'บิ๊กตู่'พบผู้นำศาสนาอิสลาม พ้อโซเชียลโจมตีนายกฯหนีเที่ยวใต้ ไม่แก้ปัญหาคนกรุง


เพิ่มเพื่อน    

20 ม.ค.63 - เวลา 16.00 น. ที่หอประชุมบรมราชกุมารี สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พบปะผู้นำศาสนาและชาวไทยมุสลิม โดยนายซาฟีอี เจ๊ะเลาะ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ในนามตัวแทนจังหวัดนราธิวาสและผู้นำศาสนาขอขอบคุณนายกฯ และคณะ และรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับศาสนาอิสลาม พร้อมสนับสนุนการดำเนินการของอิหม่ามในจังหวัดนราธิวาส การสนับสนุนให้กับผู้ที่ดำเนินการประกอบพิธีฮัจญ์ และให้ความสำคัญกับเทศกาลต่างๆ ของศาสนาอิสลาม ในโอกาสนี้ขออำนวยอวยพรให้นายกฯและคณะ ตลอดจนประชาชนในจังหวัดนราธิวาสมีความสุขความเจริญ สมบูรณ์พลานามัยและประสบความสำเร็จ รวมถึงให้จังหวัดนราธิวาสของเราบังเกิดสันติสุขโดยเร็ว จากนั้นได้นำอ่านดูอาห์ขอพรให้นายกฯ

จากนั้นนายกฯ กล่าวว่า ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดเชื้อชาติใด ทุกอย่างอยู่ได้ดีร่วมกันจนถึงปัจจุบันนี้ วันนี้ตนมารับคำอวยพรจากท่านประธานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดนราธิวาส ตนรู้สึกยินดี และพรใดก็ตามที่ให้กับพวกตน ก็ขอให้ส่งผลไปยังทุกท่านทั้งหลายที่อยู่ในที่นี้และท่านที่อยู่ข้างนอกด้วย ปัญหาของบ้านเมืองเราซับซ้อนและมีมายาวนาน เราต้องแก้ไขด้วยวิธีที่ไม่เกิดความขัดแย้ง ซึ่งก็มีสันติวิธี จึงต้องร่วมมือกัน โต๊ะอิหม่าม คอเต็บ ต้องช่วยตนร่วมกับทุกภาคส่วน ซึ่งวันนี้ก็ดีขึ้นตามลำดับ โดยปัญหาแรกคือเรื่องของความไม่สงบความอันตรายลดลงไปมากแล้วด้วยฝีมือพวกเรา ไม่ใช่ฝีมือตนคนเดียว เมื่อทุกอย่างสงบขึ้น ดีขึ้น ความมีเสถียรภาพมากขึ้น ส่วนต่างๆก็ทำงานได้ตอบสนองความต้องการของประชาชน ซึ่งทุกอย่างเดินหน้าไปได้ด้วยดี

นายกฯ กล่าวอีกว่า สิ่งที่รัฐบาลเป็นห่วงอย่างแรกคือความมั่นคง ต้องเรียนว่าดีขึ้นแต่ทุกคนต้องช่วยกันต่อไป อย่าทำให้บ้านเมืองไม่สงบและวุ่นวาย ทุกอย่างมีบทเรียนมาหมดแล้ว อะไรไม่ดีอย่าให้เกิดขึ้นเลยโดยเฉพาะประเทศไทย เราไม่มีความขัดแย้งกับใครเลย ในวันนี้ได้รับการตอบรับจากทุกประเทศ หลายประเทศเชิญตนไปเยี่ยมเยือนก็ต้องหาเวลาที่เหมาะสม สิ่งที่เราทำวันนี้คือสร้างความรักความสามัคคีให้เขาเชื่อมั่นว่าประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งความสงบสุข

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้สิ่งที่พูดกันไปกันมา ทำให้หลายอย่างเกิดความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ และตนเป็นกังวลเรื่องนี้ เรื่องที่จะทำให้เสียหายระดับประเทศ ความเข้าใจก็ผิดเพี้ยนไป วันนี้แข่งขันในประเทศก็มีอยู่แล้ว และต้องแข่งขันกับประเทศอื่นด้วย เพราะกำลังมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจระดับมหภาค เศรษฐกิจระดับโลก เราจึงต้องมีภูมิต้านทานในการจะอยู่ในโลกวันนี้ โลกที่มีโซเชียลเข้ามาขณะนี้ ไม่งั้นมันพันละวันพัลเกไปหมด ตีกันไปมาจนทำอะไรไม่ได้สักอย่าง รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้ รัฐบาลไม่ได้ต้องการจะอยู่เพื่ออำนาจ ตนไม่ต้องการอย่างนั้นเลย ตนต้องการแก้ปัญหาให้คนไทยอย่างแท้จริง ส่วนใหญ่โซเชียล ชอบฟังเรื่องสนุกสนานเฮฮา ตนไม่ต้องการให้ใครอยู่ข้างใคร หรืออยู่ข้างตน ก็ไม่ต้องการ แต่ตนต้องการให้ทุกคนอยู่กับประเทศไทยให้่ได้ ผู้นำศาสนาทุกคนเป็นผู้ที่นำพาสังคมให้สงบสุข เมื่อสักครู่ได้ไปวัดประชุมชลธารา มีพี่น้องมุสลิมไปนั่งอยู่ด้วยและไปรับตน เป็นภาพบรรยากาศที่มีความสุข และผู้ว่าฯ ก็รายงานว่าสิ่งที่ทำมาดีขึ้น แต่ใจตนมันใจร้อนกว่าท่านอีก

“วันนี้เพิ่งเปิดเฟซบุ๊กมา ก็รู้สึกน้อยใจเหมือนกัน มาบอกว่านายกฯ แทนที่จะแก้ปัญหาให้คนกรุงเทพฯ แต่หนีไปเที่ยวใต้ซะแล้ว ผมมาเที่ยวหรอเนี่ย คนแบบนี้มันเยอะ พอผมไปเหนือก็บอกผมว่าไปแอ่วเหนือ นี่คือสิ่งที่เป็นวิกฤติ ที่ทุกคนเข้าถึงโซเชียลทั้งหมด ระบบการบริหารจัดการจะมีปัญหา ทุกอย่างมีปัญหาหมด การบริหารแผ่นดินก็มีปัญหา ต่างประเทศก็มี เพราะทุกคนเข้าถึงช่องทางนี้หมด การสร้างความรัก ความเกลียดชังมันเกิดขึ้น จึงอยากสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี ว่าสิ่งที่เขาพูด ใช่สิ่งที่ตนพูดใช่ไหม ผมไม่ได้บังคับท่านทั้งสิ้น” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนการดูแลผู้นำศาสนาเรื่องค่าตอบแทนก็ค่อยๆ มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะตอนนี้มีหลายอย่างขอเข้ามา และขอให้ทำให้คนเข้าใจว่าจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ได้มีปัญหาอย่างที่เขาคิด อย่างที่บางคนนำไปพูดจาให้ร้ายกันต่อไป ไม่ใช่ขนาดนั้น ยิ่งสื่อความหมายออกไปผิดๆ เราก็เจริญไม่ได้ คนไม่มา แล้วจะทำอย่างไรเรื่องการท่องเที่ยว ขอความร่วมมือช่วยกันสอดส่อง ปกป้องพื้นที่ไม่ให้เกิดความไม่สงบ ความไม่ปลอดภัยในทรัพย์สินของท่าน เพราะนั้นคือความมั่นคง ถ้าทุกคนติดตามความก้าวหน้าของรัฐบาลก็จะรู้ว่าเรากำลังทำอะไร และจะร่วมตรงไหน อย่าให้เขามาทำให้เรา ต้องมีปัญหากันเลย ตนไม่มีปัญหากับใครทั้งสิ้น ไม่ว่าจะ 5 ปีที่แล้วหรือปีนี้

นายกฯ​ ยังถามประชาชนว่าเหนื่อยไหมที่นั่ง ฟังเหนื่อยเนาะ นายกฯ ไม่มีเหนื่อย ทำให้พวกเราไม่มีเหนื่อย พวกเราทุกคนสัญญาว่าจะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ขอให้เชื่อมั่นก็แล้วกัน อดทนกับเราหน่อย อย่าคิดว่าผมมีความสุข ตราบใดที่ท่านยังไม่มีความสุข ผมไม่มีความสุขหรอก นั้นคือใจของผม ใจของพวกเราทุกคน ทั้งนี้ ก่อนจะเดินทางกลับ ทางกลุ่มสตรีมุสลิม ยังได้นำดอกกุหลาบสีแดง มอบเป็นกำลังใจให้แก่นายกรัฐมนตรีอีกด้วย


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"