อือมม์ม์ม์...จะเป็นเพราะ ดวงเมือง, ดวงรัฐบาล หรือจะเป็นเพราะ ความชุ่ย, ความขี้เกียจสันหลังยาว ของพวกนักการเมืองบางราย บางประเภท ก็แล้วแต่ ขนาดอุตส่าห์ไปคว้าเอา งูเห่า มาปล่อยให้เลื้อยไป-เลื้อยมา ในสัปปายะสภาสถานถึง 8 ตัว 9 ตัว แต่สุดท้าย...พ.ร.บ.งบประมาณปีพุทธศักราช 2563 ก็ยังดันมี ปัญหา ขึ้นมาจนได้!!!
----------------------------------------------
เพราะบรรดา ลูกอีช่างเสียบ ในเรื่องอื่นๆ ไม่ว่าเสียบตำแหน่ง ส.ส. เสียบตำแหน่งประธาน คณะกรรมาธิการโน่นๆ นี่ๆ เสียบตำแหน่งรัฐมนตรี ผู้ช่วยรัฐมนตรี เลขง เลขา ฯลฯ แต่ดันไม่คิดจะ เสียบ บัตรประจำตัว เวลาเข้าสภาฯ ปรากฏตัวในรัฐสภา หรือระหว่างลงมติในแต่ละเรื่อง แต่ละที ต้องหันไปไหว้วานให้ใครต่อใครเอาไปเสียบกันแทนที่ ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องไม่ถึงกับลำบากยากเย็นอะไรกันมากมาย ก็เลยส่งผลให้ พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ที่ผ่านวาระ 3 ในสภาฯ ไปเรียบร้อยแล้ว แม้จะอืดๆ อาดๆ หนืดๆ หนาดๆ ล่าช้ากันไปบ้าง เลยยิ่งยืดๆ ยาดๆ ช้าซะยิ่งกว่าเต่าคลาน ส่งผลให้เงินงบประมาณที่จะเอามาอัดฉีด ลงทุน อะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไม่ให้ตกสะเก็ดมากมายเกินไปกว่านี้ ก็มีอันต้อง เดี้ยง...กับ...เดี้ยง ไปโดยปริยาย...
------------------------------------------------
กว่าจะรอการพิจารณา ใคร่ครวญ แปลความ ตีความ ในตัวบทกฎหมาย ว่าผลพวงแห่งการผ่านกฎหมายงบประมาณปี 2563 เสร็จสิ้น สมบูรณ์ ไปตามกระบวนการกันแล้วหรือไม่ อย่างไร ก็โน่นแหละ...อาจปาเข้าไปไตรมาสสอง ไตรมาสสาม เอาเลยก็ไม่แน่ บรรดาเงินลงทุนของภาครัฐ ที่เป็นเสมือนหัวเชื้อในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้พอเงยหน้า อ้าปาก ขึ้นมาได้มั่ง ก็คงต้องถูกหมัก ถูกดอง รอเวลาผ่านกระบวนการพาสเจอไรซ์กันอีกซักพักใหญ่ๆ ขณะที่ ภาวะเศรษฐกิจโลก มันคงไม่เปิดโอกาส ไม่รอเวลาให้ใครต่อใครงุ่มๆ ง่ามๆ กันอีกต่อไปแล้ว แม้ว่า สงครามการค้า ระหว่างอเมริกากับจีน จะพอ พักยก ได้บ้าง ในช่วงเวลาที่ยังไม่รู้ว่าสั้นหรือยาวไปอีกเท่าไหร่ สงครามภาษี ระหว่างยุโรปกับอเมริกา ก็ทำท่าชักจะเริ่มๆ ถูกจุดระเบิดขึ้นมาอีกซะแร้นน์น์ การตอบโต้กันทางภาษีระหว่างรถยนต์ยุโรป กับบริษัทสื่อสารไฮเทคของอเมริกา ประเภทกูเกิล เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ มันจะออกมาในแนวไหน อย่างไร ก็ยังมิอาจคาดคำนวณได้ แต่ที่แน่ๆ ก็คือ...แนวโน้มเศรษฐกิจโลกมันคงมีแต่ยุ่งกับยุ่ง ยิ่งกว่าหนวดแขกพันกับฝอยขัดหม้อ ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า...
---------------------------------------------------
ขนาดอดีตกรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ นาง คริสตาลินา จิออร์จิวา (Kristalina Georgieva) ยังต้องออกมาพูด ออกมาเตือน เอาไว้ตั้งแต่เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจโลกช่วงระยะต่อไป มีลักษณะอาการคล้ายเอามากๆ กับภาวะเศรษฐกิจโลกในช่วงเมื่อศตวรรษที่แล้ว หรือช่วง วิกฤติเศรษฐกิจปี ค.ศ.1920 โน่นเลย ส่วนความคล้ายคลึงในลักษณะที่ว่า จะนำไปสู่บทสรุป หรือนำไปสู่จุดจบในแบบไหน อย่างไร แม้ว่านักเศรษฐศาสตร์ระดับโลกรายนี้ จะไม่ได้อรรถาธิบายออกมาชัดๆ แต่ถ้าหากนำเอาเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ช่วงระยะดังกล่าว มาลองเทียบเคียงกันดู ก็ต้องเรียกว่า...หนาวว์ว์ว์ซะยิ่งกว่าหนาวว์ว์ว์ ชนิดหรี่แอร์แทบไม่ทันเอาเลยทีเดียวเจียว...
-------------------------------------------------
เพราะด้วย ผลพวง จากวิกฤติเศรษฐกิจระดับที่เรียกๆ กันว่า The Great Depression ในช่วงระยะนั้นนั่นเอง...ที่กลายเป็นตัวนำมา ซึ่งเงื่อนไขและเหตุปัจจัยในการทำให้โลกทั้งโลก ต้องเข้าสู่สมรภูมิสงครามในระดับ สงครามโลก กันจนได้ ส่วนประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮาทั้งหลาย ที่แม้ว่าเจอเข้ากับแค่ หางเลข ยังมิวายต้องเชือดเนื้อ เถือหนัง ของตัวเอง ต้องตัดลดงบประมาณในการว่าจ้างบรรดาข้าราชการ ต้อง ดุลข้าราชการ หรือต้องปลดระวางข้าราชการและลูกจ้างประจำออกไปเป็นแถบๆ ส่งผลให้ รัฐบาลในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ถูกด่า ถูกประณาม ไม่น้อยไปกว่า รัฐบาลบิ๊กตู่ ในช่วงนี้ จนในอีกประมาณ 10 ปีต่อมา ก็จึงได้เกิดเหตุการณ์ ปฏิวัติ 2475 หรือเกิดการ เปลี่ยนแปลงการปกครอง แบบใหม่หมดทั้งแผง กลายมาเป็นระบอบประชาธิปไตยที่วนไป-วนมาอยู่ในอ่าง ไม่คิดจะไปไหนต่อไหนกับใครเค้าซะที...
---------------------------------------------------
ดังนั้น...ถ้าแนวโน้มความเป็นไปของเศรษฐกิจ มันอาจถึงขั้นนำพาวิกฤติระดับ The Great Depression ให้หวนคืนกลับมาใหม่ อย่างที่อดีตกรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟ ท่านออกมากล่าวเตือนเอาไว้ก่อนล่วงหน้า แล้วประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา หรือรัฐบาลของบิ๊กตู่ ยังคงคลานไป-คลานมา ยังต้องวานกัน เสียบบัตร จนงบประมาณปี พ.ศ.2563 ต้องกลายเป็น ปัญหา ขึ้นมาอีกจนได้ อันนี้...ต้องเรียกว่า ช่างเป็นอะไรที่น่าปวดหัวตายห่าซะเหลือเกิน จนแทบไม่รู้ว่าจะไปต้องโทษ ส.ส. โทษนักการเมือง หรือไปโทษ ดวงเมือง กันดี เพราะกระทั่ง เรื่องที่ไม่น่าจะเป็นเรื่อง ไปๆ-มาๆ ดันกลายเป็นเรื่อง ขึ้นมาซะยังงั้น!!!
---------------------------------------------------
ยิ่งในช่วงหลังๆ นี้...บรรดาผู้ที่ชอบหยิบเอาเรื่อง 2475 มาฟื้นฝอยหาตะเข็บ หรือมาพูดถึงกันบ่อยๆ คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้ว่ามีอยู่เป็นจำนวนไม่น้อย อะไรก็ตามที่หากไป เข้าทางเท้า-เข้าทางตีน ของบรรดาเจ้าพระคุณรุนช่องเหล่านี้ ย่อมมีโอกาสที่ถูกนำมาขยาย มาเพิ่มเติม เสริมแต่ง สร้างเรื่อง สร้างราว ให้ต้องกลายเป็นเรื่อง เป็นราว ขึ้นมาได้ง่ายๆ ยิ่งถ้าหากบรรยากาศความเป็นไปทางเศรษฐกิจในอนาคตเบื้องหน้า มันดันบรรจบครบรอบเวียนกลับไปสู่ยุค The Great Depression ขึ้นมาจริงๆ อันนี้...ก็ยิ่งน่าเหนื่อย น่าปวดหัวตายโหง ตายห่า ยิ่งขึ้นไปใหญ่ ด้วยเหตุนี้...ก็เอาเถอะ คงต้องหาทางออก ทางไป กันอย่างละเอียด ประณีต อย่างมีสติและปัญญาครบถ้วนกันจริงๆ เพราะ อนาคตเราไม่รู้-ถึงไม่รู้ก็ต้องเดินไป นั่นแล...
-----------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก George Santayana...“Those who cannot remember the past are condemned to repeat it. – ผู้ใดที่ไม่จดจำอดีต ผู้นั้นคือผู้มีกรรมที่หนีไม่พ้นจำต้องย้อนรอยแห่งอดีต...
-----------------------------------------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |