ช่วง 7 วันอันตราย ปีใหม่ 63 ที่ผ่านมา ข้อมูลอุบัติเหตุจากศูนย์ป้องกันอุบัติเหตุทางถนน แจ้งว่าอุบัติเหตุทางถนนลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วจาก 3,791 ราย เหลือเพียง 3,421 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุลดลงจาก 463 ราย เหลือเพียง 373 ราย ลดลงถึงร้อยละ 19 สาเหตุของอุบัติเหตุเนื่องมาจาก อันดับ 1 เมาสุรา อันดับ 2 ใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด

เห็นตัวเลขภาพใหญ่แล้วน่าปลื้มใจมาก ด้วยความเอาใจใส่ของตำรวจจราจรทุกนาย ภายใต้การกำกับดูแลของท่านพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพลตำรวจโทดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ลงมาคลุกกับปัญหา ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายลดอุบัติเหตุ จนสามารถทำให้อุบัติเหตุลดลงได้

ข้อมูลอีกชุดหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน มาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในช่วงดังกล่าว ตำรวจภูธรทุกพื้นที่ขยายผลจากการจับกุมผู้ขับขี่วัยเยาว์เมาสุรา แล้วตามไปจับกุมผู้ที่ขายสุราให้เด็ก รวมแล้ว 25 ราย ดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในข้อหาขายสุราให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี และพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กฯ ซึ่งมีความผิดฐานขายสุราให้เด็กด้วยเช่นกัน แต่โทษตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูงกว่า คือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นำตัวไปฟ้องยังศาลแขวงจังหวัดต่างๆ และถูกศาลพิพากษาลงโทษกันทั่วหน้า อยากเห็นตำรวจทุกๆ พื้นที่เอาจริงเอาจังแบบนี้

ผมกำลังจะอธิบายวลีที่จั่วหัวไว้เป็นชื่อเรื่องบทความ Chain of Responsibility หรือ ห่วงโซ่แห่งความรับผิดชอบ ซึ่งในที่นี้หมายถึง การกระทำผิดของวัยรุ่นที่เป็นผลมาจากการละเลยหรือการหาประโยชน์ของผู้ใหญ่ ผู้ที่ละเลยหรือหาประโยชน์ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำนั้นด้วย

ผู้ปกครองที่มีรถจักรยานยนต์ รู้ว่าลูกหลานวัยรุ่นไม่มีใบขับขี่ ขาดทักษะการขับขี่ แต่ยังยอมให้ลูกหลานนำรถจักรยานยนต์ไปขี่ได้ ผู้ปกครองท่านนั้นย่อมรู้ว่า ท่านได้ยื่นเครื่องมือฆ่าตัวตายให้กับลูกหลาน เมื่อตำรวจจราจรจับกุมเด็กไม่มีใบขับขี่ ต้องขยายผลมาถึงตัวเจ้าของรถแล้วแจ้งข้อหา ยินยอมให้บุคคลผู้ไม่ได้รับอนุญาตขับรถของตน ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท รวมทั้งความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กในข้อหา ส่งเสริม ยินยอม ให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรฯ ซึ่งมีโทษทั้งปรับและจำคุกไม่เกิน 3 เดือน อีกส่วนหนึ่งด้วย

ข้อมูลจากศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนนชี้ว่า เด็กวัยรุ่นไทยตายด้วยจักรยานยนต์วันละ 7 ราย เป็นอันดับหนึ่งของโลก มีใครไม่รู้ว่าเป็นปัญหาใหญ่ เด็กตายก็เหมาว่าเพราะเด็กประมาทอย่างนั้นหรือ

ในช่วงเทศกาลต่างๆ เด็กวัยรุ่นขอจักรยานยนต์พ่อแม่ไปสังสรรค์กับเพื่อน ขี่จักรยานยนต์ไปจอดหน้าร้านขายสุรา เจ้าของร้านเห็นว่าเป็นเด็กก็ขายให้ ก็เคยขายให้อยู่เป็นประจำ ก่อนหน้านี้พ่อแม่ก็เป็นคนใช้ให้ขี่จักรยานยนต์มาซื้อด้วยซ้ำ ถ้าลูกหลานตายไป ใครต้องรับผิดชอบ ทุกการกระทำที่ขาดความตระหนักมีผลร้ายตามมาเสมอ

สำหรับตำรวจ ถ้าบังคับใช้กฎหมายตามหลัก Chain of Responsibility อย่างจริงจัง ชาวบ้านจะสรรเสริญ

ห่วงโซ่แห่งความรับผิดชอบ ท่องให้ขึ้นใจ ทั้งผู้ปกครอง ร้านขายสุรา ชุมชน หยุดหยิบยื่นเครื่องมือฆ่าตัวตายให้กับเด็ก.

พันตำรวจเอกสุรศักดิ์ เลาหพิบูลย์กุล

 อาจารย์กองบัญชาการศึกษา