รมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผยผลตรวจทางห้องปฏิบัติการพบว่านักท่องเที่ยวชาวอังกฤษป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ร่วมกับโรคปอดอักเสบติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 และผู้ป่วยรายนี้ไม่มีประวัติการเดินทางไปเมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน ทั้งนี้ ประเทศไทยได้ดำเนินการอย่างเข้มแข็งเพื่อเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์โรคดังกล่าวทั้งในและต่างประเทศอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง
21 ม.ค.63- นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป ในฐานะผู้บัญชาการของศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กล่าวว่า จากกรณีที่มีข่าวในสื่อต่างประเทศรายงานว่า นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ วัย 32 ปีล้มป่วยในประเทศไทย และสงสัยว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ซึ่งอาจทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิด นั้น กรมควบคุมโรค ขอชี้แจงว่า จากผลการตรวจสอบข้อมูลโดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต พบว่า วันที่ 29 ธันวาคม 2562 หนุ่มชาวอังกฤษรายดังกล่าว เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง บนเกาะพีพี จังหวัดกระบี่ โดยผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ พบว่า ผู้ป่วยรายนี้ ป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ ร่วมกับโรคปอดอักเสบติดเชื้อแบคทีเรีย จากนั้นถูกส่งตัวมารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดภูเก็ต ในวันที่ 2 มกราคม 2563 และต่อมาวันที่ 5 มกราคม 2563 ญาติขอให้แพทย์ส่งตัวมารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพมหานคร เพื่อสะดวกต่อการดูแล และล่าสุดอาการดีขึ้นแล้ว
นพ. โสภณ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ป่วยรายนี้ ไม่มีประวัติการเดินทางไปเมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน ก่อนหน้าที่เดินทางมาประเทศไทย จึงไม่ได้อยู่ในบัญชีรายชื่อผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวน (Patient under investigation: PUI) โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 แต่อย่างไร จึงขอให้ประชาชนอย่าตกใจกับข่าวนี้
" ประเทศไทย ได้ดำเนินการอย่างเข้มแข็งเพื่อเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์โรคดังกล่าวทั้งในและต่างประเทศอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้เป็นช่วงใกล้เทศกาลตรุษจีน จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประเทศไทยมากขึ้น กระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดมาตรการเฝ้าระวังและแนวทางป้องกันการแพร่ระบาด 4 ด้าน ดังนี้ 1.เสริมการเฝ้าระวังโรค คัดกรองและคัดแยกผู้ป่วย โดยมีการคัดกรองผู้โดยสารเครื่องบินในเส้นทาง ที่บินตรงมาจากเมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน รวมห้าสนามบิน 2.คงมาตรฐานการวินิจฉัย การดูแลรักษา ผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์การสอบสวน 3.ระบบการส่งต่อผู้ป่วย เข้ารับการรักษาพยาบาลในห้องแยก ความดันลบ (Negative Pressure Room) ทั้งโรงพยาบาลภาครัฐและเอกชน และ 4.เพิ่มการเฝ้าระวังในชุมชนแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการกับโรคติดต่ออุบัติใหม่แบบบูรณาการ"นพ.โสภณกล่าว