ชมดอกพญาเสือโคร่ง-เยือนทุ่งกระดาษ


เพิ่มเพื่อน    

(สีชมพูสดใสของดอกพญาเสือโคร่ง)

    ในเดือนมกราคมของทุกปี ทุ่งดอกไม้อย่างดอกพญาเสือโคร่ง หรือที่เรารู้จักเรียกกันว่า "ดอกซากุระ" แต่เป็นคนละชนิดของกับดอกซากุระญี่ปุ่น จะเบ่งบาน ออกดอกสีชมพูสะพรั่งท่ามกลางหมู่แมกไม้น้อยใหญ่ และที่พบมากที่สุดในประเทศไทยก็ต้องที่ ภูลมโล ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย บนพื้นที่ประมาณ 1,200 ไร่ ในจำนวนกว่า 160,000 ต้น ในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า รอยต่อเชื่อม 3 จังหวัด คือ จ.เลย จ.เพชรบูรณ์ และ จ.พิษณุโลก ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินทางขึ้นภูลมโลไปได้ทั้ง 3 เส้นทางอีกด้วย

(ต้นพญาเสือโคร่งที่ยังออกดอกให้เราได้ชม)

    เราตื่นเต้นตั้งแต่ ททท.ชวนเดินทางไปที่ภูลมโล เพราะได้ยินชื่อเสียงมานาน เมื่อไปถึง จ.เลย มื้อเที่ยงได้รับการต้อนรับจากร้านส้มตำ ที่แม้เป็นร้านบ้านๆ แต่รสชาติกับอร่อยเด็ดสุดๆ พร้อมกับไก่ทอดกรอบนอกนุ่มใน พร้อมกับต้มแซ่บไก่ เสิร์ฟใส่ถ้วยขนาดใหญ่ทีเดียว แค่ 2-3 เมนูก็อิ่มแปล้เลยล่ะ
    จากนั้นพวกเราเดินทางต่อเพื่อไปที่ ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย ซึ่งเป็นเส้นทางขึ้นภูลมโลฝั่ง นับว่าเป็นเส้นทางที่ได้รับความนิยม โดยเป็นการบริหารจัดการพื้นที่ท่องเที่ยวภูลมโล ระหว่างอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้ากับชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนกกสะทอน
    แต่ในปีนี้ด้วยสถานการณ์สภาพภูมิอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลง ฤดูหนาวมาเยือนในช่วงเวลาสั้นๆ ทำให้ดอกพญาเสือโคร่งเริ่มผลิดอกตั้งแต่ช่วงปลายเดือนธันวาคม 2562 และบานสะพรั่งเต็มที่ในวันที่ 1-2 มกราคม 2563 ทำให้ช่วงกลางเดือนมกราคม ซึ่งเป็นช่วงที่เราไปถึง ดอกพญาเสือโคร่งเริ่มร่วงหล่นไปตามธรรมชาติแล้ว แต่เราก็ยังมีความหวังว่าจะมีต้นที่ดอกยังบานต้อนรับการมาของเราอยู่บ้าง คืนนั้นเราจึงไปพักที่ชุมชนกกสะทอน โฮมสเตย์ วันวรุณ ที่พักแยกออกมาจากบ้านเจ้าของโฮมสเตย์ แบ่งเป็นห้องพัก และบ้านพักเป็นหลัง ด้วยพื้นที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงขึ้นมาหน่อยทำให้เห็นวิวของภูเขารอบๆ ที่ถูกแบ่งไปทำไร่ทำสวน และส่วนป่าไม้เขียวขจี มีมุมถ่ายรูปน่ารักๆ และทานอาหารพื้นบ้าน เมนูห้ามพลาดเลยก็คือ น้ำพริกผักสะทอนที่มีส่วนผสมหลักก็คือ น้ำผักสะทอน ทานคู่กับผักต้ม เผ็ดๆ เค็มๆ กินกับข้าวสวยอร่อยกำลังพอดี ยังมีเมนูต้มไก่งาดำที่รสชาติเข้มข้นด้วยสมุนไพร ยำหัวปลี ต้มจืดน่องไก่ และอย่าลืมดื่มน้ำขิงสด ของขึ้นชื่อที่นี่
    เช้าอีกวัน เวลาตี 5 พวกเราเริ่มมารวมตัวที่หน้าชมรมฯ ท่องเที่ยวกกสะทอน เพื่อโดยสารรถกระบะโฟร์วีลของชาวบ้านในราคา 1,500 บาท นั่งได้ไม่เกิน 10 คน ระยะทางไปกลับประมาณ 40 กิโลเมตร สิ่งที่ต้องเตรียมไปคือ สวมใส่เสื้อผ้าหนาๆ เพราะจุดที่ไปเป็นยอดภูลมโล ซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,680 เมตร อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 5-20 องศา ทำให้มีอากาศเย็นตลอดทั้งปีและผ้าปิดปากเพราะระยะทางบางช่วงอาจจะมีฝุ่นดินจากถนนด้วย เมื่อรถเคลื่อนตัวลมเย็นก็ปะทะร่างกายรับความสดชื่นตั้งแต่เช้า จากทางลาดยาง ไปถึงจุดหน้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จะมีการเก็บค่าธรรมเนียมผู้ใหญ่คนละ 40 บาท เด็กคนละ 20 บาท

(จุดชมวิวที่ความสูง 1,542 เมตร)

    รถขับเคลื่อนมาเรื่อยๆ ท่ามกลางความมืด มีเพียงแสงสว่างจากไฟหน้ารถ และรถที่ตามมาข้างหลังเท่านั้น จนมาถึงทางขึ้นเขา ถนนเป็นดินขรุขระไปตามสภาพเจอหลุมเล็กบ้างใหญ่บ้าง รถตกหลุมทีก็เป็นจังหวะโยกตัวไปมาตามแรงกระแทก ใครนั่งหลังกระบะต้องหาที่ยึดจับให้มั่น ไม่มีเวลาได้ผล็อยหลับเลย ขับมาได้สักพักเราก็มาถึงจุดชมวิวที่ความสูง 1,542 เมตร เป็นจุดที่แวะชมพระอาทิตย์ขึ้น แต่เมฆบดบังพระอาทิตย์ ทำให้มีเพียงแสงที่สาดส่อง บริเวณเดียวกันใครอยากเห็นวิวมุมสูงก็เดินขึ้นไปที่ผาดรรชนี ระยะ 650 เมตร เราชื่นชมแสงเช้าสักพักก็เดินทางต่อ

(จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น)

    ไม่นานเราก็มาถึงทางเข้าไปยังทุ่งดอกพญาเสือโคร่ง สองข้างตอนนี้เหลือเพียงกิ่งก้านและใบสีเขียว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีต้นที่ชูดอกเบ่งบานให้เราได้ชื่นชมอยู่บ้าง เดินเข้าไปลึกอีกสักหน่อยก็จะเห็นดอกสีชมพูเป็นหย่อมๆ แทรกแซมกับต้นไม้สีเขียว แต่หากบานเต็มทั้งหุบเขาก็จะกลายเป็นสีชมพูสวยมากแน่ๆ แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวมาชมความงามของดอกพญาเสือโคร่งอยู่ไม่น้อยนะ ต่างก็ถ่ายรูปคู่กับดอกไม้อย่างร่าเริง สดใส เหมือนดั่งตอนที่ดอกมันยังไม่ร่วงโรย

(ดอกกระดาษ)

    เราเดินทางไปยังจุดสูงสุดที่จะได้เห็นผืนป่ากว้างขวาง ซึ่งจากมุมนี้จะมองเห็นดอกพญาเสือโคร่งที่ปกคลุมอยู่เต็มภูเขา มีก้อนหินรูปทรงต่างๆ ขนาดใหญ่ให้นั่งพักผ่อน รับบรรยากาศยามเช้า สักพักเราก็เดินทางต่อไปยังทุ่งกระดาษ ที่โครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อ ทำให้การเดินทางไปไม่ไกลนัก

(นักท่องเที่ยวเพลิดเพลินกับการถ่ายรูป)

    ทุ่งกระดาษ หรือที่รู้จักกันก็คือ ดอกบานไม่รู้โรย ที่มีหลากหลายสีสันสดใส ให้นักท่องเที่ยวได้ลงไปถ่ายรูป จุดชมดอกกระดาษมีทั้งด้านหน้าทางเข้า และเดินลัดเลาะลงไปตรงแนวหน้าผาก็มีดอกกระดาษทอดยาว และจะบานตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคมไปจนถึงประมาณเดือนมีนาคม ด้วยทัศนียภาพที่อยู่ท่ามกลางภูเขาโอบล้อม ทำให้บรรยากาศเย็นสบาย แถมยังมีผาชื่อน่ารักอย่าง ผาบอกรัก ผาสลัดรัก ผารักยืนยง ผาคู่รัก ผาไททานิค ให้ได้เลือกมุมถ่ายรูปเก๋ๆ ด้วย ด้านบริเวณทางจอดรถก็จะมีร้านค้าจากชาวเขา แต่วันนั้นเราได้ไปเลือกซื้อผักสดที่ตลาดนัดเด็กดอย ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านร่องกล้า อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นทางผ่านกลับไปยังชุมชนกกสะทอน พวกเราก็ได้เบบี๋แครอท ผักกาด กลับบ้านกันคนละถุงสองถุง แถมราคาก็ไม่แพงด้วย
    ที่ชุมชนกกสะทอน ยังมีเส้นทางท่องเที่ยวอื่นๆ ด้วยนะ อย่างไปชมรอยเท้าไดโนเสาร์ดึกดำบรรพ์หลายล้านปี มีกิจกรรมพานักท่องเที่ยวรำลึกประวัติศาสตร์การสู้รบ ถิ่นวีรชนคนกล้า ที่อุทยานเทิดพระเกียรติบ้านหมากแข้ง หรือกิจกรรมการทำน้ำผักสะทอน สัมผัสวิถีของชุมชน ชมสาธิตการทำขิงผง วิถีการปลูกข้าวไร่ ใครที่ชอบเที่ยววิถีชุมชนต้องติดใจแน่นอน

(ต้นคริสต์มาสสีแดงสด)

    หากพอมีเวลาเหลือก็แวะมาที่ทุ่งคริสต์มาส อ.ภูเรือ จ.เลย ใบสีแดงสด ตกแต่งด้วยมุมถ่ายรูปน่ารักๆ เดินชมชิวๆ ก่อนกลับกรุงเทพฯ ก็เข้าท่านะ ใครสนใจไปเที่ยวภูลมโล สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก ภูลมโล, ซากุระเมืองไทย, นางพญาเสือโคร่ง, กกสะทอน หรือชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนกกสะทอน โทรศัพท์ 06-2557-0912, 06-2557-0913. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"