เมื่อวานนี้ผมเขียนถึงข้อเสนอของอาจารย์ปิติ ศรีแสงนาม แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ตอบคำถามของผมว่า “ถ้าท่านเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านจะวางแผนรับวิกฤติการระบาดของโคโรนาไวรัส” จากเมืองจีนอย่างไร
ว่าไปแล้ว 6 ข้อ ยังมีข้อเสนอที่เป็น “แผนปฏิบัติการฉุกเฉิน” ในภาวะการบริหารวิกฤติ หรือ crisis management ดังนั้นครับ
7.ผมจะให้ #ศูนย์แพทย์ทหารอาเซียน (#ASEAN Center Of Military Medicine : #ACMM) ซึ่งอยู่ในความดูแลของกรมการแพทย์ทหารบกเตรียมความพร้อมบุคลากร อาจต้องส่งบุคลากรส่วนหนึ่งไปประเทศจีน ทั้งเพื่อช่วยเหลือบรรเทาสถานการณ์ในจีน และในขณะเดียวกันก็เป็นการสร้างสายสัมพันธ์ Network ที่ดีเอาไว้ เพื่อแน่นอน ทางจีนย่อมมีความรู้ความเชี่ยวชาญมากกว่าในการจัดการกับโรค เราจะได้ Technology Transfer วิธีการรักษา และการบริหารจัดการมาใช้ประโยชน์หากเกิดการระบาดในไทย
โดยงานนี้ต้องมีกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ประสานงาน ในขณะที่บุคลากรอีกส่วนหนึ่งคงต้อง Stand-by พร้อมช่วยเหลือเพื่อนบ้านอาเซียน ซึ่งหลายประเทศมีระดับการพัฒนาที่ต่ำกว่าไทย และไม่มีบุคลากรทางการแพทย์เพียงพอ นอกจากนั้นต้องสำรวจว่าวัสดุอุปกรณ์ช่วยเหลือต่างๆ ที่เก็บไว้ที่ #คลังเก็บสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยของอาเซียนในประเทศไทย (Disaster Emergency Logistics System for ASEAN : #DELSA) ที่จังหวัดชัยนาท ยังมีความพร้อมหรือไม่ หากจำเป็นต้องใช้
8.เราต้องโชว์บทบาทผู้นำในประชาคมอาเซียน ผมจะให้กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ศึกษาแนวทางจากประสบการณ์ที่ผ่านมาในการจัดประชุม #ประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุข #อาเซียนบวกสาม #สมัยพิเศษ ว่าด้วยการเตรียมความพร้อมและรับมือการระบาดของโรค (ถ้าจำเป็นอาจต้องถึงระดับ #ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนบวกสาม สมัยพิเศษ) เพราะการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคที่ดีต้องมีการคัดกรองตั้งแต่ประเทศต้นทางร่วมกับประเทศปลายทาง รวมทั้งต้องมีระบบการรับมือ การถ่ายทอดองค์ความรู้ รวมทั้งการวิจัยและพัฒนาเพื่อหาแนวทางป้องกันและรักษาร่วมกัน
9.ผมจะให้กระทรวงศึกษาทำ #คู่มือ #แผ่นพับ #โปสเตอร์ และสื่อต่างๆ เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ในการป้องกันตนเองจากโรคติดต่อให้กับนักเรียนในโรงเรียนต่างๆ รวมทั้งประชาชนทั่วไปด้วย
10.ผมจะให้ #กรมประชาสัมพันธ์ และขอความร่วมมือจากสื่อต่างๆ ในเรื่องของการสื่อสาร การทำความเข้าใจอย่างถูกต้องเกี่ยวกับสถานการณ์ เพราะในภาวะวิกฤติ Fake News การปลุกกระแส รวมทั้ง #HateSpeech เช่น ต่อต้านนักท่องเที่ยวจีน เกลียดกลัวคนที่อาจจะป่วยด้วยโรคอื่นๆ จนเกิดความรุนแรงจะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ ดังนั้นต้องช่วยกันให้ข้อมูลที่ถูกต้อง มี #Mindset ที่ถูกต้อง รักษาจุดแข็งของไทยเรื่องจิตใจ #Hospitality เอาไว้ให้ได้ เพราะเรายังต้องพึ่งพาการท่องเที่ยว เรายังต้องพึ่งพาชาวต่างชาติอยู่ในอีกหลากหลายมิติ
11.ผมจะขอให้ กทม.และหน่วยงานปกครองท้องถิ่นต่างๆ ออกสำรวจ เรื่อง #สุขลักษณะของชุมชน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่คนจะไปอาศัยอยู่เยอะ เช่น ตลาด โรงหนัง ชุมชนแออัด ว่าระบบการไหลเวียนของอากาศ การทำความสะอาด คุณภาพชีวิตของคนเป็นอย่างไร เพราะโรคทางเดินหายใจจะแพร่ได้ง่ายในที่ที่คนอาศัยกันอยู่อย่างแออัดและมีสุขลักษณะที่ไม่ดี รวมทั้งให้มีการสร้าง #CleanRoom เตรียมการเอาไว้หากมีการแพร่ระบาด เพื่อให้กลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้ป่วย เด็ก คนชรา ได้ใช้ก่อน
12.ผมจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการ #กักตุนสินค้า และ #การคุ้มครองผู้บริโภค ออกตรวจตราระมัดระวังให้ภายในประเทศไทยยังมี #หน้ากากอนามัย #เครื่องกรองอากาศ และ #อุปกรณ์ป้องกันต่างๆ มากเพียงพอให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ โดยไม่มีใครมา #ฉกฉวยโอกาส แสวงหากำไร โขกสับราคา เพราะปัจจุบันเริ่มเห็นแล้วที่เตรียมหาโอกาสโดยการกว้านซื้อสินค้าไปขายต่อทำกำไรที่ประเทศจีน
13.ผมจะเริ่มใช้ #AI และ #Machine Learning ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญทางด้าน #ระบาดวิทยา และ #เศรษฐศาสตร์สาธารณสุข มาวิเคราะห์ข้อมูลการระบาดของ Corona Virus ครั้งที่ผ่านๆ มา โดยเฉพาะ SARS 2002-2003 เพื่อเปรียบเทียบหาความเหมือน ความต่าง หารูปแบบการระบาด เพื่อวางแนวทางในการรับมือ ป้องกัน และรักษาในอนาคต รวมทั้ง #วิเคราะห์ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับทั้งเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
ทั้งหมดนี้เพื่อช่วยรัฐบาลคิดและทำในยามที่ต้องระดมมันสมองของทุกๆ ฝ่ายครับ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |