เลขาธิการ พปชร.แจงไลน์หลุด "ปารีณา" วิวาทะ "ธรรมนัส" เป็นเรื่องภายในพรรคที่พูดกันตรงๆ ยันไม่มีความขัดแย้งกระทบเสถียรภาพ ธรรมนัสเผยเข้าใจความรู้สึกปารีณาดี แต่เป็นเรื่องหน่วยงานราชการต้องว่าไปตามกฎหมาย "เพื่อไทย" โวยขบวนการไอโอปล่อยข่าวดิสเครดิต เสี้ยมให้ระแวงกันเองในพรรคร่วมฝ่ายค้าน ลั่นไม่มีซูเอี๋ย-ไม่มีมวยล้ม ต้องน็อกอย่างขาวสะอาด ประธานวิปฝ่ายค้าน เผย 21 ม.ค.ได้ชื่อ รมต.ถูกซักฟอก สะพัด! "บิ๊กป้อม" ไม่รอดโดนลากไส้โครงการล็อกสเปกในหน่วยงานมั่นคง "ธรรมนัส-สุริยะ-อุตตม" ขึ้นเขียงตาม
เมื่อวันอาทิตย์ ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงานและเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีปัญหาแชตไลน์ตอบโต้กันอย่างดุเดือดระหว่าง น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ปมรุกที่ ส.ป.ก. รุกป่าสงวนฯ หลุดออกมาในโลกโซเชียล จนกลายเป็นความขัดแย้งรุนแรงว่า ตนได้มีโอกาสดูเรื่องนี้แล้ว ขอเรียนว่าแชตที่เป็นข่าวข้อขัดแย้งนั้น ความจริงเป็นเรื่องภายในของกลุ่มไลน์ของสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งยังไม่ทราบว่าหลุดรั่วไปได้อย่างไร
"ต้องถือว่าเป็นเรื่องภายในพรรคและไม่ได้เป็นปัญหาข้อขัดแย้ง ซึ่ง ส.ส.ปารีณาก็ได้พูดออกมาแล้ว ว่าไม่ได้มีข้อขัดแย้ง ผมสอบถามรัฐมนตรีธรรมนัสก็ไม่ได้มีข้อขัดแย้ง เป็นเพียงการพูดคุยกันในพรรค ซึ่งพรรคเรานั้นจะสังเกตว่าเรามีการพูดคุยลักษณะนี้กันอยู่ภายในพรรค เพราะเราพูดกันตรงๆ แต่ไม่ได้ถือเป็นความขัดแย้ง"
เลขาธิการพรรค พปชร.กล่าวว่า ความขัดแย้งเป็นความเห็นต่างในระบอบประชาธิปไตยในวิธีคิด แต่ไม่เคยมีความขัดแย้งที่นำไปสู่ความไม่มีเสถียรภาพของพรรค หรือไม่มีเสถียรภาพของเสียงรัฐบาลเลย พรรค พปชร.เป็นพรรคที่มีวินัยและชัดเจนในเรื่องบทบาทของพรรคต่อสาธารณะ แต่การพูดจาภายในพรรคก็เป็นเรื่องภายใน จึงไม่อยากให้หยิบมาเป็นประเด็น และไม่ได้เป็นความขัดแย้งใดๆ ทั้งคู่ไม่ได้มีปัญหาอย่างที่หลายฝ่ายกังวลใจ
เมื่อถามถึงกระแสข่าวพรรค พปชร.ให้ความช่วยเหลือด้านคดีแก่ น.ส.ปารีณา นายสนธิรัตน์กล่าวว่า หากพรรคช่วยเหลือปารีณาจริงคงไม่มีแชตหลุดออกมา แต่พรรคดำเนินการตรงไปตรงมาในแต่ละเรื่องและไม่ได้ลอยแพ พรรคดูแลบุคลากรของพรรค สิ่งใดที่ต้องดำเนินการดูแลลูกพรรคเราก็ดำเนินการอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว
นายสนธิรัตน์กล่าวด้วยว่า ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นใน กมธ.ป.ป.ช.นั้นเป็นเรื่องภายในกรรมาธิการ เป็นความขัดแย้งส่วนบุคคล พรรคขอดูเรื่องนี้ต่อไป อะไรที่เป็นเรื่องของพรรค พรรคก็จะดูแล ส่วนเรื่องของบุคคลและเอกสิทธิ์ของบุคคลก็เป็นเรื่องของบุคคล พรรค พปชร.ได้ให้อิสระในการทำงานของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพอสมควร พรรค พปชร.ได้มุ่งทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ไม่อยากให้นำบทบาทของแต่ละคนมาเป็นบทบาทและภาพลักษณ์ของพรรค ยืนยันพรรคมุ่งหน้าทำงานและไม่มีภาพลักษณ์ที่เสียต่อพรรค
ถามถึงกระแสข่าวเรื่องดีลลับกับฝ่ายค้านเพื่อไม่ให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ไม่ทราบจริงๆ คิดว่าเป็นการวิเคราะห์กันไป เพราะขณะนี้เรายังไม่ทราบเลยว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจใคร มีแต่เพียงรายชื่อที่ประเมินออกมาผ่านหน้าสื่อ ส่วนการอภิปรายเรื่องที่ดินพ่อของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ก็ยังเป็นเพียงกระแสข่าว ยังไม่มีความชัดเจน แต่รัฐบาลก็มีหน้าที่เตรียมความพร้อมในทุกประเด็นที่เป็นข้อเท็จจริง
'ธรรมนัส' ยันทำตาม กม.
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ปารีณาโพสต์การสนทนาในลักษณะต่อว่า ร.อ.ธรรมนัสไม่ช่วยเหลือในประเด็นที่ถูกโจมตีเรื่องการบุกรุกและครอบครองที่ดินของรัฐ รวมถึงอาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายว่า เรื่องที่เกิดขึ้นตนยังไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เรื่องทั้งหมดได้เข้าสู่กระบวนการแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องของฝ่ายกฎหมายปฏิรูปที่ดินกับฝ่ายกฎหมายของคุณปารีณาที่เจรจากันอยู่ ซึ่งอาจมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันก็เลยเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น แต่โดยส่วนตัวยังไม่เห็นเรื่องนี้เลย ซึ่งตั้งแต่เป็นข่าวตนก็เดินทางไปตรวจราชการตลอด ตั้งแต่ที่ จ.สมุทรสาคร, ระยอง และก็มาที่เกาะสมุย จึงไม่ทราบรายละเอียด เมื่อกลับไปทำงานในวันจันทร์จะได้สอบถามฝ่ายกฎหมายว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ตนไม่ได้มีเรื่องกับคุณปารีณา เพราะมันเป็นเรื่องของฝ่าย ส.ป.ก. เดี๋ยวจะต้องตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้น
"ผมเข้าใจความรู้สึกของ น.ส.ปารีณาเป็นอย่างดี แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของหน่วยราชการที่มีกฎหมายกำกับ ก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ถ้าผมไม่ดำเนินการก็เท่ากับละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ยิ่งการที่ทั้งผมและคุณปารีณาอยู่ตรงนี้ก็ถูกจับตาเป็นพิเศษจากสังคมอยู่แล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่เราไปต่อต้านไม่ทำตามไม่ได้คือข้อกฎหมาย" ร.อ.ธรรมนัสกล่าว
นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับมือฝ่ายค้านที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ในส่วนรัฐมนตรีทุกคนของพรรคมีความเชื่อมั่นในการทำงานที่ผ่านมา สำหรับประเด็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจพรรคมีความพร้อมอยู่แล้ว ทั้งการเตรียมข้อมูลที่มีการคาดหมายและประเด็นใหม่ รวมทั้งการประสานงานกับพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งได้ประสานไปยังผู้บริหารพรรคที่เป็นรัฐมนตรี ในการเตรียมข้อมูลรวมทั้งเอกสารหลักฐานหากมีการพาดพิงถึง ทั้งนี้อยากให้รอดูการเปิดเผยรายชื่อที่มีความชัดเจนก่อน
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า เป็นกระบวนการตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญที่ฝ่ายค้านสามารถใช้สิทธิ์ได้เต็มที่ ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล รัฐมนตรีทั้ง 7 คนไม่มีความกังวลใดๆ ทั้งสิ้น ข้อมูลจากการบริหารราชการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงที่รับผิดชอบ รัฐมนตรีทุกคนเก็บข้อมูลรายละเอียดไว้ทั้งหมด หากญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจมีการกำหนดตัวที่เกี่ยวข้องกับรัฐมนตรีของพรรค รัฐมนตรีทุกคนพร้อมชี้แจงเพราะเชื่อในการบริหารราชการแผ่นดินที่ยึดหลักความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ตั้ง ขณะที่ในส่วนของพรรคร่วมอื่นๆ ยังไม่ได้มีการประสานความร่วมมือในการอภิปรายแต่อย่างใด ซึ่งกลไกในการประสานก็เป็นหน้าที่ของวิปรัฐบาลที่มีหน้าที่โดยตรงอยู่แล้ว
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายเป็นห่วงเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลว่าจะมีการคุมเสียงไม่ได้ นายราเมศกล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่าวิปรัฐบาลจะสามารถบริหารจัดการควบคุมเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลได้เป็นอย่างดี ส่วนเสียงของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่าไม่ได้มีความขัดแย้งกันภายในพรรค มีเอกภาพเต็มที่ แต่ทั้งนี้ต้องรอดูญัตติของพรรคฝ่ายค้านที่จะยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรก่อน
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นมาตรการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลตามกลไกของรัฐธรรมนูญ แต่จากกระแสข่าว ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย คัดค้านการเปิดอภิปราย พล.อ.ประวิตร หรือข่าวแกนนำพรรคเพื่อไทยแอบนัดจิบไวน์กับแกนนำของรัฐบาล รวมถึงข่าวการขอเงินงบประมาณ 900 ล้านบาทเพื่อแลกกับการไม่ใส่รายชื่อในการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีบางคน เพื่อดิสเครดิตทำลายความน่าเชื่อถือการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ย่อมมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ทางการเมือง เพราะจะทำให้ประชาชนขาดความไว้วางใจและขาดความเชื่อมั่นศรัทธาต่อระบบการเมืองไทย จึงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันทำงานการเมืองแบบสร้างสรรค์ เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีและภาพพจน์ของฝ่ายการเมืองทั้งหมดให้เป็นที่ไว้วางใจของคนไทยทั่วทั้งประเทศ
ข่าวล็อบบี้ทำลาย ปชต.
"อยากให้พรรคร่วมฝ่ายค้านมีอิสระในการทำหน้าที่อภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างเต็มความสามารถ ตีแผ่เรื่องความไม่ชอบมาพากล เรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน การบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ และประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาล โดยมีพยานหลักฐานหรือใบเสร็จมาโชว์ในการอภิปรายอย่างชัดเจน ส่วนฝ่ายรัฐบาลซึ่งมีหน้าที่ตอบข้อซักถาม ข้อสงสัยของพรรคฝ่ายค้าน โดยใช้ผลงานมาหักล้าง ยืนยันความบริสุทธิ์ในการทำงาน ชี้แจงและตอบคำถามในลักษณะสร้างสรรค์ ไม่ควรจัดตั้งองครักษ์เพื่อตีรวนหรือขัดขวางการตรวจสอบ เพราะจะเป็นการทำลายบรรยากาศการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และไม่อยากเห็นการเมืองไทยเดินถอยหลังไปสู่ยุครัฐธรรมนูญปี 2521 หรือย้อนยุคการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยรัฐบาลของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ที่มีการเล่นเกมล็อบบี้ให้มีการถอนชื่อจนญัตติตกไป หรือทำทุกวิถีทางเพื่อสกัดกั้นไม่ให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจเกิดขึ้น ซึ่งเป็นการทำลายกลไกการตรวจสอบของฝ่ายค้านต่อฝ่ายรัฐบาลตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ" นายเทพไทกล่าว
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวเกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า การมาร่วมรัฐบาลเราต้องมั่นใจก่อนว่าเราทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ต้องมั่นใจว่าแต่ละคนแต่ละฝ่ายไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝง และเราต้องสามารถนำพาประเทศไปข้างหน้าได้ด้วย ซึ่งขณะนี้เราทำงานร่วมกันได้ แต่ถ้าหากมีใครหลุดกรอบไปจากที่กล่าวมา มีปัญหาเรื่องการคอร์รัปชัน ตนก็ต้องทำสิ่งที่ถูกต้อง
เมื่อถามถึงเสถียรภาพของรัฐบาล นายอนุทินกล่าวว่า บางคนเป็นห่วงว่าเรามีเสียงน้อย รัฐบาลไม่เข้มแข็ง เพราะเขามองเชิงตัวเลข แต่ส่วนตัวมองเรื่องการทำงาน ทำงานได้ ไม่มีปัญหา คุยกันเข้าใจ ถือว่ามีความเป็นปึกแผ่นแล้ว ส่วนปัญหาการคอร์รัปชันในประเทศไทยเกิดมาจากกฎหมาย อาทิ ทำไมนักลงทุนต้องรอการอนุมัติจากคนเพียงคนเดียวที่มีอำนาจในส่วนนั้น นี่เลยคือสาเหตุของการคอร์รัปชัน สำหรับพรรคภูมิใจไทยเราไม่ยอมให้คนโกงนั่งรถบัสไปกับเราแน่นอน และเรามีเสียงในสภามากพอที่จะเสนอกฎหมายต่างๆ รวมไปถึงเรื่องแก้ปัญหาคอร์รัปชัน ต้องดูว่าใครจะสนับสนุนเราบ้าง
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวพรรคพลังประชารัฐประสานพรรคเพื่อไทยร่วมเป็นรัฐบาลว่า วิธีคิดที่เป็นวิทยาศาสตร์จะช่วยหาคำตอบได้ไม่ยากว่าใครเป็นผู้ปล่อยข่าวปลอมนี้ คนที่ได้ประโยชน์สูงสุดจากข่าวปล่อยนี้มีกลุ่มเดียว ปล่อยออกมาเพื่อกดดันพรรคร่วมรัฐบาล และหวังจะทำลายน้ำหนักของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ลักษณะทำกันเป็นกระบวนการ คล้ายไอโอของคนในองค์กรหนึ่งที่เป็นลมใต้ปีกพยุงรัฐบาลตลอดเวลา หวังจะให้เป็นไวรัล แต่กลายเป็นไวรัส เฟกนิวส์ ที่ความเสียหายจะพุ่งเข้าใส่ตัวคนปล่อยข่าวเอง ประชาชนมาไกล คิด วิเคราะห์ แยกแยะเองได้ ถ้าจะสบายใจกับการปล่อยข่าวปลอบใจตัวเองก็เหลือเวลาให้สบายใจอีกไม่กี่วัน
"คนบางกลุ่มบอกว่าพรรคเพื่อไทยอาจไม่ถนัดในการเป็นฝ่ายค้าน ฉะนั้นเราจึงต้องรีบอภิปรายล้มรัฐบาลในสภาให้ได้ เพื่อกลับมาเป็นรัฐบาลแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้ประเทศชาติและประชาชนโดยเร็ว การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ไม่มีมวยล้ม นอกจากจะต้องชนะแล้ว ต้องชนะน็อกอย่างใสสะอาด และชนะใจประชาชนคนไทยทั้งประเทศเท่านั้น พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านจะต่อยอดจากวิ่งไล่ลุงนอกสภา เป็นอภิปรายไล่ลุงในสภา คนออกมาไล่มากขนาดนี้ ถ้าพ้น 6 เดือนแรกของปีไปได้ต้องถือว่าปาฏิหาริย์ อนาคอนดาที่พยายามปล่อยข่าว-ไม่มี มีแต่งูเห่าที่ประชาชนเห็นตัวหมดแล้ว ประชาชนรอที่จะลงโทษ ที่สุดคนพวกนี้อาจเหลือเป็นได้แค่ไส้เดือนในการเลือกตั้งครั้งหน้า" นายอนุสรณ์กล่าว
โวยไอโอดิสเครดิตฝ่ายค้าน
ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช คณะกรรมการกิจการพิเศษ ในฐานะหัวหน้าศูนย์ข้อมูลสารสนเทศ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์เพื่อไม่ให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประวิตรและรัฐมนตรีบางคนว่า ไม่เป็นความจริง ตอนนี้มีสมาชิกพรรคเพื่อไทยจำนวนมากเสนอเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจให้ศูนย์ข้อมูลสารสนเทศ เพื่อดำเนินการสรุปรายละเอียด และจะมีการประชุมสรุปและเสนอรายละเอียดทั้งหมดในเช้าวันจันทร์ที่ 20 ม.ค.ให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษ จากนั้นเสนอเรื่องต่อนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค เพื่อพิจารณาในช่วงบ่าย หลังจากที่ได้ข้อสรุปโดยรวมทั้งหมดก็จะจัดให้มีการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและสรุปรายชื่อผู้ที่จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจอีกครั้ง
"คณะกรรมการกิจการพิเศษจะไม่ปิดกั้นขัดขวาง หรือจำกัดสิทธิ์ในเรื่องการอภิปรายของสมาชิกพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้าน ทั้งในเรื่องของตัวบุคคลว่าจะอภิปรายใครหรือหัวข้ออะไร หากใครมีข้อมูลใหม่ๆ และหลักฐานที่ดีและชัดเจนก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ช่วงนี้มักมีคนปล่อยข่าวออกมาเป็นระยะ โดยเป็นการดิสเครดิตเพื่อลดความน่าเชื่อถือของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ถ้าหากเป็นการดำเนินการปฏิบัติการข่าวสาร (IO) ของใครคงเดาได้ไม่ยาก และคงหนีไม่พ้นผู้ที่ขาดภาวะความเป็นผู้นำบริหารงานไม่ถูกวิธีและอยากสืบทอดอำนาจต่อไปอีก เชื่อว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้จะทำให้ประชาชนได้เห็นและรับรู้ถึงความเป็นจริงอย่างถ่องแท้ และประชาชนคงตัดสินใจได้ว่าอยากเห็นรัฐบาลชุดนี้บริหารงานต่อไปอีกหรือไม่" ร.ต.อ.วัฒนรักษ์กล่าว
ด้านนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า วันที่ 20-21 ม.ค. พรรคร่วมฝ่ายค้านจะมีการประชุมถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อให้ได้ข้อสรุปว่าจะอภิปรายรัฐมนตรีคนใดบ้าง เรื่องอะไร จะยื่นอภิปรายวันที่เท่าไหร่ จะเหลือเพียงลำดับการอภิปรายที่จะหารือภายหลัง รายชื่อรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายของพรรคเพื่อไทยมี 5 คนตามที่เปิดเผยก่อนหน้านี้ และยังพิจารณาอยู่จะเพิ่มอีก 2-3 คน พรรคร่วมฝ่ายค้านจะสามารถยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในสัปดาห์นี้แน่นอน อยากให้รัฐบาลเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านอภิปรายอย่างเต็มที่ อย่ามาจำกัดเวลา ส่วนชื่อของ พล.อ.ประวิตรอยู่ในกลุ่มที่พิจารณาเพิ่ม ซึ่งจะเพิ่มหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่รอบสุดท้ายจะมีสมาชิกเสนอเข้ามา
เมื่อถามว่า ใกล้ช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจแต่มีกระแสข่าวที่เป็นลบต่อพรรคร่วมฝ่ายค้าน ทั้งการล็อบบี้ไม่ให้อภิปรายรัฐมนตรีบางคน หรือกระแสพรรคพลังประชารัฐจะชวนพรรคเพื่อไทยร่วมรัฐบาล นายสุทินกล่าวว่าข่าวดังกล่าวไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด และที่ปล่อยออกมาช่วงนี้เพราะต้องการดิสเครดิต ลดความน่าเชื่อถือของพรรคเพื่อไทยในช่วงนี้ และเสี้ยมให้เกิดความหวาดระแวงกันในพรรคร่วมฝ่ายค้าน
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยเผยว่า รายชื่อรัฐมนตรีที่พรรคฝ่ายค้านจะพิจารณายื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเพิ่มเติม ประกอบด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในประเด็นล็อกสเปกการจัดซื้อจัดจ้างในหน่วยงานความมั่นคง, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ประเด็นการแบนสารพิษทางการเกษตร, นายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง ประเด็นความล้มเหลวการบริหารประเทศด้านเศรษฐกิจ และเรื่องทุจริตในกระทรวง และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ประเด็นคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี และการตรวจสอบที่ดินสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.)
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.กล่าวว่า ต้องตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนว่าอภิปรายเพื่ออะไร หากการอภิปรายเต็มไปด้วยน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง ไม่กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน ก็ไม่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ แต่หากผลของการอภิปรายที่คนทั้งประเทศฟังแล้วว่ารัฐบาลไม่สามารถบริหารประเทศได้ แม้จะเป็นเสียงข้างมากก็ตามรัฐบาลก็จะอยู่ไม่ได้ แต่หากการอภิปรายเต็มไปด้วยความเคลือบแคลงสงสัย ก็ยิ่งทำให้ลดความเชื่อมั่นลงไปตามลำดับ การอภิปรายจะต้องชี้ให้ประชาชนที่ฟังการถ่ายทอดทางโทรทัศน์เห็นว่าที่สุดแล้วก็ไว้วางใจไม่ได้จริงๆ เหมือนอย่างที่ตนเคยบอกว่าไม่ต้องใช้คนจำนวนมาก แต่ให้ใช้ความจริง.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |