“เฮียฮ้อ”จัดทัพปั้นอาร์เอสมอลล์


เพิ่มเพื่อน    

"ปี 2563 นี้ นับเป็นก้าวใหญ่ครั้งสำคัญของอาร์เอสในรอบ 37 ปี หลังจากใช้เวลาประมาณ 5 ปี เพื่อเป็นประสบการณ์และศึกษาตลาดกับลูกค้า ได้เรียนรู้ เข้าใจสภาพแวดล้อมของธุรกิจ พฤติกรรมลูกค้า และมองเห็นช่องว่างอีกมาก ซึ่งเป็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญในอนาคต จึงเป็นที่มาของการปรับโครงสร้างภายในและทีมทำงานใหม่ รวมถึงการกำหนดวิสัยทัศน์ และวางกลยุทธ์เพื่อความพร้อมเข้าสู่การเติบโต เพื่อสร้าง New S Curve"

 

      จากการทดลองใช้พื้นที่มีเดียที่เหลือจากการขาย มาเป็นพื้นที่โฆษณาทดลองขายสินค้ากับผู้ชม ในปี 2563 ธุรกิจพาณิชย์หลายช่องทางจะกลายเป็นแรงขับเคลื่อนหลักขององค์กร ที่จะทำให้ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) สามารถสร้างรายได้รวม 5,250 ล้านบาท ผ่านทั้งช่องทางโทรทัศน์ของบริษัทอย่างช่อง 8 และช่องพันธมิตร ทั้งไทยรัฐ เวิร์คพอยท์  และล่าสุด อมรินทร์ทีวี รวมถึงช่องทางออนไลน์ ทั้งเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และสื่อโซเชียลทั้งหมด

      สำหรับแบรนด์ “อาร์เอสมอลล์” (RS Mall) ถือกำเนิดขึ้นมาด้วยเป้าหมายที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ในการซื้อสินค้าและบริการที่รวดเร็ว สะดวกสบาย เชื่อถือได้ ผ่านการเล่าเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจ เพื่อช่วยเติมเต็มชีวิตให้กับทุกคน โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักที่เป็นผู้หญิงอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั่วประเทศ เป็นแพลตฟอร์มที่จำหน่ายสินค้าและบริการในหลากหลายกลุ่ม โดยแบ่งเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มแฟชั่น เครื่องประดับ, กลุ่มความสวย ความงาม, กลุ่มอาหาร อาหารเสริม, กลุ่มของใช้ในบ้าน และกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ตอบโจทย์ทุกมิติของการช็อปปิ้ง ที่สะดวกสบาย ครบครัน ปลอดภัย และยังสะดวกสบายด้วยบริการจัดส่งถึงบ้าน รวมถึงมีคอลเซ็นเตอร์ให้บริการตลอด 24 ชม.

ก้าวใหญ่ในรอบ 37 ปี

        นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อาร์เอส (RS) เปิดเผยว่า ในปี 2563 นี้ นับเป็นก้าวใหญ่ครั้งสำคัญของอาร์เอสในรอบ 37 ปี หลังจากใช้เวลาประมาณ 5 ปี เพื่อเป็นประสบการณ์และศึกษาตลาดกับลูกค้า ได้เรียนรู้ เข้าใจสภาพแวดล้อมของธุรกิจ พฤติกรรมลูกค้า และมองเห็นช่องว่างอีกมาก ซึ่งเป็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญในอนาคต จึงเป็นที่มาของการปรับโครงสร้างภายในและทีมทำงานใหม่ รวมถึงการกำหนดวิสัยทัศน์ และวางกลยุทธ์เพื่อความพร้อมเข้าสู่การเติบโต เพื่อสร้าง New S Curve ภายใต้ 4 ยุทธศาสตร์หลัก ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ที่ 5,250 ล้านบาท โดยธุรกิจคอมเมิร์ซมีสัดส่วนสูงสุดที่ 60% และคาดว่าจะสร้างการเติบโตได้ถึง 1 หมื่นล้านบาทในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

        ภายใต้ 4 ยุทธศาสตร์หลัก ประกอบไปด้วย เอ็นเตอร์เทนเมิร์ซ (Entertainmerce) ซึ่งเป็นการต่อยอดธุรกิจของอาร์เอสด้วยการเชื่อมโยง ผสานจุดแข็งให้เต็มที่แบบบูรณาการ เป็นพลังขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ, ข้อมูลของฐานลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลของผู้ชมรายการทีวี ผู้ฟังรายการวิทยุ  รวมถึงสมาชิกและผู้ติดตาม สื่อโซเชียลกว่า 100 ล้านบัญชี คือปัจจัยที่จะสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจในอนาคต และสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการนำเสนอสินค้าและบริการให้กับลูกค้า รวมถึงโอกาสในการเข้าสู่ธุรกิจใหม่ ด้วยการลงทุนในระบบเทคโนโลยี และทีมงานที่จะมาขับเคลื่อนเทคโนโลยีเหล่านี้

        การมีพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจ เพราะการทำธุรกิจในยุคปัจจุบันต้องนำจุดแข็งไปประสาน และผนวกกับพันธมิตร เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้ ต่อยอด และแบ่งปันทรัพยากร การจับมือกับพันธมิตรจะเป็นกลยุทธ์หลักในการสร้างการเติบโตอย่างแข็งแรงและยั่งยืน และ การควบรวมกิจการ นอกเหนือจากการสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากทุกธุรกิจแล้ว การทำการผนวกกิจการจะเป็นอีกยุทธศาสตร์สำคัญเพื่อสร้างอีโคซิสเท็ม (Ecosystem) ให้มีขนาดใหญ่ยิ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว สร้างมูลค่าทางธุรกิจและศักยภาพในการแข่งขัน

        “ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แม้จะเห็นว่าตลาดยังมีโอกาสอีกมาก แต่ก็ยังไม่ได้ใช้จุดแข็งของอาร์เอสในเรื่องสื่อได้อย่างเต็มที่มากนัก ในช่วงครึ่งปีหลัง 2562 จึงได้มีการปรับโครงสร้างใหม่ เติมเต็มทีมแข็งแกร่ง รวมถึงลงทุนเครื่องมือทางเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจ และเตรียมความพร้อมที่จะขับเคลื่อนแผนงานในปี 2563 อย่างสมบูรณ์แบบ”

เจาะลึกการตลาด

      นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ RS กล่าวว่า การจะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ต้องมียุทธศาสตร์หลักหลายด้านด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์ทางด้านสินค้า จะประกอบไปด้วย การเพิ่มความหลากหลายของประเภทผลิตภัณฑ์ รวมถึงการนำเอาสินค้าสำหรับเทศกาลต่างๆ เข้ามาสร้างสีสัน การทำสินค้าเฉพาะสำหรับอาร์เอสมอลล์เท่านั้น

        ขณะเดียวกัน กลยุทธ์ทางด้านการนำเสนอ จะมีการสร้างรูปแบบการนำเสนอประเภทไลฟ์สด การสาธิตการใช้จริง รวมถึงการนำผู้มีประสบการณ์ในการใช้งานจริงมาร่วมให้ความคิดเห็นและแบ่งปันประสบการณ์ ควบคู่ไปกับกลยุทธ์การตลาด นอกเหนือจากแคมเปญขนาดต่างๆ ทั้งเล็กใหญ่ที่จะมีตลอดทั้งปี ก็จะมีเรื่องของการทำลอยัลตี้โปรแกรมและพริวิลเลจต่างๆ มาเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้ากว่าล้านคนของอาร์เอสมอลล์

        ด้านเทคโนโลยีจะมีการนำเครื่องมือในการเชื่อมโยงฐานข้อมูลลูกค้าให้อยู่บนศูนย์กลางเดียวกัน เพื่อให้การบริการมีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ยังเตรียมนำเทคโนโลยีที่จะนำข้อมูลจากหลายๆ ส่วนมาประมวลผลด้วยคณิตศาสตร์หรือสถิติ เพื่อให้ได้อินไซต์ Insight เพื่อการตัดสินใจในเชิงธุรกิจบางอย่างเพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานการตลาด การปรับปรุงการให้บริการลูกค้า รวมถึงการนำเสนอสินค้าใหม่ หรือแม้แต่การวิเคราะห์ผลของแต่ละแคมเปญที่ทำออกไปว่าได้ผลลัพธ์ตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้หรือไม่ และควรปรับปรุงแก้ไขอย่างไร

        ทั้งนี้ ในเรื่องของเทคโนโลยี บริษัทจะให้ความสำคัญมากในปีนี้ เพื่อปรับปรุงการให้บริการของอาร์เอสมอลล์ ให้สามารถเป็นแบรนด์ที่สามารถสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับการช็อปปิ้งที่รวดเร็ว สะดวกสบาย เชื่อถือได้ ในการซื้อสินค้าและบริการ ผ่านการเล่าเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจ เพื่อช่วยเติมเต็มชีวิตให้กับทุกคน

        "พฤติกรรมการช็อปปิ้งของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และการช็อปปิ้งออนไลน์ก็เต็มไปด้วยการแข่งขันด้านราคา ด้วยโปรโมชั่น แต่กลับได้สินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงมีปัญหาเรื่องความไม่มั่นใจในคุณภาพของสินค้า จึงเกิดเป็นช่องว่างในตลาด ทำให้เกิดการขายในรูปแบบใหม่ที่มาปิดช่องว่างที่เกิดขึ้นที่อาร์เอส เรียกมันว่าสตอรี่เทลลิ่ง คอมเมิร์ซ (Storytelling Commerce) อีกด้วย" นางพรพรรณกล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"