ทำใจกับปล่อยวาง


เพิ่มเพื่อน    

 

      ความคิดเห็นที่ไม่ลงรอย หรือขัดแย้งระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ พ่อแม่กับลูกหลาน ถือเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์

      เพราะคนแต่ละยุคแต่ละวัยย่อมมีประสบการณ์มากน้อยที่แตกต่างกันไป หากคิดได้แบบนี้เราก็จะพบว่า บางครั้งบางเรื่องบางราวนั้น ไม่มีใครถูกไม่มีใครผิด จะมีก็แต่ไม่ถูกใจ หรือไม่เป็นไปตามที่ใจเราคิดเท่านั้น

      โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความคิดเห็นทางการเมือง ดูเหมือนเป็นปัญหาโลกแตกของหลายครอบครัว

      หากรวมถึงการบานปลายกลายเป็นเรื่องราวความบาดหมางในกลุ่มเพื่อนฝูง เรียกว่าบางกลุ่มบางก้อนไม่ยอมเสวนากันอีกเลย ก็ต้องยอมรับความจริงว่า นั่นเพราะยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว

      การเข้าถึงโลกโซเชียลแบบรวดเร็ว ทั้งจริงบ้างเท็จบ้าง ได้หล่อหลอมให้คนแต่ละซีกแต่ละมุมในสังคมคิดไม่เหมือนกันไปโดยปริยาย

      แล้วทำไมภายในหลังคาบ้านเดียวกันก็ยังคิดต่างกันล่ะ???

      ก็ต้องอธิบายว่า ทุกวันนี้หลังคาแต่ละบ้านมีการแทรกแซงของโลกภายนอกเข้าไปถึงห้องนอนได้ตลอด 24 ชั่วโมงนี่นา แล้วจะหวังว่าคนในรั้วบ้านเดียว   กัน ต่อให้เป็นรั้วรอบขอบชิดจะคิดแบบเดียวกันได้อย่างไร หากแต่ละคนเปิดเว็บคนละเว็บ เสพข้อมูลข่าวสารจากช่องทางที่ไม่เหมือนกัน

      แม้คุณจะพยายามอธิบายกับลูกหลานว่า คุณอาบน้ำร้อนมาก่อน ผ่านเหตุการณ์เลวร้าย วิกฤติบ้านเมืองมามากมาย รวมถึงลงไปเดินบนถนนเพื่อไล่ทรราช อย่างน้อยก็ควรจะเชื่อข้อมูลของเราบ้างนั้น สิ่งที่คุณจะได้ตอบกลับมาคือ ..ทำไมต้องคิดเหมือนพ่อกับแม่ หรือลุงป้าน้าอาด้วยล่ะ จะมาบังคับให้ชอบหรือเกลียดใครเหมือนพ่อแม่ได้ไง

      นี่คือชีวิตจริงในสังคมไทยทุกวันนี้ ดังนั้น ในฐานะคนอาบน้ำร้อนมาก่อน ควรจะต้องทำใจให้ได้ว่ารสนิยมของเด็กกับของผู้ใหญ่นั้นจะให้เหมือนกันได้อย่างไร และยิ่งเป็นเด็กที่ต้องการเอาชนะ รับรองคำตอบก็มีอยู่แล้วว่า หากเราบอกว่า..ขวาดี  เขาก็จะต้องหัวชนฝาว่า..ซ้ายดีกว่า

        ยกตัวอย่างชัดๆ กับบรรดาเสื้อยืดทั้งหลายที่ใช้ภาษาหยาบๆ แม้จะเป็นภาษาอังกฤษ

      บรรดาเด็กๆ ก็จะบอกว่า เป็นคำสบถติดปากของฝรั่งมังค่า ไม่เห็นต้องซีเรียส เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต โวยวาย หรือเขียนกลอนด่ากันเลย

      เอากับเขาสิ!!

      อีกกรณีที่มีพนักงานเสิร์ฟใส่แค่ผ้ากันเปื้อนตัวเดียวแต่ข้างในเปลือยอก เวลาวางอาหารแต่ละจาน นมก็ล้นทะลักออกมาให้ลูกค้าได้เห็นกันจะจะ  ..ผู้ใหญ่อย่างเราจะมองว่า ปล่อยไว้ได้อย่างไรกับการทำมาค้าขายแบบนี้ ...แต่เยาวชนคนรุ่นใหม่กลับเห็นว่า ธรรมดามาก เยอะกว่านี้มีถมเถ ถ้าไม่ชอบก็อย่าเข้าร้านแบบนั้นสิ!!

      นี่คือคำตอบและวิธีคิดของเด็กยุคดิจิทัล เพราะเขาเห็นอะไรจะจะเปิดเผยมากมาย แบบสบายกว่านี้แค่คลิกนิ้วเดียวในคอมพิวเตอร์ของเขา แล้วผู้ใหญ่จะคิดมากไปทำไม???.

                                                            "ป้าเอง"  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"