นักการเมืองเป็นบุคคลสาธารณะ
    คำพูดนักการเมืองที่ออกสู่สาธารณะ จึงมีความสำคัญต่อความเป็นไปของบ้านเมือง
    เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นักการเมืองที่ชื่อ "ปิยบุตร แสงกนกกุล" ไปพูดที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ในงานที่พรรคอนาคตใหม่จัดขึ้น ชื่องานว่า
    "Future is now อย่ากลัวอนาคต" 
    ท่อนหนึ่งของคำพูด "ปิยบุตร" บอกว่า
    "หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ฉบับวันนี้ (๑๘ มกราคม ๒๕๖๓) จงใจพาดหัวว่าพวกเราอยู่ตรงข้ามสถาบัน อ้างถึงการอัดคลิปของผม ยืนยันว่าการยุบพรรคเป็นการนำประเด็นสถาบันมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง หากยุบพรรคเกิดขึ้นจริง กำลังบอกหรือไม่ว่าผมและคุณธนาธรเผชิญหน้ากับสถาบัน แต่ไทยโพสต์นำไปบิดเบือนพาดหัว ไม่ใช่สื่อมวลชน แต่เป็นใบปลิว"
    ก็น้อมรับ แล้วแต่จะมองว่า ไทยโพสต์เป็นใบปลิว กระดาษเช็ดก้น หรืออะไรก็ตามแต่ ก็เชิญตามสบาย เพราะเป็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
    ในบ้านเมืองที่เป็นประชาธิปไตย ไม่มีใครมาปิดปากห้ามพูด 
    ที่จริงไม่ใช่เฉพาะไทยโพสต์
    "ปิยบุตร" วิจารณ์เขาไปทั่ว
    ศาลโดนมากี่รอบแล้วกับคำว่า "ปากกาไม่ได้อยู่ที่ผม อยู่ที่ศาล"
    ราวกับว่าศาลจะวินิจฉัยคดีแบบไหนก็ได้ อยู่ที่ปลายปากกา ไม่ต้องอ้างอิงเอกสาร หลักฐาน 
    ทำไม "ปิยบุตร" มองว่าคนที่วิพากษ์วิจารณ์ตนเอง ปลุกระดมให้เกิดความรุนแรง ไม่เคยทบทวนประวัติศาสตร์ เช่น โศกนาฏกรรม 6 ตุลาฯ
    เอาจริงนะ! คนที่ "ปิยบุตร" กำลังด่าอยู่นี้ เขาผ่านเหตุการณ์เดือนตุลา พฤษภาทมิฬ  เจ็บปวดกับความขัดแย้งและสูญเสียในอดีต และไม่อยากให้เหตุการณ์ที่ว่านี้เกิดขึ้นมาอีก
    ก่อน "ปิยบุตร" ปฏิสนธิเกือบสิบปี 
    หลังประเทศพ้นภัยคอมมิวนิสต์ บ้านเมืองเป็นปึกแผ่นกว่า ๒๐ ปี กระทั่งมีนักการเมืองขี้โกงพยายามตีเสมอเจ้า ด้วยการสนับสนุนของซ้ายตกขอบ ความขัดแย้งทางการเมืองก่อตัวอีกครั้งและต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้
    แล้ว "ปิยบุตร" และอนาคตใหม่ เป็นกลุ่มปฏิกษัตริย์นิยมหรือไม่?
    พูดกันอย่างลูกผู้ชาย "ปิยบุตร" ก็รู้ดีว่าตัวเองยืนอยู่จุดไหน 
    แต่มันไม่อาจเผยตัวตนออกมา ๑๐๐% เต็มได้ เพราะมีกฎหมายค้ำคอ
    สาวกอนาคตใหม่การันตีได้ ถ้ายังจะปฏิเสธ ก็ลองเข้าไปดูการแสดงความเห็นในโซเชียล พวกคุณเป็นปี่เป็นขลุ่ยกันไม่ใช่หรือ
    มันถึงไม่มีใครสงสัยเรื่องเป็นปฏิกษัตริย์นิยมหรือไม่เป็น เพราะพวกคุณแสดงออกทั้งคำพูดและพฤติกรรมมาโดยตลอด  
    มาถึงประเด็นสื่ออย่างไทยโพสต์ปลุกระดมหรือเปล่า?
    หรือพูดความจริงว่าพวกคุณคิดอะไร 
    งั้นลองอ่านคำพูด "ปิยบุตร" ท่อนนี้ดู
    "ผมคุยกับคุณธนาธรเรียบร้อยแล้ว งานนี้เอาจริงไม่มีถอย วันนี้ไม่ช้าก็เร็วต้องมาถึง เมื่อมาถึงคุณธนาธรจะรณรงค์การเมืองต่อเนื่อง ไม่กลับไปทำธุรกิจ ผมไม่สามารถอภิปรายในสภาฯ ได้ ก็จะเดินทางไปทั่วประเทศอภิปรายต่อหน้าพวกมัน แล้วบ้านใหม่ก็จะดำเนินการตามแนวทางอนาคตใหม่ทั้งหมด อาวุธยุบพรรคจะกลายเป็นกระสุนด้านทันที ต่อไปนี้จะไม่กล้ายุบ ยุบไปเป็นกระสุนด้านไม่เกิดประโยชน์ ไม่อันตรายต่อผม คุณธนาธร หรือชาวพรรค" 
    จะเดินทางไปทั่วประเทศอภิปรายต่อหน้าพวกมัน เขาเรียกว่าปลุกระดมมั้ย 
    แค่ใช้คำว่า "พวกมัน" กับฝ่ายที่คิดไม่เหมือนตัวเอง มันก็สะท้อนให้เห็นแล้วว่า พวกคุณมึงต้องการให้ประเทศเกิดความวุ่นวายขึ้นมา 
    มันก็เป็นไปตามสูตร ประเทศวุ่นวายจนสุดขีด มันก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงเสมอ อยู่ที่คนลงมือ ว่าต้องการให้เปลี่ยนไปแบบไหน 
    แบบฝรั่งเศสในอดีตนั่นก็ใช่
    ถ้าเป็นอย่างนั้น มันก็ต้องรบ ต้องนับศพกัน
    เพราะไม่มีใครกลัวอนาคต (ใหม่).