18 ม.ค.63 -  พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1 ) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีคนร้ายใช้ปืนบุกชิงร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จ.ลพบุรี พร้อมยิงประชาชนเสียชีวิตไป 3 ศพ รวมทั้งเด็กชายอายุ 2 ขวบด้วยว่า ขณะนี้ตำรวจมีกลุ่มเป้าหมายที่เชื่อว่าเป็นคนก่อเหตุแล้ว แต่ยังต้องรอผลจากนิติวิทยาศาสตร์ ประกอบหลักฐานที่ตำรวจรวบรวมได้ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นพยานบุคคล หรือกล้องวงจรปิดที่มีกว่า 1,000 ตัว จาก 9 จังหวัด เพื่อให้แน่นหนาที่จะสามารถออกหมายจับดำเนินคดีได้
 
"ขณะนี้ ทั้งหลักฐานทาง นิติวิทยาศาสตร์ วงจรปิด และการสอบปากคำพยานการให้ข้อมูลจากพลเมืองดีมีมากพอ เจ้าหน้าที่พอจะรู้สโคปของคนร้ายแล้ว แต่จะนำไปสู่การขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาได้หรือไม่นั้น ต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ  สำหรับเส้นทางการหลบหนีของคนร้ายตอนนี้ ก็อาจไปถึงชายแดนตามที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวไปแล้วก็ได้ แต่ขอให้เชื่อมั่นว่าตำรวจทำงานกันเต็มที่อย่างไม่หยุดนิ่ง ด้านภูธรภาค 1 ก็แบ่งหน้าที่กันไปแล้ว "ผบช.ภ.1 กล่าว

ผบช.ภ.1 กล่าวต่อว่า ตำรวจนำข้อมูลจากพลเมืองดีมาตรวจสอบทุกอย่าง เพราะรู้ว่าทุกคนอยากให้จับคนร้ายได้ แต่ก็ยอมรับว่าภาพจากกล้องหลายภาพไม่ค่อยชัดเจน ทำให้ทำงานยาก อยากฝากว่าหากใครมีข้อมูล เบาะแส หรือกล้องหน้ารถให้ติดต่อนำมาให้ตนได้โดยตรง  ส่วนตัวเชื่อว่าผู้ใกล้ชิดต้องทราบว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ และหากให้การช่วยเหลือ สนับสนุน ปิดบัง รวมไปถึงช่วยนำทรัพย์หรือสิ่งของไปขาย ก็เข้าข่ายความผิด

ส่วนผู้ต้องสงสัยที่มีการชี้เป้าชี้เบาะแสเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการเชิญตัวมาสอบ ปากคำในเบื้องต้นก็พบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้และไม่อยากให้สื่อนำเสนอข้อมูลของบุคคลที่ตำรวจเชิญตัวมาสอบปากคำเพราะจะทำให้ได้รับความเสียหายมีผลกระทบต่อชื่อเสียงและชีวิตความเป็นอยู่ของบุคคลดังกล่าว