'สมชัย' เกรียนจนได้เรื่องปมสะสมสู่คำสั่งปลด!


เพิ่มเพื่อน    

               "สมชัย ศรีสุทธิยากร" ตั้งหลักได้อย่างรวดเร็ว ไม่ออกอาการดรามา ฟูมฟายจนเกินพอดี หลังต้องกลืนเลือดพลางเก็บข้าวของ โบกมือลาเก้าอี้กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไปแบบไม่ทันได้ตั้งตัวตั้งแต่เมื่อค่ำวันอังคารที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา อันเป็นผลจากคำสั่งปลดฟ้าผ่าเมื่อยามค่ำคืนที่ บิ๊กตู่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้อำนาจตามมาตรา 44 สั่งให้สมชัยพ้นจากการเป็น กกต. เรียกได้ว่าเจ้าตัวเก็บของใส่ลังออกจากห้องทำงานแทบไม่ทัน

               ด้วยเหตุผลที่สรุปจากคำสั่งดังกล่าว รวมถึงท่าทีของฝ่าย คสช.-รัฐบาล ทั้งตัว บิ๊กตู่ หรือ วิษณุ  เครืองาม รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย ตลอดจนคนในเครือข่าย คสช.อย่าง มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) หนึ่งในบอร์ด คสช.และที่ปรึกษากฎหมายคนสำคัญของบิ๊กตู่ รวมถึง  พรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.อีกหนึ่งมือกฎหมายคนสำคัญของ คสช. ทั้งหมดที่กล่าวมาล้วน  หมดความอดทน กับ สมชัย  หลังต้องทนมานานกับ ความเกรียน ของ สมชัย ที่มักแสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว หรือการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในลักษณะ ย้อนแย้ง-ตั้งข้อกังขา ต่อการขยับของ คสช.และเครือข่ายทั้ง กรธ.และ สนช.มาตลอด

                โดยเฉพาะหลัง กรธ.และ สนช.จับมือกัน เซตซีโร กกต.ชุดปัจจุบัน ตัว สมชัย ได้แสดงอาการตั้งป้อมชนกับฝ่าย คสช.-สนช.-กรธ.หนักขึ้น ไม่มีลดราวาศอกโดยเฉพาะกับ มีชัย

                จนมาถึงฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ คสช.หมดความอดทน ก็คือเรื่องข้อกฎหมายในร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส.และร่าง พ.ร.บ.การได้มาซึ่ง ส.ว.ที่ สมชัย ออกหมัดใส่ กรธ.-รัฐบาล-สนช.แบบจังๆ หลายรอบ โดยเฉพาะการแสดงความคิดเห็นว่าโรดแมปการเลือกตั้งขยับแน่นอนหากมีการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งขัดกับรัฐบาลและ สนช.ที่พยายามยืนยันว่าโรดแมปไม่ขยับ แต่ สมชัย กลับสวนทุกดอกว่าขยับแน่นอน

                จนสุดท้ายที่ประชุมร่วม ครม.-คสช.เมื่อช่วงเช้าวันที่ 20 มี.ค.ก็ได้ไฟเขียวให้ บิ๊กตู่ ปลด สมชัย  พ้นเก้าอี้ กกต. จนมีการออกคำสั่งปลดในช่วงหัวค่ำวันเดียวกัน

               หลังกางข้อกฎหมายแล้ว การปลด สมชัย ไม่ทำให้การทำงานของอีก 4 กกต.ที่เหลือต้องอยู่ในสภาพสุญญากาศ เพราะก็มีการอุดช่องโหว่เอาไว้ด้วยการ ต่ออายุ ให้ ศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.ที่จะอายุครบ 70 ปีในวันที่ 8 ก.พ.62 และ บุญส่ง น้อยโสภณ ที่จะอายุครบ 70 ปีในวันที่ 7 ส.ค.61 ได้อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมี กกต.ชุดใหม่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่

               อีกทั้งเชื่อว่า คสช.คงประเมินแล้วว่า แม้การใช้มาตรา 44 ไปจัดการปลด สมชัย ที่เป็นกรรมการองค์กรอิสระพ้นจากตำแหน่ง คงเป็นเรื่องทางการเมืองที่ดูไม่ดีนัก เพราะต้องถูกมองว่าแทรกแซงก้าวล่วงองค์กรอิสระ แต่กระนั้น บิ๊กตู่ และวงหารือ คสช.คงพูดคุยกันจนมั่นใจแล้วว่า แม้บทบาทของสมชัย ในการแสดงความเห็นหลายเรื่องที่ผ่านมาจะตรงใจหลายคนในสังคม แต่เมื่อชั่งน้ำหนักดูแล้วเชื่อแน่ว่า  คนไม่ชอบ-สมชัย มีมากกว่า คนชอบ-สมชัย เพราะที่ผ่านมาบทบาทการทำงานของ สมชัย เช่นในช่วงการทำประชามติรัฐธรรมนูญ หรือการแสดงความเห็นต่างๆ ก็ยังไม่ถือว่าโดนใจคนส่วนใหญ่ คนไม่ไลก์สมชัย มีมากกว่าคนไลก์ ยิ่งเมื่อเจ้าตัวไปสมัครเป็น เลขาธิการ กกต. โดยไม่ยอมลาออกจากตำแหน่ง กกต. กระแสสังคมหลายส่วนก็ดูจะไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้

               จากภาพรวมข้อมูลทั้งหมดจึงวิเคราะห์ได้ว่า ความอดทนที่มีต่อ สมชัย หมดลงแล้ว ดังนั้นรัฐบาล-คสช.และเครือข่ายพวกไม่เอาสมชัยที่อยู่ใน คสช.จึงมั่นใจในการปลดฟ้าผ่า สมชัย ครั้งนี้ ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันคือการแทรกแซงองค์กรอิสระ แต่ คสช.คงมั่นใจว่ากระแสไม่เห็นด้วยคงไม่ลุกลาม อีกทั้งยังเป็นการ เขียนเสือให้วัวกลัว เพื่อที่ต่อไปจะได้ไม่มีบุคคลใด องค์กรไหนแสดงท่าทีงัดข้อ ย้อนแย้งกับ คสช. รัฐบาลหรือ สนช.บ่อยๆ เพราะอาจต้องโดนของแข็งอย่างมาตรา 44 แบบเดียวกันนี้!!!

               ทั้งหมดจึงเป็นที่มาของการปลดสมชัย ที่เชื่อว่าฝ่ายรัฐบาลและ คสช.คงใช้เวลาพิจารณาไม่นาน ก็คือคิดไว้นานแล้ว

               การตั้งหลักของสมชัยนับต่อจากนี้ นอกจากหวังลุ้นให้ 4 กกต.ที่เคยทำงานร่วมกันมาร่วม 4  ปีเลือกตนเองไปเป็นเลขาธิการ กกต.แล้ว เขาบอกว่าจะกลับไปทำงานที่พีเน็ต ซึ่งเคยทำมาตั้งแต่สมัยเป็นอาจารย์อยู่ธรรมศาสตร์ และน่าจับตาว่าในอนาคตหลังจากนี้ไป สมชัยอาจจะเลือกเข้าสู่เส้นทาง “นักการเมือง” ก็เป็นไปได้.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"