ฝุ่น PM 2.5 ไม่มีใครไม่พูดถึง ที่ตอนนี้คนกรุงเทพฯ กำหลังประสบปัญหากันถ้วนหน้า ล่าสุดกรุงเทพมหานครได้มีคำสั่งปิด 437 โรงเรียน เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา 1 วัน ถือว่าปัญหาฝุ่นร้ายแรงจริงๆ สำหรับการแก้ไขปัญหา แม้ว่าก่อนหน้านี้เราจะเคยประสบปัญหาฝุ่นกันมาแล้ว แต่ครั้งนี้ก็ถือว่าหนักเอาการ ถึงขั้นประชาชนคนไทยได้โพสต์ผ่านโลกโซเชียลว่าเกิดอากาศแพ้ฝุ่น ผื่นขึ้น และยังเกิดอาการแสบคอแสบจมูกกันอีกด้วย

                เมื่อย้อนกลับไปดูว่าปัญหาการเกิดฝุ่น PM 2.5 เกิดจากอะไร??? ใครตอบได้ ต้องบอกว่าตอบยากจริงๆ เพราะสาเหตุเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ก็ขึ้นอยู่ที่ว่าหน่วยงานไหนจะลุกขึ้นมาแก้ปัญหาให้เด็ดขาด ล่าสุด "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคม ได้ออกมาพูดถึงมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้นำมาหารือร่วมกันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และต้องประกาศเป็นวาระแห่งชาติ

                โดยได้มอบให้รองนายกรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งเป็นประธาน 1 คน เพื่อบูรณาการกระทรวงต่างๆ มาทำงานร่วมกัน เช่น กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น มากำหนดมาตรการและแผนระยะสั้น กลาง ยาวร่วมกัน

                ในส่วนของกระทรวงคมนาคม มีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เป็นผู้มีหน้าที่โดยตรง และกำชับกับนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีขนส่งไปแล้วว่า ให้กำกับดูแลอย่างจริงจัง จัดแถลงข่าวทุกวัน และต้องนำผลการปฏิบัติงานมารายงานให้ทราบด้วย ไม่ว่าจะเป็นมาตรการแก้รถควันดำ ถ้าไม่ผ่านต้องไม่ให้วิ่ง ไม่ว่าจะเป็นรถของ ขสมก. หรือ บขส. แต่ต้องฝากประชาชนด้วยว่า ต้องช่วยกันทุกคน ถ้ารู้ว่ารถของท่านทำให้เกิดมลภาวะ นำรถไปตรวจเช็กได้หรือไม่ แล้วดำเนินการแก้ไข

                ส่วนกรณีที่กระทรวงทรัพยากรฯ เสนอให้มีมาตรการห้ามรถบรรทุกขนาด 10 ล้อขึ้นไป วิ่งบน ถ.กาญจนาภิเษกในวันคี่ และควบคุมเวลาการวิ่งในวันคู่ รวมถึงการเสนอให้มีมาตรการจำกัดรถยนต์เข้าเมืองนั้น ถือเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้แสดงความเห็น แต่จะเห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าวหรือไม่ ต้องดูในภาพรวมก่อน

                แต่ถ้ามีการเสนอในที่ประชุม ครม. เราก็จะมีความเห็นในส่วนของกระทรวงแนบไป แต่ในแนวนโยบายของกระทรวงคมนาคมจะเป็นมาตรการเรื่องจำกัดเวลารถบรรทุกวิ่งเฉพาะช่วงเวลา 00.00–04.00 น. แต่เมื่อมีผู้ประกอบการท้วงติงถึงจุดจอดรถบรรทุกในช่วงนอกเวลาดังกล่าว จึงต้องมาคิดเรื่องจุดพักรถ (Rest Area) รอบวงแหวนตามที่เคยให้นโยบายไปก่อน

                โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนก่อน เพราะพวกเรารวมถึงพี่น้องประชาชนก็มีส่วนในการสร้างปัญหานี้ เพราะฉะนั้นใครสร้างก็ช่วยกันแก้ปัญหา อย่าบอกให้รัฐแก้ปัญหาอยู่ฝ่ายเดียว ขบ.ไม่อยากจับใคร แต่ทั้งหมดจะเกิดขึ้นได้ พี่น้องประชาชนต้องเชื่อร่วมกันในการทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ผมไม่อยากเห็นประชาชนใส่หน้ากากเดินไปเดินมา มันทำให้บ้านเราดูไม่น่าอยู่ ไม่น่ามาเที่ยว แต่ก็อยู่ที่พวกเราทุกคนที่จะช่วยให้บ้านเราน่าอยู่

                ขณะเดียวกันยังให้นโยบายกรมทางหลวงชนบท ปลูกต้นไม้มีค่าตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เพื่อลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 โดยให้ไปทำแผนงานให้ชัดเจน จะปลูกต้นไม้กี่ต้น และพื้นที่ไหนบ้าง

                ล่าสุดกรมการขนส่งทางบกได้จัดผู้ตรวจการลงพื้นที่ตรวจวัดค่าควันดำรถโดยสารและรถบรรทุก ตามมาตรการป้องกันค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 สูงเกินมาตรฐาน บริเวณต่างๆ ทั่วประเทศ ตามที่นายกรัฐมนตรีมีข้อห่วงใยประชาชนถึงสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดทั่วประเทศ และตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม  เฉพาะวันที่ 22 มกราคม 2563 มีผลการดำเนินการ

                ดังนี้ รวมผลการดำเนินการตรวจวัดควันดำรถโดยสารและรถบรรทุกทั่วประเทศวันที่ 22 มกราคม 2563 จำนวน 3,280 คัน พบค่าควันดำเกิน จำนวน 59 คัน โดยรถที่มีค่าควันดำเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดได้ห้ามใช้ทุกคัน และรถที่มีค่าควันดำ 30-44% ได้ออกใบเตือน จำนวน 148 คัน เพื่อให้ผู้ประกอบการไปบำรุงดูแลรักษารถไม่ให้มีค่าควันดำเกิน

                ขณะเดียวกันในวันศุกร์ที่ 24 มกราคมนี้ กระทรวงคมนาคมจะมีการประชุมประสานแผนปฏิบัติการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมเพื่อแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ถือเป็นเรื่องราวดีๆ ที่ยังมีหน่วยงาน กระทรวง ทบวง กรม ที่ยังตระหนักถึงปัญหาของฝุ่น เมื่อได้มีการพูดคุยกัน แก้ปัญหาร่วมกัน เชื่อว่า PM 2.5 จะลดลงแน่ๆ. 

กัลยา ยืนยง