"พี่เสก" บอกว่า "ไม่ต้องห่วงฉัน" 

            ก็ไม่ต้องไปห่วงอะไร "พี่เสก" ครับ 

            เพราะใจสั่งมา!

            แต่ "ลุงตู่" กับ "ลุงป้อม" น่าห่วงจริงๆ

            "ลุงตู่" ใช้กองหนุนไปหมดแล้ว

            ส่วนรัฐบาล คสช.ใช้ต้นทุนไปเยอะ 

            นี่คือการเริ่มต้นการบ้านการเมืองปี ๒๕๖๑ 

            "ลุงตู่" เปิดหัวปีใหม่ บอกว่า 

            "ขอให้สื่อ นำเสนอแต่สิ่งดีๆ สิ่งที่เป็นความสุข"

            ถ้า....มีสิ่งดีๆ ต่อเนื่องยาวนานตลอดปี ไม่มีความขัดแย้ง ไม่มีความฉ้อฉล ไร้ซึ่งปัญหาด้านลบทั้งปวง สื่อก็ร่ายเรื่องดีๆ ได้ตั้งแต่ต้นปียันท้ายปี

            แต่....ความเป็นจริง อยู่ในสภาพไหน 

            ตัดเรื่องโลกสวยออกไป มาดูความเป็นจริงกันหน่อย

            สถานะ "ลุงป้อมโรเล็กซ์" ยังถูกแฉเรื่อง นาฬิกาเพื่อนข้ามปี นี่ก็ปาเข้าไปเรือนที่ ๑๕ แล้ว และคงมีออกมาเรื่อยๆ

            น่าเป็นห่วงแทนว่า แจง ป.ป.ช.ไว้อย่างไร และที่สำคัญ ป.ป.ช.จะทำอย่างไร  

            ทั้ง "ลุงป้อมโรเล็กซ์" และ ประธาน ป.ป.ช.พลตำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ จะอมพระมาพูดกันหรือเปล่า

            ส่วนสถานะ "ลุงตู่" เริ่มต้นปีไม่ค่อยดีเท่าไหร่ 

            นอกจากผุดวาทะฟาดฟันกับนักการเมืองแบบแลกกันคนละหมัดแล้ว โดยเฉพาะกับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จน "ป๋าเปรม" เตือนเรื่อง "กองหนุน" แล้ว ยังมีเรื่องใหม่ 

            คือ..เรื่องหมาบางแก้ว เข้ามาให้ปวดหัวเล่นอีก

            คนร้องเอาผิดไม่ค่อยจะมีเครดิต นั่นคือ "ศรีสุวรรณ จรรยา" ที่มีตำแหน่งเยอะจนจำไม่ได้ แต่เรื่องที่ร้อง ให้ตายเถอะครับ "ซมซาน" เอาง่ายๆ

            นายศรีสุวรรณ จะยื่นให้ ป.ป.ช.สอบกรณีที่ "นายกฯ ลุงตู่" ไปประชุม ครม.สัญจรที่ จ.พิษณุโลก และสุโขทัย ช่วงวันที่ ๒๕-๒๖ ธันวาคม ที่ผ่านมา 

            ระหว่างการลงพื้นที่เยี่ยมชมการดำเนินงานของบริษัท ประชารัฐรักสามัคคี พิษณุโลก (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด ลุงตู่ สนใจชมการเพาะเลี้ยงสุนัขพันธุ์บางแก้วของกลุ่มผู้เพาะเลี้ยงในพื้นที่ 

            พร้อมกับซื้อลูกสุนัขบางแก้ว ๓ ตัว เพื่อนำไปเลี้ยงเอง ๑ ตัว 

            อีก ๒ ตัว ซื้อให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ พล.อ.ฉัตรชัย  สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี คนละ ๑ ตัว

            "ลุงตู่" ซื้อราคาตัวละ ๖,๐๐๐ บาท 

            ให้เงินไป ๒๕,๐๐๐ บาท เพราะต้องการให้เป็นขวัญกำลังใจ และเงินขวัญถุงแก่ผู้เพาะเลี้ยง

            "ลุงตู่" ถูกร้องว่า เป็นการให้หรือรับของขวัญ สุนัขดังกล่าว ถือว่าเป็นทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดที่มีมูลค่าเกินกว่า ๓,๐๐๐ บาท ถือว่ามีความผิดตามมาตรา ๑๐๓ แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ๒๕๔๒ และแก้ไขเพิ่มเติม ประกอบข้อ ๕(๒) ของประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่องหลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด

            ธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ๒๕๔๓ และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการให้หรือรับของขวัญของเจ้าหน้าที่รัฐ ๒๕๔๔  บัญญัติไว้ว่า 

            "ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจาก บุคคล นอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์อันควรได้ตามกฎหมาย หรือกฎ ข้อบังคับที่ออกโดย อาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เว้นแต่การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยา ตามหลักเกณฑ์และจำนวนที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.กำหนด"

            พลิกดูกฎหมายแล้วตอบได้คำเดียว งานนี้มีเสียว

            จะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่สาระไม่ได้อยู่ตรงนั้น 

            ประเด็นคือกฎหมายเขียนว่าอย่างไร ทำผิดกฎหมายหรือไม่

            งานนี้ แรงสุดใจ ไปสุดทาง จริงๆ