6 พรรคฝ่ายค้านขอถกอีกรอบเลื่อนเคาะเป้าซักฟอก เมินส่งเทียบเชิญ "เศรษฐกิจใหม่" แต่แบ่งโควตา "มิ่งขวัญ" จองกฐิน "สมคิด" โวข้อมูลหลั่งไหลมาเพียบ มีใบเสร็จมัด "บิ๊กตู่" ย้ำยื่นญัตติ 29 ม.ค. "โภคิน" แนะสภาลงมติรับร่าง พ.ร.บ.งบ 63 ใหม่ "ศรีสุวรรณ" ยื่น ป.ป.ช.ฟัน 4 ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน อนค.ดิ้นร้องศาล รธน.ยืดแก้ต่างคดียุบพรรค ก่อนหอบหลักฐานส่งวันสุดท้าย
ที่ทำการพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 27 มกราคม นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน, น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย, นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน), นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่, นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ, นพ.เรวัต วิศรุตเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย, นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ, นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย ร่วมประชุมเพื่อกำหนดกรอบประเด็นและรัฐมนตรีที่จะถูกยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ
นายสุทินเปิดเผยก่อนการประชุมว่า หัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านได้ประชุมนัดพิเศษร่วมกันเพื่อสรุปตัวบุคคลที่จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ จากนั้นในช่วงบ่ายจะนำเข้าหารือกับวิปพรรคฝ่ายค้าน โดยข้อมูลที่จะนำมาอภิปรายจะมีทั้งประเด็นที่ได้รวบรวมไว้ก่อนหน้านี้ และข้อมูลใหม่ที่สะท้อนให้เห็นถึงภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรีที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้หลายเรื่อง เช่น การป้องกันปัญหาฝุ่น PM2.5, การป้องกันปัญหาไวรัสโคโรนา, ปัญหาการทุจริต และการออกกฎหมายงบประมาณ
ส่วนข้อเสนอที่ให้มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 สามวาระรวด หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเป็นโมฆะจากกรณี ส.ส.เสียบบัตรแทนกันนั้น ฝ่ายค้านทั้งหมดจะหารือกันก่อนว่าพร้อมจะสนับสนุนแนวทางดังกล่าวหรือไม่ แต่ยอมรับว่าปกติแล้วกฎหมายที่จะให้ความเห็นชอบผ่าน 3 วาระรวดได้ จะต้องเป็นเรื่องคอขาดบาดตายเท่านั้น และต้องมีเหตุผลเพียงพอที่จะอธิบายต่อสาธารณะได้ เชื่อว่าร่างกฎหมายงบประมาณปี 2563 จะเป็นโมฆะหลังเกิดปัญหามีการเสียบบัตรแทนกัน ซึ่งฝ่ายค้านจะรอดูคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และเดินหน้าเพื่อเอาผิดทางอาญา กับผู้ที่เสียบบัตรลงคะแนนแทนกันด้วย
นายสมพงษ์กล่าวในที่ประชุมตอนหนึ่งว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านที่จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เดิมกำหนดไว้วันที่ 29 ม.ค. แต่ถ้าจะมีการเลื่อนออกไปจากเดิม 1-2 วันก็ไม่น่ามีปัญหา และคงจะไม่กระทบกับกรอบวันของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งในการประชุมเราจะร่วมกันกำหนดร่างญัตติที่เตรียมนำไปยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ
นายภูมิธรรมกล่าวว่า การอภิปรายครั้งนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านตั้งใจให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมตรวจสอบรัฐบาลด้วย ไม่ได้หวังพึ่งมือในสภาเพียงอย่างเดียว รัฐบาลแม้จะเป็นเสียงข้างมากแต่อยู่ในภาวะเสียงปริ่มน้ำ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมีขึ้นฝ่ายค้านจะชี้ให้ประชาชนได้ประจักษ์ว่า การบริหารงานที่ผ่านมาของรัฐบาลประยุทธ์ก่อให้เกิดประสิทธิภาพหรือไม่ ทั้ง 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านมีความพร้อมมีความเข้าใจร่วมกัน ในการประชุมครั้งนี้จะได้ร่วมหารือถึงบุคคลที่จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ชื่อที่เสนอมาซ้ำกันหรือไม่คงจะมีการแลกเปลี่ยนพูดคุยตกลงกัน เพื่อทำให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมีขึ้นเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น
นายธนาธรกล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่ยินดีรับกรอบที่พรรคร่วมฝ่ายค้านได้หารือร่วมกัน ที่จะร่วมอภิปรายถึงความล้มเหลวของรัฐบาลนี้ซึ่งได้นำพาประเทศไปผิดทิศผิดทาง เราจะร่วมทำหน้าที่แทนประชาชนตรวจสอบการทำงานรัฐบาล กรอบที่ฝ่ายค้านได้คุยกันมีทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาสังคม ประเด็นที่อาจจะมีการทุจริตคอร์รัปชัน การอภิปรายที่จะมีขึ้นในเดือน ก.พ. พรรคร่วมฝ่ายค้านจะชี้ให้เห็นถึงความไม่มีประสิทธิภาพ ความล้มเหลวของรัฐบาลนี้ ถ้าเปิดใจกว้างรับฟังอย่างไม่มีอคติ จะรู้ว่าเราไม่อาจไว้วางใจให้รัฐบาลประยุทธ์ได้บริหารประเทศต่อไป
โวมีใบเสร็จมัด 'บิ๊กตู่'
นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า พรรคจะร่วมตรวจสอบประเด็นการบริหารงานที่ขาดจริยธรรมในหลายประการ มีทั้งหลักฐานที่จับต้องได้ เพราะได้รับข้อมูลจากประชาชนและฝ่ายราชการเข้ามาเยอะมาก ขณะเดียวกันหลังยึดอำนาจเมื่อ 22 พ.ค.57 รัฐบาลระบุจะปฏิรูปประเทศในหลายๆ ด้าน แต่กลับไม่ได้มีการปฏิรูปอะไรเลย ถือเป็นความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เราจะชี้ให้เห็นสิ่งที่รัฐบาลพูดอย่างทำอย่าง ขอให้ประชาชนร่วมติดตาม ฝ่ายค้านจะพูดในสิ่งที่เป็นจริงมีประโยชน์ มีข้อเท็จจริงที่จับต้องได้
นพ.เรวัตกล่าวว่า ได้รับแจ้งจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย จะอภิปรายนายกฯ, นายวิษณุ เครืองาม, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เรื่องของนายกฯ คือการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วน นอกจากนี้ยังมีตนที่จะอภิปราย ที่จะชี้ให้เห็นตั้งแต่การบริหารงานของประยุทธ์ 1 มาถึงการสืบทอดอำนาจจนมีรัฐบาลประยุทธ์ 2 ในการตั้ง ส.ว. แล้วคนเหล่านั้นมาโหวตเลือกให้ได้เป็นนายกฯ อีก รวมถึงการทำงานของรัฐบาลที่เอื้อต่อบริษัททุนขนาดใหญ่ โดยเจาะลงไปที่โครงการอีอีซี โดยมีการใช้อำนาจตามมาตรา 44 เป็นต้น
นายสงครามกล่าวว่า การอภิปรายครั้งนี้แตกต่างจากการอภิปรายจากที่แล้วมา เพราะมีข้อมูลหลั่งไหลมาให้ฝ่ายค้านเยอะมาก เชื่อว่าหลังการอภิปรายถ้านักการเมืองฝ่ายรัฐบาลยังยกมือให้กันอีก ไม่รู้จะว่าอะไรแล้วที่ยังทนได้ เรื่องที่มีก็เด็ดๆ ไม่ต้องทวงถามใบเสร็จ เพราะเรามีใบเสร็จที่พร้อมจะนำไปแสดงแน่นอน
นายนิคมกล่าวว่า ในการอภิปรายมีข้อมูล ถ้าเปิดไปคงทำให้ประยุทธ์อยู่ไม่ได้ ขอให้ช่วยกันติดตามการอภิปราย เชื่อว่าหลังการอภิปรายจะมีเสียงจากรัฐบาลบางพรรคมายกมือให้ฝ่ายค้านด้วย นอกจากนี้เตรียมเสนอในที่ประชุมให้อภิปรายรัฐมนตรีเพิ่มเติม ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ซึ่งแล้วแต่ที่ประชุมจะว่าอย่างไร
ขณะที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรัฐบาลประยุทธ์ พรรคร่วมฝ่ายค้านยังคงยึดวันที่ 29 ม.ค.เป็นหลัก เวลานี้คณะทำงานที่ทำหน้าที่ยกร่างญัตติกำลังขัดเกลาเนื้อหาที่จะต้องบรรยายถึงรัฐมนตรีที่ถูกยื่นอภิปราย นอกจาก 5 คนหลักแล้ว รัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายเพิ่มนั้นพรรคเพื่อไทยยังต้องหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอีกครั้ง คงจะได้ข้อสรุปอย่างแน่นอนในช่วงเย็นวันที่ 28 ม.ค.
ส่วนสาเหตุที่ยังสรุปไม่ได้เนื่องจากตอนนี้มีข้อมูลหลั่งไหลเข้ามาเยอะ ทำให้ต้องร่วมกันพิจารณาว่า ข้อมูลที่ได้มาลงลึกไปถึงตัวรัฐมนตรีคนนั้นๆ จริงหรือไม่ รวมทั้งเวลานี้เรากำลังจัดสรรผู้อภิปราย ที่พรรคร่วมฝ่ายค้านแต่ละพรรคแสดงเจตจำนงเข้ามามาก เอาแค่พรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ มีผู้ขออภิปรายรัฐมนตรีพรรคละไม่ต่ำกว่า 10 คน ยืนยันว่าสัปดาห์นี้พรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจได้อย่างแน่นอน
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า ความคืบหน้าในการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีในส่วนที่เหลือ ในกลุ่มโฟกัสไปที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่เวลานี้มีพรรคร่วมฝ่ายค้าน 2 พรรคแสดงเจตจำนงว่าต้องการอภิปราย พล.อ.ประวิตรให้ได้ โดยมีข้อมูลหลักฐานที่ยึดโยงมาอย่างชัดเจน ขณะที่คนอื่นๆ อาทิ นายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กำลังรอเคาะข้อมูลในชั้นสุดท้ายว่าข้อมูลที่ได้มาชัดเจนมากน้อยขนาดไหน
ฝ่ายค้านเมินเศรษฐกิจใหม่
ทั้งนี้ ในการหารือพรรคร่วมฝ่ายค้านครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยไม่ได้เชิญพรรคเศรษฐกิจใหม่มาร่วมประชุมด้วย เนื่องจากไม่ค่อยมั่นใจในท่าที มีเพียงนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อคนเดียวที่ขอเวลาอภิปรายรองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจนานนับชั่วโมง และยืนยันจะร่วมโหวตไปในทิศทางเดียวกับ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน ขณะที่ ส.ส.คนอื่นยังไม่มีการส่งสัญญาณมา จึงมีความกังวล ประเมินว่าการโหวตไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีหลังการอภิปรายอาจมีเสียงแตกไปทั้งซีกรัฐบาลและซีกฝ่ายค้าน
ทางด้านนายโภคิน พลกุล คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่มีความกังวลว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 อาจเป็นโมฆะจากกรณี ส.ส.เสียบบัตรแทนกันว่า กรณีนี้ถือว่าการตรากฎหมายขัดกับหลักรัฐธรรมนูญ ที่ระบุให้การลงคะแนนในแต่ละขั้นตอนต้องเป็นไปโดยสุจริต ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยไว้แล้ว ประเด็นที่ถกเถียงกันไม่ใช่ใครเสียบบัตรแทนใครหรือช่องลงคะแนนน้อย แต่เป็นการลงคะแนนโดยสุจริตใช่หรือไม่ ซึ่งแนวทางแก้ไขคือ รัฐบาลควรนำร่าง พ.ร.บ.ที่ผ่านสภาแล้วกลับมาเสนอเข้าสภาเพื่อให้ลงมติใหม่ตั้งแต่วาระที่ 1 เพื่อดำเนินการให้ถูกต้อง เชื่อว่าหากขอความร่วมมือกันจะใช้เวลาในการพิจารณาไม่มากและจะสง่างามกว่า โดยเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องรอคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญ รัฐบาลสามารถดำเนินการได้ทันที
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องเพื่อให้ ป.ป.ช.สอบเอาผิดนายฉลอง เทอดวีระพงศ์ และนางนาที รัชกิจประการ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ซึ่งไม่อยู่ในการประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2563 แต่กลับมีชื่อร่วมลงมติในที่ประชุมสภาเมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนั้นยังมีพฤติการณ์เสียบบัตรลงคะแนนแทนกันของนายสมบูรณ์ ซารัมย์ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย และ น.ส.ภริม พูลเจริญ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จึงอาจเข้าข่ายการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 185 และอาจเข้าข่ายทุจริตต่อหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (พ.ร.ป.ป.ป.ช.) พ.ศ.2561 และเข้าข่ายการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงในข้อ 7 และข้อ 8
ทั้งนี้หาก ป.ป.ช.วินิจฉัยว่ามีความผิดตามข้อห้ามข้างต้นอาจนำไปสู่การสิ้นสุดของตำแหน่ง ส.ส. ตามมาตรา 101 (7) ของรัฐธรรมนูญ 2560 และอาจมีความผิดตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช. มาตรา 28 (1) และมาตรา 30 วรรคแรก ประกอบมาตรา 172 ได้ อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุดังกล่าวสมาคมฯ จึงจะต้องมาร้องเรียนให้ ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนและวินิจฉัย เพื่อยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป
ที่ศาลรัฐธรรมนูญ น.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ พร้อมนายอนาวิล รัตนสถาพร ส.ส.ปทุมธานี เขต 3 พรรคอนาคตใหม่ เดินทางมายื่นหนังสือในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง? (กกต.) ส่งคำร้องให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ จากกรณีเงินกู้ 191 ล้านบาท โดยน.ส.จารุวรรณระบุว่า ในฐานะกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ถือว่าเป็นผู้ถูกร้องคดีนี้เช่นกัน จึงขอใช้สิทธิ์ในฐานะผู้ถูกร้อง ขอร้องสอดเข้ามาเป็นผู้ถูกร้องที่ 2 เพื่อขอใช้สิทธิ์ยื่นคำชี้แจง และแก้ข้อกล่าวหาทั้งแสดงพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อใช้สิทธิ์ในการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่และเพื่อความเป็นธรรม
รวมทั้งขอขยายเวลาการยื่นเอกสารชี้แจงต่อศาลออกไปอีก 30 วัน เนื่องจากได้ไปยื่นขอคัดสำนวนคำวินิจฉัยของคณะกรรมการไต่สวนสืบสวนตามข้อกล่าวหา ซึ่งได้ทวงถามกับ กกต. 3 ครั้ง แต่เลขาธิการ กกต.ไม่ให้ตามร้องขอ จึงขอใช้สิทธิ์อุทธรณ์คำสั่งต่อสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา เชื่อว่าหลักฐานที่ขอเมื่อได้มาจะเป็นสิ่งสำคัญมากในการสู้คดี
จากนั้นในช่วงบ่าย พรรคอนาคตใหม่ได้มอบหมายให้ทีมทนายความเดินทางมายื่นคำชี้แจงและเอกสารแก้ข้อกล่าวหาคดีเงินกู้ ซึ่งครบกำหนดที่ศาลอนุญาตให้ขยายเวลา 15 วันในวันที่ 27 ม.ค.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |