27 ม.ค. 63 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวจังหวัดอุตรดิตถ์กำลังให้ความสนใจและตื่นตระหนกกับกระแสข่าวทางออนไลน์ว่า โรงพยาบาลศูนย์อุตรดิตถ์ ได้เฝ้าดูอาการของผู้ป่วยหญิงชาว จ.อุตรดิตถ์ 1 ราย อายุราว 27 ปี โดยให้ผู้ป่วยรายนี้นอนพักที่ห้องปลอดเชื้อ หลังจากพบว่า มีอาการไข้ มีน้ำมูก ไอ และจาม ซึ่งเพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศจีน เมื่อช่วงที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาช่วงแรก โดยทางแพทย์ของโรงพยาบาลศูนย์อุตรดิตถ์ กำลังอยู่ระหว่างการตรวจเชื้อว่า จะเป็นเชื้อไวรัสโคโรนาหรือไม่ และผลก็ยังไม่ออกมา ขณะเดียวกันทางโรงพยาบาลก็ให้คนป่วยและญาติที่มาเฝ้าไข้ในโรงพยาบาลได้สวมใส่หน้ากากเพื่อป้องกันเชื้อโรคแล้ว
ผู้ป่วยรายดังกล่าว ก่อนหน้านี้ 2 ปี เคยศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎอุตรดิตถ์ แล้วเดินทางไปฝึกงานที่ประเทศจีน หลังจากฝึกงานเสร็จก็ได้ทำงานต่อที่ประเทศจีน แต่ไม่ยืนยันว่าเป็นมณฑลไหนของประเทศจีน เมื่อมีการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาช่วงแรก ๆ ก็เดินทางกลับมายังประเทศไทยและกลับมาบ้านที่ จ.อุตรดิตถ์แล้วเกิดอาการเป็นไข้ มีน้ำมูก ไอ จาม จึงไปทำการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์อุตรดิตถ์ หลังจากมีการสอบประวัติของผู้ป่วยแล้ว พบว่าเดินทางกลับมาจากประเทศจีน ทางแพทย์โรงพยาบาลศูนย์อุตรดิตถ์ จึงให้ผู้ป่วยแอดมิดด่วน เพื่อทำการรักษาและรอดูอาการว่า อาการป่วยนั้นจะมีเชื้อไวรัสโคโรนาหรือไม่
นพ.อายุส ภมะราภา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ ชี้แจงถึงข่าวดังกล่าวว่า ผู้ป่วยดังกล่าวกลับจากประเทศจีน ที่สนามบินตรวจคนเข้าเมืองตรวจไม่พบเชื้อ แต่พอกลับมาถึงที่อุตรดิตถ์ก็มีอาการไข้ น้ำมูก ไอจาม เบื้องต้นทางโรงพยาบาลได้ให้ญาติและคนไข้แต่ละตึกใส่หน้ากากเพื่อเป็นการป้องกันระวังโรคแล้ว และขอยืนยันว่าโรงพยาบาลยังไม่พบผู้ป่วยหรือคนไข้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา ทั้งนี้ ทางโรงพยาบาล ได้ดำเนินการมาตรการเชิงรุก หาพบคนไข้รายใดที่เป็นไข้หวัดมาจากประเทศจีน จะดำเนินการเฝ้าระวังเอาไว้ก่อน
ทั้งนี้โรงพยาบาลจำเป็นต้องทำการเฝ้าระวังเชิงรุกไว้ให้ดี และรวดเร็ว หากปล่อยให้คนกลุ่มนี้ไปอยู่กับเด็กทั่วไป หรือกลับไปบ้านจะเกิดปัญหาในการแพร่เชื้อกับผู้อื่นได้ ถึงแม้จะเป็นไข้หวัดธรรมดาก็ตาม เนื่องจากอาการคล้ายกันมาก แต่ยังไม่ใช่ผู้ป่วยติดเชื้อโคโรนา เราจำเป็นต้องทำมาตรการเชิงรุกในเชิงวินิจฉัยดีกว่าปล่อยให้เป็นแล้วเผยแพร่หรือแพร่ระบาดจะทำให้ยุ่ง เพราะไข้โคโรนาเป็นกลุ่มไข้หวัดใหญ่เหมือนกันติดผ่านทางเชื้อไวรัส จะแพร่ได้เร็วมาก ตอนนี้ยังไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อโคโรนา และหากพบจะต้องรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาได้รับทราบเป็นลายลักษณ์อักษร เพราะการหาเชื้อต้องใช้เวลา แต่ทางโรงพยาบาลก็ต้องเฝ้าระวังทุกคนที่สงสัย ส่วนใหญ่ที่ตรวจพบเป็นไข้หวัดธรรมดาคือไข้หวัดใหญ่
“ส่วนที่มีการแชร์กันในไลน์ในเฟซออกมา สืบเนื่องจากทางโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ต้องเฝ้าระวังโดยสั่งการกับเจ้าหน้าที่ พยาบาลและแพทย์ของโรงพยาบาลตั้งแต่แรกแล้วว่า หากพบผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัดหรือต้องสงสัย ให้เฝ้าระวังผู้ป่วยก่อนไปถึงห้องฉุกเฉินจะต้องแยกผู้ป่วยออกจากกันทันที คงไม่ปล่อยให้กลุ่มผู้ป่วยไข้หวัดไปตรวจที่ห้องฉุกเฉินหวั่นพบติดเชื้อจริง เราจำเป็นต้องแยกตั้งแต่ช่วงนี้เลย เพื่อป้องกันคนอุตรดิตถ์ที่ยังไม่เป็นไข้หวัดด้วย เพราะไข้หวัดแพร่กันง่าย เป็นการป้องปราบที่รวดเร็ว ดีกว่าปล่อยให้เหตุการณ์เกิดขึ้นก่อนแล้วมาป้องกัน อยากให้ช่วยแก้ข่าวในเรื่องนี้ด้วย คนไข้รายนี้ไม่ได้มาจากเมืองอู่ฮั่นในประเทศจีน โอกาสเป็นมีไม่มาก แต่จำเป็นต้องทำเพราะเป็นมาตรการในการป้องกัน ทำให้คนอุตรดิตถ์ ปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิม” นายแพทย์อายุส กล่าว
ด้านนายเรืองเดช วงษ์หล้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎอุตรดิตถ์ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยราชภัฎอุตรดิตถ์ มีอาจารย์ที่สอนภาษาจีนจำนวน 3 คน และเป็นนักศึกษาที่เดินทางมาจากมณฑลยูนนาน ประเทศจีน 80 คนรวมเป็น 83 คน และทั้งหมดเดินทางมาอยู่ที่มหาวิทยาลัยนานหลายเดือนแล้ว ก่อนที่จะมีการระบาดของไวรัสโคโรนา แอย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ทางมหาวิทยาลัย ก็ประเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) อุตรดิตถ์ มาทำการตรวจสุขภาพทั้ง 83 คนแล้ว ไม่พบว่า มีอาการป่วยแต่อย่างใด แม้จะไม่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ทางมหาวิทยาลัยก็ดูแลชาวจีนทั้ง 83 คนอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ในช่วงนี้ก็ได้ทำความเข้าใจแล้วว่า ไม่ควรออกไปด้านนอกที่มีคนอยู่จำนวนมาก เพราะคนทั่วไปรู้ว่าเป็นชาวจีน เกรงจะเกิดการตกใจกับข่าวที่เกิดขึ้น.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |