รัฐบาลจีนโกรธ หนังสือพิมพ์ยุลแลนด์ส-พอสเตนของเดนมาร์กล้อภาพธงชาติจีน เปลี่ยนดาวเหลืองเป็นรูปไวรัสโคโรนา แต่สื่อแสบปฏิเสธจะขอโทษ ขณะยอดสังเวยไวรัสมรณะอู่ฮั่นในจีนพุ่งเกิน 100 ศพ ติดเชื้อมากกว่า 4,500 คนแล้ว เยอรมนี-ญี่ปุ่นเจอการติดเชื้อจากคนสู่คน

    หนังสือพิมพ์ของเดนมาร์กฉบับนี้เป็นเจ้าเดียวกับที่วาดภาพการ์ตูนล้อเลียนศาสดามุฮัมมัดของศาสนาอิสลามเมื่อปี 2548 ซึ่งต่อมาเป็นชนวนเหตุการประท้วงนองเลือดในประเทศมุสลิมบางประเทศ เอเอฟพีรายงานว่าในหนังสือพิมพ์ยุลแลนด์ส-พอสเตนฉบับวันจันทร์ที่ 27 มกราคม 2563 พวกเขาลงภาพการ์ตูนเสียดสีธงชาติจีน โดยเปลี่ยนภาพดาวเหลืองมุมซ้ายบนพื้นธงสีแดง เป็นภาพของไวรัสโคโรนา

    สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำเดนมาร์กกล่าวว่า ภาพการ์ตูนนี้ "ดูหมิ่นจีน" และทำร้ายความรู้สึกของคนจีน ภาพดังกล่าวข้ามเส้นแบ่งจริยธรรมของเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และขอให้ยุลแลนด์ส-พอสเตน กับนีลส์ โบ โบเยเซน นักวาดการ์ตูน ยอมรับความผิดพลาดและขอโทษชาวจีนอย่างเปิดเผย

    ในวันอังคาร จาค็อบ นีโบร หัวหน้าบรรณาธิการของยุลแลนด์ส-พอสเตน กล่าวว่า พวกเขาไม่เคยคิดล้อเลียนสถานการณ์ในจีน แต่ก็ไม่อาจขอโทษในสิ่งที่พวกเขาไม่คิดว่าเป็นเรื่องผิด เขามองว่าเรื่องนี้เป็นความเข้าใจวัฒนธรรมในรูปแบบที่แตกต่างกัน

    นักการเมืองเดนมาร์กหลายคนหนุนหลังหนังสือพิมพ์อื้อฉาวฉบับนี้ โดยเมตเต เฟรเดอริกเซน นายกรัฐมนตรีหญิง กล่าวกับหนังสือพิมพ์โพลิติเคนว่า เดนมาร์กมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และเสรีภาพในการวาดการ์ตูนด้วย

    ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดในจีน เมื่อวันอังคาร คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีนแถลงว่า มีผุ้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 26 คนจากวันก่อน เป็น 106 คนแล้ว นับข้อมูลถึงวันจันทร์ ส่วนผู้ติดเชื้อเพิ่มจาก 2,835 คน เป็น 4,515 คน และผู้ต้องสงสัยติดเชื้ออีกราว 7,000 คนที่รอการตรวจยืนยัน

    ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พบกับทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันอังคาร โดยผู้นำจีนแสดงความมั่นใจว่า จีนจะชนะการต่อสู้กับไวรัส "ปิศาจ" ตัวนี้

    ก่อนหน้านี้สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนกล่าวว่า องค์การอนามัยโลกไม่แนะนำการอพยพพลเมืองของประเทศต่างๆ และเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศอยู่ในความสงบและอย่าตื่นตระหนกเกินเหตุ แต่โฆษกของดับเบิลยูเอชโอกล่าวว่า พวกเขากำลังรอคอยความชัดเจนเกี่ยวกับความเห็นของผู้อำนวยการภายหลังการพบกับผู้นำจีน ทีโดรสจะเดินทางกลับเจนีวาทันทีในค่ำวันอังคาร

    สัปดาห์ที่แล้ว ที่ประชุมฉุกเฉินของคณะผู้เชี่ยวชาญอิสระ 16 คนของดับเบิลยูเอชโอปฏิเสธที่จะประกาศให้สถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาในจีนที่มีผู้เสียชีวิตและติดเชื้อเพิ่มขึ้นไม่หยุด เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ แต่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันจันทร์ ดับเบิลยูเอชโอยอมรับว่าการประเมินครั้งแรกของพวกเขาที่่ว่าภัยคุกคามของไวรัสทั่วโลกนั้นอยู่ในระดับ "ปานกลาง" โดยได้ปรับถ้อยคำใหม่เป็นว่า มีความเสี่ยงสูงของการแพร่ระบาดในระดับโลก

    เมื่อวันจันทร์ ทางการศรีลังกา, แคนาดา และเยอรมนี รายงานพบผู้ติดเชื้อรายแรกในประเทศ ทำให้จำนวนประเทศที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 15 ประเทศแล้ว ที่เหลือประกอบด้วย ออสเตรเลีย, กัมพูชา, ญี่ปุ่น, มาเลเซีย, เนปาล, สิงคโปร์, เกาหลีใต้, ไต้หวัน, ไทย, เวียดนาม, สหรัฐอเมริกา และฝรั่งเศส

    ดับเบิลยูเอชโอกล่าวก่อนหน้านี้ว่า มีผู้ติดเชื้อในเวียดนามเพียงรายเดียวที่พบว่าเป็นการแพร่เชื้อจากคนสู่คน แต่ในวันอังคาร เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นและเยอรมนีกล่าวว่า พวกเขาพบผู้ติดเชื้อที่ไม่เคยข้องเกี่ยวโดยตรงกับจีนเลย กรณีของญี่ปุ่นพบชายวัย 60 ปีเศษที่น่าจะติดเชื้อภายหลังขับรถรับส่งกลุ่มนักท่องเที่ยวจากอู่ฮั่น 2 คณะเมื่อต้นเดือนมกราคม เขาป่วยเข้ารักษาอาการคล้ายหวัดที่โรงพยาบาลเมื่อวันเสาร์ ส่วนเยอรมนี เจ้าหน้าที่สาธารณสุขพบชายชาวเยอรมนีวัย 33 ปีที่ติดเชื้อจากเพื่อนชาวจีนจากเซี่ยงไฮ้ที่มาเยอรมนีเมื่อสัปดาห์ก่อน

    หลายประเทศได้ประกาศใช้มาตรการคุมเข้มจำกัดพลเมืองจีนเข้าประเทศของตนแล้ว อาทิ มาเลเซีย, ศรีลังกาและฟิลิปปินส์ ที่ประกาศจำกัดการออกวีซ่าแก่ชาวจีน

    ที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกงของจีน รัฐบาลฮ่องกงประกาศแผนรับมือเพิ่มเติมในวันอังคารด้วยการระงับบริการรถไฟความเร็วสูงและเรือโดยสารเฟอร์รีเชื่อมกับแผ่นดินใหญ่ โดยจะหยุดเดินรถไฟตั้งแต่เที่ยงคืนวันพฤหัสบดี และจะลดเที่ยวบินลงครึ่งหนึ่ง

    สำนักข่าวทาสของรัสเซียอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่นในภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซียว่า ทางการสั่งปิดด่านชายแดนติดกับจีนไปจนถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์

    ส่วนหลายประเทศที่มีพลเมืองอยู่ที่อู่ฮั่นได้เตรียมแผนอพยพคนของตนแล้ว แต่ยังประสบปัญหาด้านลอจิสติกส์และกฎระเบียบ

    รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศส่งเที่ยวบินเช่าเหมาลำมาจีนช่วงค่ำวันอังคาร เพื่ออพยพพลเมืองญี่ปุ่นราว 1 ใน 3 ของ 650 คนที่อยู่ที่นั่นในวันพุธ ขณะที่สหรัฐส่งเที่ยวบินเหมาลำมารับเจ้าหน้าที่สถานกงสุลและพลเมืองส่วนหนึ่ง โดยคาดว่าจะเดินทางออกจากอู่ฮั่นได้ในวันพุธเช่นกัน.