เปิดศักราชใหม่มาหลายหน่วยงานก็เร่งทำผลงานพร้อมโหมโรงออกมาตรการ หรือกิจกรรมต่างๆ มาให้ประชาชนได้เห็นและใช้ประโยชน์กันอย่างมากมาย โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ที่เป็นหน่วยงานออกมาตรการและนโยบายส่งเสริมผู้ประกอบการในประเทศ โดยเฉพาะยุคนี้ต้องให้ความสำคัญกับกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ซึ่งก็ไม่น้อยหน้าที่เร่งเดินเครื่องกำหนดทิศทางและนโยบายปี 2563 แล้ว
โดยเน้นการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และวิสาหกิจชุมชน 3 ด้าน คือ เกษตรอุตสาหกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และเทคโนโลยีดิจิทัลอัจฉริยะ ซึ่งไม่เพียงแต่การเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเท่านั้น แต่การสร้างผู้ประกอบการใหม่ก็มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ กสอ.จึงได้จัดกิจกรรม Open House : ปั้น ปรุง เปลี่ยน ธุรกิจใหม่ ให้ดีพร้อม เพื่อส่งเสริมและสร้างผู้ประกอบการใหม่ให้มีศักยภาพและเติบโตเป็นผู้ประกอบการที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้ต่อไปในอนาคต
สำหรับกิจกรรม Open House : ปั้น ปรุง เปลี่ยน ธุรกิจใหม่ ให้ดีพร้อมนี้ มีกิจกรรมที่เป็นหัวใจหลัก 4 กิจกรรม คือ 1.กิจกรรมการสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการใหม่เชิงสร้างสรรค์และนวัตกรรม โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้เรียนรู้วิธีการบริหารจัดการธุรกิจอย่างครบวงจร การสร้างสรรค์ธุรกิจด้วยนวัตกรรม (NEC) จริยธรรมในการดำเนินธุรกิจให้ยั่งยืน นำไปสู่การได้แผนธุรกิจ (โมเดลสำหรับการวิเคราะห์ในการวางแผนธุรกิจ) รายบุคคล และมีพันธมิตรทางธุรกิจ
ทั้งนี้ จากการดำเนินกิจกรรมมาตั้งแต่ปี 2545 มีผู้ได้รับการพัฒนาศักยภาพมาแล้วกว่า 80,000 คน ก่อให้เกิดผู้ประกอบการใหม่กว่า 18,000 คน คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 29,000 ล้านบาท ขณะที่ปีนี้ตั้งเป้าหมายการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ 1,000 ราย และมีกิจกรรมนำร่อง อาทิ NEC วัยเกษียณ และ NEC เกษตรอุตสาหกรรม
2.กิจกรรม “การพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ประกอบการใหม่” ซึ่งเป็นการสร้างศักยภาพผู้ประกอบการในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยเน้นกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ (เอสเคิร์ฟ) ได้แก่ สาขาการแปรรูปอาหารและอาหารแห่งอนาคต สาขาเกษตรแปรรูปและเทคโนโลยีชีวภาพ และสาขาดิจิทัลและอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ จำนวน 65 กิจการ ภายใต้แนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจใหม่เพื่อความยั่งยืน โดยมีการให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึกสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ด้วยการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม จนได้เป็นต้นแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าสูงขึ้น พร้อมการทดสอบตลาดออฟไลน์และออนไลน์ ซึ่งจะนำไปสู่ความสามารถในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ต่อไป
3.กิจกรรม “การพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจเพื่อสังคมรุ่นใหม่” โดย กสอ.จะทำหน้าที่เสริมความรู้ทุกด้านที่จำเป็นสำหรับผู้ที่อยากจะเป็นนักธุรกิจเพื่อสังคม ตั้งแต่ การอบรมให้ความรู้ในการสร้างแนวคิด ออกแบบธุรกิจ การวางแผนการดำเนินงาน การวัดผลกระทบเชิงสังคม รวมถึงการให้คำปรึกษาแนะนำในรายละเอียดขั้นตอนต่างๆ ของการขอจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคม สนับสนุนผู้ประกอบการให้ใส่ใจต่อปัญหาทางสังคมและสร้างสรรค์ธุรกิจที่ช่วยแก้ไขปัญหาสังคม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
ในขณะเดียวกันก็สามารถอยู่รอดและประสบความสำเร็จด้านการเงิน โดยได้สร้างอาชีพและรายได้ให้กับวิสาหกิจเพื่อสังคม ตั้งแต่ปี 2559-2562 รวมกว่า 15 ล้านบาท ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของการทำธุรกิจได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน และ 4.กิจกรรม “แหล่งเงินทุนสำหรับผู้ประกอบการและธุรกิจใหม่” โดย กสอ.ได้ร่วมกับ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรมนี้ขึ้น เป็นปีที่ 5 แล้ว เพื่อผลักดันให้ผู้ประกอบการใหม่และสตาร์ทอัพที่มีแนวคิดเกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนในรูปแบบเงินให้เปล่า (กองทุนนางฟ้า) สูงสุดรายละไม่เกิน 500,000 บาท วงเงินรวม 4 ล้านบาทต่อปี ซึ่งตลอด 4 ปีที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการที่ได้รับการสนับสนุนเงินทุนไปแล้วกว่า 13 ล้านบาท
ซึ่งถือว่ากิจกรรมปั้น ปรุง เปลี่ยนนี้ผ่านการคิดมาอย่างถี่ถ้วนแล้วว่า หากเริ่มดำเนินโครงการไป ผู้ประกอบการโดยเฉพาะเอสเอ็มอีจะได้รับผลประโยชน์อะไรบ้าง ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างโอกาสพัฒนาผู้ประกอบการใหม่เชิงสร้างสรรค์และการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อเร่งให้เกิดการจัดตั้งและขยายธุรกิจที่มีศักยภาพอย่างแท้จริง.
ณัฐวัฒน์ หาญกล้า
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |