สุขๆ-ทุกข์ๆ กันไปตามสภาพ


เพิ่มเพื่อน    

 

   มีทั้ง สุข ทั้ง ทุกข์ ทั้ง ดีใจ เสียใจ ปะปนกันไป...สำหรับบรรยากาศการขึ้นโรง ขึ้นศาล เมื่อช่วงวันวานที่ผ่านมา ชนิดสามารถหยิบเอามาใคร่ครวญพิจารณา ระหว่างสูดลมหายใจเข้า-ออก ตามแบบฉบับสมถวิปัสสนา ประเภท สุขหนอ...ทุกข์หนอ ดีใจหนอ...เสียใจหนอ สบายแล้วหนอ...ไม่สบายแล้วหนอ รอดแล้วหนอ...ไม่รอดแล้วหนอ ฯลฯ แต่สุดท้าย...ทุกสิ่งทุกอย่าง ย่อมต้อง เป็นเช่นนั้นเอง ย่อม เป็นพรรค์นั้นแหละ ไปตามสภาพ...

                                                             -----------------------------------------------

                รายของอดีต กรรมกรข่าว หรือพิธีกรรายการข่าวทีวีซึ่งเคยโด่งดังซะยิ่งกว่าพลุแตก อย่างคุณน้อง สรยุทธ สุทัศนะจินดา อันนั้น...คงต้องออกไปทางทุกข์หนอ เสียใจหนอ ไม่สบายแล้วหนอ ไม่รอดหนอ อย่างมิอาจปฏิเสธ แต่ถ้าดูจากความคิด ความอ่าน จากข้อเขียนระบายความในใจก่อนหน้าการตัดสินพิพากษาคดีขั้นสุดท้ายของศาลฎีกา คุณน้อง สรยุทธ ท่านก็น่าจะพอ ทำใจได้ มาแล้วตั้งแต่แรก  การแสดงออกถึงความหนักแน่น มั่นคง ในหัวจิตหัวใจ พร้อมยอมรับกับชะตากรรมใดๆ ก็ตาม จึงออกจะเป็นอะไรที่ สง่างาม พอสมควรทีเดียว ดังนั้น...ในช่วงระยะเวลาที่สั้นๆ อาจต้องทนทุกข์ ทนทรมาน อยู่บ้างตามสมควร ก็อาจถือเป็นเรื่อง ชิวๆ (ชิลๆ) สำหรับ กรรมกรข่าว รายนี้ ที่เคยสร้าง กรรมดี สร้างเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ที่ไม่อาจลบเลือนให้แก่ตัวเอง ได้ไม่น้อยทีเดียว...

                                                                   -----------------------------------------------

                ส่วนรายของ ฟ้ารักพ่อ คุณน้อง โรแบสปิแอร์ ธนาธร คุณน้อง อองตวน ปิยบุตร ไปจนถึงคุณน้อง ช่อ แฟชั่นโชว์ มาถึง ณ บัดนี้...ก็คง ไม่ไหวจะเฮ หรือคงได้สุขหนอ ดีใจหนอ สบายแล้วหนอ  ไปตามสภาพ เพราะอะไรที่เรียกๆ กันว่า นิติสงคราม ท้ายที่สุด...ก็ยังคงดำรงลักษณะความเป็น นิติรัฐ และ นิติธรรม อยู่เช่นเดิม ไม่ได้แสดงออกถึงความต้องการที่จะไปประหัตประหาร ไล่ล่า ไล่ฆ่าใครต่อใคร ให้ต้องสิ้นชีพิตักษัยในสมรภูมิทางการเมือง แม้จะมีอาวุธครบมือก็เถอะ แต่ในเมื่อสิ่งที่อยู่ในมือนั้นคือ กฎหมาย คือสิ่งที่จะต้องถูกบังคับใช้อย่าง เสมอภาค เท่าเทียมกัน รวมทั้งยังอาจต้องใช้อย่างมี ภราดรภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้ เสรีภาพ ของบุคคลใดๆ หรือกลุ่มหนึ่ง กลุ่มใด ต้องถูกจาบจ้วงล่วงละเมิด กฎหมาย...ก็จึงยังคงเป็นกฎหมาย เป็นสิ่งที่แสดงถึงความเป็น นิติรัฐ-นิติธรรม โดยไม่จำเป็นต้องไปทำ นิติสงคราม ใดๆ เลย...

                                                                   -------------------------------------------------

                ด้วยเหตุนี้นี่เอง...คุณน้อง ธนาธร น้อง ปิยบุตร น้อง ช่อ ท่านถึงมีโอกาสได้เฮ ชนิด ไม่ไหวจะเฮ ได้อย่างเต็มสูบ เต็มที่ หลังคำวินิจฉัยชี้ขาดของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวานนี้ การแสดงออกถึงลักษณะอาการสุขหนอ ดีใจหนอ สบายแล้วหนอ จึงถือเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ส่วนจะ รอดแล้วหนอ ไปโดยตลอด หรือไม่ อย่างไร อันนั้น...คงต้องไปตั้งสมาธิ สมถวิปัสสนา กำหนดลมหายใจเข้า-ออกกันอีกหลายรอบ เพราะแม้จะรอดไปจาก ดาบแรก อย่างไม่มีข้อสงสัยใดๆ อีกแล้ว แต่โอกาสที่จะต้องเจอกับ ดาบสอง ตามมา และอีกหลายต่อหลายดาบ แม้กระทั่งดาบที่ตัวเองหยิบมาเชือดคอตัวเอง ก็คงเป็นอะไรที่ต้องอาศัย สติ อันเป็นสิ่งพื้นฐานที่จะช่วยให้ กรรม หรือการกระทำต่างๆ เป็นไปในแบบกายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต หรือเป็นไปตาม สุจริตธรรม อันจะนำมาซึ่ง ปัญญา ที่แท้จริง และจะช่วยให้เกิด ความรอด ในแต่ละเรื่อง แต่ละกรณี ได้อย่างเป็นจริง เป็นจัง...

                                                             ------------------------------------------------------

                ไม่งั้น...ก็คงต้องสุขๆ-ทุกข์ๆ ไปโดยตลอด เดี๋ยว เฮ เดี๋ยว โฮ เดี๋ยวดีใจ เดี๋ยวเสียใจ เดี๋ยวชอบใจ-ไม่ชอบใจ ถูกใจ-ไม่ถูกใจ เดี๋ยวรัก-เดี๋ยวโกรธ วนไป-วนมา...จนอาจตกผลึกกลายเป็นความเกลียด  เคียดแค้น อาฆาต พยาบาทและชิงชัง ไปโดยไม่รู้ตัว ชนิดอาจต้องงัดเอา ความลื่นไหล มาใช้ปกป้องตัวเอง หรือผลประโยชน์ของตัวเอง จนนำไปสู่ กรรม ต่างๆ นานา ที่เป็นไปในแบบกายทุจริต วจีทุจริต  มโนทุจริต กันจนได้ และอันนั้นนั่นแหละ...ที่จะทำให้ดาบต่างๆ ที่ตามมา ไม่ว่าดาบสอง ดาบสาม หรือดาบที่ตัวเองหยิบมาเชือดคอตัวเอง ดาบที่บาดมือ บาดไม้ จนกลายเป็นแผลบาดทะยักเอาดื้อๆ มันก็อาจนำไปสู่ ความไม่รอด ได้ทุกเมื่อ...

                                                                 ----------------------------------------------------

                เพราะฉะนั้น...หลังจากได้เฮ ได้ฮา กันไปเรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว ก็คงต้องชวนกันลองมานั่งสมาธิ สมถวิปัสสนา ซักรอบ-สองรอบ ก็น่าจะ เข้าท่า มิใช่น้อย กำหนดลมหายใจเข้า-ออก ยุบหนอ-พองหนอ ดีใจแล้วหนอ-เสียใจแล้วหนอ ถูกใจแล้วหนอ-ไม่ถูกใจแล้วหนอ ฯลฯ หรือนำเอาสิ่งต่างๆ ที่มากระทบกับความรู้สึก กระทบต่อตัวเอง กระทบต่อพรรคการเมืองของตัวเอง มานั่งแยกแยะ พิจารณา กันให้ครบถ้วนกระบวนความ ว่าเหตุใดขณะที่ ฟ้ารักพ่อ แต่ นรกกลับเกลียดพ่อ ไปได้ถึงปานนั้น เหตุใดขณะที่คนรักมีอยู่ประมาณเท่าผืนหนัง แต่บรรดาคนชังกลับมากมายขยายตัวมากซะยิ่งกว่าผืนเสื่อ หรือผืนสนามฟุตบอลเอาเลยถึงขั้นนั้น...

                                                                 -------------------------------------------------

                การนั่งคิด นั่งพิจารณา ระหว่างสูดลมหายใจเข้าๆ-ออกๆ ในแบบที่ว่านี้นี่แหละ...อาจช่วยให้เกิด สติ และ ปัญญา ตามมา แถมยังเป็น ปัญญาที่แท้จริง หรือปัญญาที่สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการแยกแยะว่าอะไรดี-อะไรชั่ว อะไรถูก-อะไรผิด อะไรเหมาะ-ไม่เหมาะ ควร-ไม่ควร อะไรเป็นไปหรือไม่เป็นไปตาม กาละ-เทศะ ตามสภาวะความเป็นไปทางสังคม หรือข้อเท็จจริงทางสังคม กรรมต่างๆ หรือการกระทำต่างๆ จึงสามารถเป็นไปในแบบกายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริตขึ้นมาได้จริงๆ หรือกลายเป็น กรรมดี ที่จะติดตรึงตัวเองไปโดยตลอด ไม่ว่าตัวเอง หรือพรรคการเมืองของตัวเอง จะ รอด-ไม่รอด หรือจะตกอยู่ในสภาพเช่นใดก็แล้วแต่ ในวันนี้ หรือในอนาคตเบื้องหน้า...

                                                                   -------------------------------------------------

                ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Nikki Giovanni...Mistakes are a fact of life. It is the response to  the error that counts. - ความผิดพลาด...ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาของชีวิต แต่ปฏิกิริยาต่อความผิดพลาดต่างหาก ที่ถือเป็นเรื่องสำคัญ...”

                                                                   --------------------------------------------------- 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"