางมิชอบ แต่จะเป็นเรื่องของการมีส่วนที่เกี่ยวกับการบริหารประเทศในทางที่ผิดพลาด ความไร้วิสัยทัศน์ที่จะนำพาประเทศ จนไปผิดทิศผิดทาง ซึ่งบางทีสร้างความเสียหายมากกว่าการทุจริตหรือการใช้อำนาจในทางมิชอบเสียอีก นำมาซึ่งความเสียหายต่อผลประโยชน์และเกียรติภูมิของชาติและภาษีของประชาชนมากแค่ไหน จะชี้ให้เห็นถึงทิศทางที่ถูกควร เพื่อหวังว่ารัฐบาลจะรับฟังและนำไปปรับแก้ เพราะผู้ที่จะได้ประโยชน์ก็คือประชาชน
ส่วนความคืบหน้าในคดีเงินกู้ น.ส.พรรณิการ์กล่าวว่า เมื่อวันก่อนทีมทนายความได้ไปยื่นเอกสารชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญเป็นที่ครบถ้วนจนเรียบร้อยแล้ว มั่นใจว่าเรื่องนี้พรรคอนาคตใหม่ทำถูกต้อง ไม่ว่าจะพิจารณาจากทั้งตัวบทกฎหมายหรือพิจารณาจากด้านอื่นๆ แต่สิ่งที่ยังคงเป็นคำถามของเราคือ กระบวนการตั้งเรื่อง ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญโดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นไปโดยชอบธรรมหรือไม่ เป็นไปโดยตามกระบวนการที่ถูกต้องหรือไม่ และสิ่งสำคัญคือเมื่อเราส่งคำชี้แจงไปแล้ว เราคาดหวังว่าศาลจะเปิดให้มีการไต่สวนพยานหลักฐาน และที่หวังเป็นอย่างยิ่งคือให้ศาลรัฐธรรมนูญเรียกเอกสารหลุดที่ปรากฏต่อสาธารณะแล้วมาจากทาง กกต.ด้วย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการพิจารณาคดี.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |