28ม.ค.63- นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (รมว.อว.) กล่าวภายหลังการประชุมระดมสมองเพื่อนำองค์ความรู้ในมหาวิทยาลัยมาช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาการะบาดของไวรัสโคโรน่า ว่า จากสถานการณ์ดังกล่าว ตนเชื่อว่ากระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และองค์ความรู้จากคณะแพทยศาสตร์ในมหาวิทยาลัย รวมถึงสถาบันวิจัยต่างๆ ที่เรามีเพียงพอที่จะรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้ ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญและน่ากลัวกว่าไวรัส ก็คือไวรัล ที่มีการพูดถึงในโลกออนไลน์ ซึ่งเรื่องนี้มีข้อมูลมากมายที่บางเรื่องไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าจริงไม่ และอาจจะส่งผลให้เกินความหวาดกลัวขึ้น ซึ่งทางรัฐบาลได้ยืนยันแล้วว่าทุกอย่างอยู่ในสภาวะที่ควบคุมได้ ทั้งนี้จากกรณีนิสิตนักศึกษาที่อยู่ในประเทศจีน จำนวน 58 คน ซึ่งทางกระทรวงต่างประเทศกำลังเร่งประสานกับจีน ซึ่งตนเชื่อว่าจะมีความคืบหน้าเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจจำนวน นักศึกษาจีนในประเทศไทย มีทั้งหมด 11,738 คน แบ่งเป็น สถาบันอุดมศึกษารัฐ 3,192 คน และสถาบันอุดมศึกษาเอกชน 8,541 คน และสถาบันอุดมศึกษานอกสังกัด 5 คน ส่วนสถาบันอุดมศึกษาที่มีนักศึกษาจีนศึกษาอยู่มากที่สุด 3 อันดับแรก คือ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ 2,884 คน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ 978 คน และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 756 คน
 
นายสุวิทย์ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่มีนักศึกษาล่ารายชื่อร้องเรียนสถาบันอุดมศึกษา เนื่องจากเปิดให้นักท่องเที่ยวชาวจีนมาท่องเที่ยวถ่ายรูป และเปิดหอพักของนักศึกษาเป็นโรงแรม หรือห้องพักรายวัน จนนักศึกษาเกิดความตื่นตระหนกว่าจะมีการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าวนั้น เรื่องนี้อย่างที่ทราบว่ารัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสได้ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ การเปิดสถาบันอุดมศึกษาให้แหล่งท่องเที่ยว ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อผู้เรียน และขัดวัตถุประสงค์ในการจัดตั้ง ดังนั้นในเบื้องต้นตนได้สั่งการให้สถาบันอุดมศึกษาดังกล่าวชี้แจ้งข้อเท็จจริงภายใน 7 วัน ทั้งนี้ภายใน 7 วันยังไม่สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์การจัดตั้งได้ เราก็จะมีมาตรการทางกฎหมายในการดำเนินการ

“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ และเราสามารถรับมือกับไวรัสได้อย่างดี ผมมองว่าเราต้องใช้ความเข้าใจที่ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ให้ความเข้าใจประชาชน นอกจากนี้ อว.ยืนยันว่าจะให้ความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ สธ. พร้อมทั้งเดินหน้าทำงานวิจัยเชิงรุกในเรื่องต่างๆ เหล่านี้นอกเหนือจากไวรัสโคโรน่าด้วย”รมว.อว.กล่าว