18 ม.ค.63 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 06.35 น.ที่กองบัญชาการกองทัพไทย มีการจัดงานวันกองทัพไทย โดยมี พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานในพิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และ พิธีมังคลาภิเษกพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช (จำลอง) ณ พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
จากนั้นเวลา 07.10 น.มอบหมาย พล.อ. ชัยชนะ นาคเกิด รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน พิธีถวายราชสักการะพระบรมรูป รัชกาลที่ 5 พิธีบวงสรวงพระบรมรูปพระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นมหาราช 9 พระองค์ พิธีวางพวงมาลาสักการะดวงวิญญาณนักรบไทย และพิธีสงฆ์ พร้อมบำเพ็ญกุศล เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระนเรศวรมหาราช วีรกษัตริย์ไทย และบูรพกษัตริย์ไทยทุกพระองค์ ตลอดจนเหล่าบรรพชนของไทยที่สร้างวีรกรรมอันกล้าหาญสละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกป้องรักษาผืนแผ่นดินไทย เนื่องในวันกองทัพไทย ประจำปี 2563 ที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รอง ผบ.ทบ.,พล.ร.อ.ช่อฉัตร กระเทศ รอง ผบ.ทร.,พล.อ.อ.วีรพงษ์ นิลจินดา รอง ผบ.ทอ.และตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วม
สำหรับวันกองทัพไทยนั้น ตรงกับวันที่ 18 มกราคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติไทย คือ ถือเป็นวันที่รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ทรงกอบกู้เอกราชของชาติไทย จึงถือเอาวันนี้เป็นวันกองทัพไทย นอกจากนี้ วันกองทัพไทยยังเป็นวันที่ข้าราชการทหารจะได้กระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของสถาบันสูงสุด อันได้แก่ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
ในขณะที่ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือพล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ต.อ จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
เดินทางไปศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร ตำบลปากเพรียว อำเภอมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี
ร่วมเฝ้าฯ รับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดีกรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ไปในพิธีสวนสนามถวายสัตย์ปฏิญาณของทหารและตำรวจ 6,812นาย จาก 39กองพัน ทั่วประเทศ เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562และวันกองทัพไทย
สำหรับการสวนสนามเทิดเกียรติฯ ครั้งนี้ถือเป็นการสวนสนามครั้งยิ่งใหญ่ครั้งแรกในรัชสมัยนี้ โดยเหล่าทัพได้นำยุทโธปกรณ์เกือบทุกแบบที่มีประจำการเข้าร่วม ไม่ต่างจากสวนสนามแสนยานุภาพ เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2539 ที่ลานพระราชวังดุสิต ในงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว
ทั้งนี้การจัดกำลังสวนสนามแบ่งออกเป็นกำลังภาคพื้น 10 กรมสวนสนาม และ 1 กองพันทหารม้า ประกอบด้วย 7 กรมสวนสนามเดินเท้า (กรมละ 4 กองพัน ), 2 กรมยานยนต์สวนสนาม และ 1 กองพันทหารม้า รวมถึงกำลังทางอากาศจำนวน 37 เครื่อง ประกอบด้วยหมู่บิน AU-23 บินปล่อยควันสีรูปธงชาติ ตามด้วยหมู่บินเฮริลคอปเตอร์ 4 เหล่าทัพ โดย บินหมู่ 6 และหมู่ 9 รวมถึงหมู่เครื่องบินรบ ทำการบินหมู่ 9 และ หมู่10
สำหรับยุทโธปกรณ์ที่นำมาสวนสนามในส่วนของกองทัพบก เช่น ยานเกราะล้อยาง stryker BTR-3E1 รถถัง M60A3 ปืนใหญ่ 105มม.,155มม. ปตอ. 35 มม. รถบรรทุกจรวด จรวดหลายลำกล้อง รถถัง OPLOT รถถัง VT-4 กองทัพเรือ เช่น รถสะเทินน้ำสะเทินบก AAVP ยานเกราะล้อยาง BTR-3E1 จรวด TOW ปืนใหญ่ 155มม. กองทัพอากาศ เช่น เครื่องบิน F-5 ,F - 16, T-50 , Gripen JAS-39 และ เฮริลคอปเตอร์ แบบ EC 725.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |