การปะทะของคนสองรุ่น: Clash of Generations


เพิ่มเพื่อน    

 

         คนซ้ายคือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ชื่อ สตีเฟน มนูชิน อายุ 57

                คนขวาชื่อ เกรตา ทุนเบิร์ก เยาวชนสวีเดน แกนนำการรณรงค์ต่อต้านโลกร้อนระดับโลก ปีนี้เธออายุ 17

                ทั้งสองเพิ่งแลกหมัดผ่านสื่อกันอย่างร้อนแรง แม้จะไม่ได้เจอหน้ากันตรงๆ ที่การประชุม World  Economic Forum (WEF) ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์

                แต่กลายเป็นการ "ปะทะระหว่างคนสองรุ่น" หรือ Clash of Generations อย่างชัดแจ้ง

                เพราะเกรตาประกาศว่าผู้นำทางการเมืองและนักธุรกิจระดับโลกที่มารวมตัวกัน ณ ที่ประชุมใหญ่ประจำปียังล้มเหลวในการทำเรื่องสู้โลกร้อนอย่างจริงจัง

                เธอกล่าวหาว่าคนมีอำนาจและมีสตางค์ทั้งหลายดีแต่พูด ไม่ทำจริงจัง

                ในคำปราศรัยที่ดาวอส เกรตาเรียกร้องให้ผู้นำโลกและนักธุรกิจกับมหาเศรษฐีทั้งหลาย จงลงมือเลิกการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลที่เป็นสาเหตุแห่งวิกฤติโลกร้อน "ทันที"

                เพราะที่ผ่านมามีแต่คำสัญญาจากรัฐบาลและผู้นำองค์กร แต่เอาเข้าจริงๆ ก็ไม่ค่อยได้ทำอะไรที่เป็นรูปธรรมเลย

                วันต่อมารัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ ออกมาแสดงความเห็นในทำนองดูถูกเกรตา ว่าเธอเป็นเพียงเด็กไร้เดียงสา มีแต่ความรู้สึก แต่ไม่มีความรู้เพียงพอ

                "เธอเป็นหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์หรือ? เธอคือใคร? ผมงงอยู่นะ" นายมนูชินตอบนักข่าวเมื่อถูกถามถึงเสียงเรียกร้องของเกรตาที่เวทีนานาชาติ

                ว่าแล้วรัฐมนตรีคลังมะกันก็บอกต่อว่า

                "ผมขอให้เธอไปทำปริญญาทางเศรษฐศาสตร์ก่อน แล้วจึงมาให้คำแนะนำผู้นำโลกทั้งหลาย"

                แน่นอนว่าเมื่อผู้ใหญ่พูดจาเหยียดหยามเด็กที่เป็นที่ยอมรับของหลายๆ วงการในโลกจนได้รับเลือกเป็น "บุคคลแห่งปี" ของนิตยสารไทม์ล่าสุด ก็ต้องเป็นเรื่องเป็นราวทันที

                นายมนูชินออกมาแก้ตัวเป็นพัลวันในวันต่อมาว่า "ผมพูดหยอกเล่น ไม่ใช่เรื่องจริงจัง"

                แต่เขาก็ยังพยายามจะพูดจาเสียดสีเกรตา คล้ายๆ กับจะบอกว่าเธอเป็นเพียง "เด็กเมื่อวานซืน"  เท่านั้น

                "หลังจากที่เธอได้เรียนวิชาเศรษฐศาสตร์ในระดับมหาวิทยาลัยแล้ว เธอก็จะสามารถมาอธิบายให้พวกเราฟังได้ว่าเธอต้องการจะบอกอะไรผู้ใหญ่อย่างพวกเรา"

                พูดอย่างนี้แปลว่าไม่สนใจจะฟังเนื้อหาข้อเสนอของเยาวชนคนนี้ ที่สามารถปลุกกระแสนักเรียนนักศึกษาเกือบทั่วโลกให้ลุกขึ้นมารวมตัวกัน เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลและผู้หลักผู้ใหญ่ทั่วโลกเอาจริงเอาจังกับการแก้ปัญหาโลกร้อนอย่างเป็นรูปธรรมเสียที

                เธอพูดในปาฐกถาวันนั้นว่า

                "ผู้ใหญ่วันนี้กำลังสร้างวิกฤติให้คนรุ่นของข้าพเจ้า ดิฉันอยากรู้ว่าคุณจะบอกลูกๆ ของคุณอย่างไร ว่าคุณได้ล้มเหลวในเรื่องนี้ และปล่อยให้พวกเขาต้องเผชิญกับความวุ่นวายด้านสภาวะแวดล้อมของอากาศ ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกคุณทำขึ้นโดยที่ไม่ตระหนักถึงอันตรายที่เกิดขึ้น"

                พอนักข่าวถามเกรตาว่ารู้สึกอย่างไรกับคำส่อเสียดของรัฐมนตรีสหรัฐฯ คนนี้ เธอบอกว่า "เราไม่อาจจะสนใจกับเรื่องอย่างนี้ และถ้อยคำดูถูกเหยียดหยามของท่านก็ไม่มีผลต่อดิฉันและนักเคลื่อนไหวทั้งหลายที่ถูกวิพากษ์อย่างนี้อยู่เป็นประจำ"

                เกรตาเป็นเด็กฉลาด มีความมุ่งมั่น และได้ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องโลกร้อนอย่างรอบด้าน

                เธอเริ่มต้นด้วยการประกาศชักชวนเพื่อนนักเรียนเดินออกจากห้องเรียนทุกวันศุกร์ ไปยืนหน้ารัฐสภาสวีเดนเพื่อประท้วงผู้นำทางการเมืองระดับชาติที่ยังไม่ทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องวิกฤติโลกร้อนอย่างจริงจังเสียที

                การรณรงค์แนวนี้ขยายวงไปอีกหลายประเทศ สร้างความตระหนักให้คนรุ่นหลังเกี่ยวกับปัญหามลพิษโลกร้อนที่หนักหน่วงรุนแรงขึ้นตลอดเวลา

                เธอโต้รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ด้วยการบอกว่า

                "ดิฉันคิดว่าไม่จำเป็นต้องมีปริญญาทางด้านเศรษฐศาสตร์ก็ควรจะรู้ว่า งบที่ใช้ในการลดคาร์บอนในชั้นบรรยากาศกับเงินอุดหนุนและลงทุนในเชื้อเพลิงฟอสซิลนั้นมันต่างกันราวฟ้ากับดิน"

                เกรตาท้าทายเหล่าบรรดาผู้นำโลกที่ยังไม่เชื่อในเรื่องโลกร้อนว่า

                "งั้นคุณก็ต้องเลือกว่าจะทำอย่างไรจึงจะลดโลกร้อนอย่างเป็นรูปธรรม หรือไม่คุณก็ต้องหาทางอธิบายให้คนรุ่นต่อไปว่าพวกคุณกำลังส่งผ่านหายนะของโลกไปถึงคนรุ่นพวกเขาอย่างไร"

                รัฐมนตรีคนนี้บอกว่าเขาก็ชอบขับรถไฟฟ้าเทสลา แต่ไม่มีใครสนใจว่าไฟฟ้าที่ใช้นั้นมีกระบวนการผลิตอย่างไร และมีประเด็นสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับระบบการเก็บไฟฟ้าและแบตเตอรี่อย่างไร

                ใครจัดเวทีให้รัฐมนตรีวัย 57 กับเยาวชนนักเคลื่อนไหววัย 17 ถกแถลงเรื่องโลกร้อนจะเป็นพระคุณยิ่ง! 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"