เห็นว่าปีนี้...ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ท่านประกาศว่าจะมาทุ่มเทกับเรื่องเศรษฐกิจแบบจริงๆ จังๆ ซึ่งก็ขออำนวยอวยพรให้สำเร็จตามความประสงค์ ความปรารถนาด้วยเทอญ เพราะเรื่องเงินๆ ทองๆ เรื่องปากเรื่องท้องของชาวบ้าน ย่อมมีความสำคัญมิใช่น้อย โดยเฉพาะถ้าถูกหยิบมาใช้เป็น เงื่อนไข-ข้ออ้าง ก็อาจส่งผลให้อะไรต่อมิอะไรลุกพรึ่บบ์บ์บ์ ขึ้นมาได้เช่นกัน อย่างเช่นกรณีประเทศอิหร่านที่กำลังปวดเศียร เวียนเกล้า กับเรื่องทำนองนี้พอสมควรทีเดียว...
--------------------------------------------------
คือเกิดการประท้วงตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วโน่นเลย เริ่มตั้งแต่วันพฤหัสฯ ที่ 28 ธันวา. ค.ศ.2017 ที่เมือง Masshad เมืองใหญ่อันดับสองของอิหร่านเขา โดยหยิบเอาเรื่องของแพง หรืออะไรต่อมิอะไรที่แพงๆ ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ มาเป็นปมประเด็นปัญหาก่อนที่จะค่อยๆ ลุกลามไปในแนว แพง-ไม่แพงแต่ขอให้แดงเข้าว่า คือบานปลายไปสู่เรื่องการเมือง เรื่องการตั้งข้อกล่าวหารัฐบาลอิสลามอิหร่าน ว่ามัวแต่ไปยุ่งเรื่องประเทศเพื่อนบ้าน ไปช่วยซีเรีย เยเมน เลบานอน ปาเลสไตน์ จนทำให้เกิดการแซงก์ชั่นประเทศอิหร่าน และนำมาสู่ความล้มเหลวทางเศรษฐกิจในท้ายที่สุด...
--------------------------------------------------
บรรดา ป้ายประท้วง ที่ผู้ประท้วงในแต่ละเมือง ซึ่งมีจำนวนตั้งแต่หลักสิบ หลักร้อย ไปจนถึงหลักพัน ออกมาชู ออกมาโชว์ เพื่อให้สำนักข่าวต่างประเทศได้บันทึกภาพกันให้ถนัดๆ ก็ดูจะออกไปทาง แดงๆ แทบไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความแพง-ไม่แพงมากมายซักเท่าไหร่นัก เช่น Forget Palestine หรือ Not Gaza, not Lebanon, my life for Iran ไปจนถึง Death Rouhani ฯลฯ คือมุ่งด่าทอรัฐบาลอิหร่านที่ชอบไปยุ่งกับเรื่องคนอื่น จนถึงกับต้องเรียกร้องให้ประธานาธิบดีอิหร่าน...จงไปตายเสียเถิด อะไรประมาณนั้น แถมบรรดาม็อบแต่ละม็อบที่มีจำนวนไม่มากนัก แต่ออกจะ ดุ เอาเรื่องอยู่พอสมควร เลยเกิดการปะทะ เกิดการยิงกันไป-ยิงกันมา จนไม่ว่าผู้ประท้วงหรือเจ้าหน้าที่ ต้องล้มตายไม่ต่ำกว่า 10 ศพเข้าไปแล้ว และกลายเป็นข่าวคราวระหว่างประเทศ ต้อนรับปี 2561 ไปโดยปริยาย...
-----------------------------------------------------
การประท้วงในอิหร่านคราวนี้...จึงไม่ถึงกับ อ่านยาก มากมายซักเท่าไหร่นัก ดังที่บรรดาเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของรัฐบาล ไม่ว่าพลเอก Yadollah Javani ที่ปรึกษาสูงสุดของสภา IRGC พลเอก Amir Hatamiรัฐมนตรีกลาโหมอิหร่านออกมาพูดจาในแนวเดียวกัน ประมาณว่า ศัตรู หรือ ฝ่ายตรงกันข้าม กับอิหร่าน ไม่ว่าประเภทสหรัฐ อิสราเอล ไปจนถึงซาอุดีอาระเบีย ต่างมีส่วนพัวพันกับการปลุกระดม ยั่วยุ ให้ประชาชนบางกลุ่มออกมาต่อต้านรัฐบาล เพื่อทำลายเสถียรภาพ ความมั่นคงภายในของอิหร่าน หรือผู้ที่เกาะติด ใกล้ชิดกับสถานการณ์ อย่างนาย Habibollah Khojastepour รองหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของเทศบาลนคร Lorestan ถึงกับออกมาระบุว่า มี สายลับต่างชาติพัวพันกับกรณีการตายของผู้ประท้วง 2 ราย หรือกะจะอาศัยความตายของผู้ประท้วง เป็นตัวปลุกกระตุ้นให้ต้องแดงๆ เข้าไว้นั่นเอง...
--------------------------------------------------------
ซึ่งการอ่าน การแปลความ การประท้วงครั้งนี้ ของบรรดาเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของอิหร่าน...ก็น่าจะไม่ถึงกับ เวอร์ จนเกินไป เพราะสิ่งบอกเหตุหลายต่อหลายอย่างมันชี้ไปในแนวนี้มานานแล้ว เรียกว่า...ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์ลุกฮือในอิหร่านแค่ไม่กี่ชั่วโมง ศัตรู หรือ ฝ่ายตรงข้าม ของอิหร่าน อย่างสหรัฐอเมริกาและอิสราเอล ก็เพิ่งป่าวประกาศความร่วมมือในการจัดตั้ง หน่วยงานผสม ขึ้นมาต่อต้าน ภัยคุกคามจากอิหร่าน อย่างเป็นระบบและเป็นกิจการ โดยประธานาธิบดีอเมริกันและนายกรัฐมนตรีอิสราเอล ร่วมลงนามในข้อตกลงจัดตั้งทีมงานขึ้นมา 4 ทีม เพื่อหาทาง บั่นทอนพลังอำนาจในทุกๆด้านของอิหร่าน อย่างเป็นการเฉพาะ...
---------------------------------------------------------
ทีมแรก...ได้รับการมอบหมายให้ติดตาม ตอบโต้ ทำลายบทบาทของอิหร่าน ทั้งในซีเรีย เลบานอน ฉนวนกาซา และภายในประเทศอิหร่านเอง ทีมที่สองเป็นหน่วยปฏิบัติการจิตวิทยาและข่าวกรอง เอาไว้ทำลายความชอบธรรมในระดับระหว่างประเทศของอิหร่าน โดยเฉพาะกับกรณีโครงการอาวุธนิวเคลียร์ที่ยังคงคาราคาซังอยู่ในทุกวันนี้ ทีมที่สามเอาไว้ตรวจสอบและสกัดกั้นการพัฒนาขีปนาวุธแต่ละชนิดของอิหร่าน โดยเฉพาะด้านการพัฒนาความแม่นยำ ส่วนทีมที่สี่คือทีมที่เอาไว้เผชิญหน้าการยกระดับสถานการณ์ทางทหาร ไม่ว่าจะโดยกองทัพอิหร่าน กลุ่มเฮซบอลเลาะห์ ไปจนถึงขบวนการฮามาส ไม่ต่างไปจากกองกำลังผสมหน่วยรบ-รุก-เร็ว อะไรทำนองนั้น...
------------------------------------------------------
พูดง่ายๆ ว่า...แทบไม่ต่างอะไรไปจาก การประกาศสงครามอย่างไม่เป็นทางการ กับอิหร่านนั่นเอง การหาทางบั่นทอนพลังอำนาจ เสถียรภาพ ความมั่นคงของอิหร่านในทุกๆ ด้าน จึงทำให้ไม่ถึงกับน่าแปลกใจอะไรมากมาย ที่ปัญหาเศรษฐกิจหรือเรื่อง ของแพง ในอิหร่าน ไปๆ-มาๆ มันจึงออกไปทาง แดงๆ ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ และก็ไม่น่าแปลกใจยิ่งขึ้นไปอีก ที่ประธานาธิบดีอเมริกันอย่าง ทรัมป์บ้า ถึงกับลงทุนทวีตข้อความ สนับสนุนผู้ประท้วงชาวอิหร่านแบบตรงไป-ตรงมา เช่นเดียวกับรัฐมนตรีข่าวกรองของอิสราเอล นาย Israel Katz ที่ออกมายุและให้กำลังใจต่อผู้ประท้วงชาวอิหร่าน ด้วยการเปิดเผยอย่างตรงไป-ตรงมาว่า... “ความสำเร็จของประชาชนชาวอิหร่านในการเพรียกหาเสรีภาพและประชาธิปไตย จะช่วยทำให้ภัยคุกคามต่ออิสราเอลหมดไปด้วย...”
------------------------------------------------------
แต่ก็ยังโชคดี...ที่ กองหนุน ของรัฐบาลอิสลามอิหร่าน ยังไม่ได้ ถูกใช้ไปหมดแล้ว ในช่วงวันเสาร์ที่ 30 ธันวาคมที่ผ่านมา ปวงชนชาวอิหร่านที่ยังเห็นดี เห็นงามกับรัฐบาล เลยออกมาอวดโชว์พลังสนับสนุนกันเป็นจำนวนนับล้านๆ ชนิดไม่ต้องอาศัยมาตราฉี่ฉิบฉี่สั่งให้ออกมา-ไม่ออกมา เอาเลยแม้แต่น้อย อันนี้...เลยอาจถือเป็นสิ่งซึ่งน่าเก็บเอาไว้คิดเป็น การบ้าน สำหรับรัฐบาล บิ๊กตู่ ได้บ้าง ส่วนจะคิด-ไม่คิด หรือจะวี้ดๆ แว้ดๆ ต่อไป คงต้องว่าไปตามสะดวกก็แล้วกัน...
-------------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก “Anon” (อีกครั้ง)... “Be nice to the people you meet on the way up because they are the people you will meet on the way down. - จงดีต่อคนที่ท่านพบปะระหว่างกำลังเดินขึ้นข้างบน เพราะระหว่างที่เดินลงล่าง ท่านก็จะพบปะกับเขาเหล่านี้อีก...”