www.thaipost.net ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" Line ID:@thaipost พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกประเทศไทยวันนี้โดยแท้ ทั้งปัญหาเศรษฐกิจ-การเมือง ที่ค้างคา แล้วยังตามมาด้วยปัญหาที่คนไทยไม่กล้าหายใจอย่างเต็มปอด ทั้งฝุ่นละออง PM 2.5 ทั้งโรคระบาดไวรัสโคโรนา ที่มาจากเมืองจีนจนหวาดเสียวถึงเมืองไทย เพราะบ้านเราเองก็มีชาวจีนจำนวนมาก เหมือนเป็นบ้านพี่เมืองน้องไปแล้ว แต่ขณะนี้ยังดีอยู่ ที่ชาวไทย-ชาวจีนในไทย ส่วนมากยังไม่ติดเชื้อดังกล่าว สิ่งที่น่าห่วงคือมาตรการป้องกันทั้งภาครัฐ -เอกชน จะเข้มแข็งพอในการควบคุมสถานการณ์ได้หรือไม่ ในวันที่ศรัทธาต่อรัฐบาลตกต่ำยิ่ง ...0

                ขนาดที่ “ผู้พิพากษา” ยังฉุนออกมาให้ข่าวถล่มรัฐบาล “ศรีอัมพร ศาลิคุปต์” ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์ บอกผิดหวังและหมดศรัทธารัฐบาลไทย ที่เปิดประตูรับนักท่องเที่ยวจีนให้เข้าประเทศ โดยไม่จำกัดหรือมีมาตรการใดๆ ที่จะคัดกรอง หรือพยายามจำกัดนักท่องเที่ยวจีน เห็นรายได้สำคัญกว่าชีวิต สุขภาพอนามัยของชาวไทย แรงส์สสส ขนาดนี้เชียว ...0

                เอาล่ะ มาตรการของรัฐบาลอาจจะช้าไปหรือไม่ จนท่านต้องมาร่วมถล่มด้วย แต่ ณ วันนี้ ถ้ามองไปยังกระทรวงสาธารณสุขและสนามบินต่างๆ ก็เริ่มมีมาตรการคัดกรองป้องกันมากกว่าเดิม มีการแถลงข่าวชี้แจงมากยิ่งขึ้นต่อสถานการณ์ ก็ถือว่าเริ่มเดินเครื่องแข็งขันกันบ้างแล้ว เพราะอย่างไรก็เป็นเรื่องสุขภาพอนามัยของทุกคน และที่สำคัญคือ บางจุด บางเรื่อง ก็อย่ารีบไปผ่อนปรนมาตรการลงในขณะนี้ ผ่อนนิดเดียวก็ไม่ได้! จนกว่าจะผ่านพ้น เข้าสู่ระยะเวลาปลอดภัยอย่างแท้จริง ไวรัสนั้นมองไม่เห็น ประชาชนวิตกกังวลทั้งสิ้น เหมือนอย่างที่ รมว.สาธารณสุข ก่อนหน้านี้โดนชาวโซเชียลมีเดียถล่มยับไปแล้ว ทำให้เยอะ พูดให้คิดก่อน สำเร็จผ่านพ้นเมื่อไหร่ย่อมดีต่อทุกฝ่ายครับท่าน ...0

                ขณะที่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ก็เดินเครื่องไม่ปล่อยให้ถูกถล่มแล้ว ด้วยการออกแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย กรณี “ไวรัสโคโรนา” และ “ฝุ่น PM 2.5” ร่ายยาวแจงมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาทั้งสอง โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ยกระดับศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข เป็นระดับ 3 ให้สอดคล้องกับความรุนแรงของสถานการณ์ เพื่อติดตามสถานการณ์โรค ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด พร้อมประกาศให้การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองเป็นวาระแห่งชาติ ตอนหนึ่งของแถลงการณ์ระบุหลักการว่า “ชีวิตและสุขภาพของประชาชนสำคัญที่สุด” ย้ำตอบโต้ข้อหาเห็นแก่รายได้นักท่องเที่ยวไปอย่างเร็ว ...0

                “ความยุติธรรมที่ล่าช้าก็คือความไม่ยุติธรรม” สำนวนนี้ปรากฏให้เห็นเป็นรูปธรรมหรือไม่ ในคดีฆ่า “บิลลี่-พอละจี รักจงเจริญ” นักสิทธิมนุษยชนชาวกะเหรี่ยงผู้ถูกอุ้มหาย แม้ว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะขุดเรื่องนี้ขึ้นมาเดินหน้าได้หลังจากพบกระดูก และนำไปตรวจพิสูจน์ด้วยวิธี “ไมโทคอนเดรีย” เชื่อว่าเป็นของ “บิลลี่” หลังหายตัวไปหลายปี จนนำมาสู่การแจ้งข้อหาต่อ “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กับพวก แต่ต้องมาติดขัดในชั้นอัยการที่ไม่เชื่อการตรวจพิสูจน์ดังกล่าวว่ากระดูกเป็นของบิลลี่จริง ครั้นจะตรวจดีเอ็นเอก็ไม่ได้ เพราะกระดูกถูกเผาด้วยความร้อนสูง แช่อยู่ในน้ำนานจนไม่สามารถตรวจดีเอ็นเอที่ยืนยันตัวบุคคลอย่างชัดเจนได้ น่าคิดเหมือนกันว่า ถ้าคดีเดินมาเร็วกว่านี้ พยานหลักฐานยังใหม่ก็จะง่ายกว่าในการค้นหาความยุติธรรม อะไรที่ทำให้เรื่องล่าช้าจนยากเย็นเช่นนี้ ...0

นายชาติสังคม