18 ม.ค.62-นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานการประชุมสรุปผลการดำเนินการตามแผนการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย รองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 ที่ผ่านมาว่า จากการรวบรวมข้อมูลนั้น พบว่า สถิติลดลง แต่ยังเป็นที่น่าไม่พอใจ โดยภาพรวมการเกิดอุบัติเหตุทางถนน มีการเกิดอุบัติเหตุ ทั้งสิ้น 3,421 ครั้ง ลดลง 30 ครั้งจากปีที่ผ่านมา หรือลดลง 9.76% ในส่วนของการเสียชีวิต 373 ราย ลดลง 90 ราย หรือลดลง 19.44% ด้านการบาดเจ็บ 3,499 คน ลดลง 393 คน หรือลดลง 10.10% 

สำหรับ ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่ คือ รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล อยู่ที่ 79.97% ตามด้วยรถปิ๊คอัพ 4 ล้อ และรถจักรยานยนต์โดยสารสาธารณะ ในส่วนของสาเหตุในการเกิดอุบัติเหตุ พบว่า อันดับ 1 ดื่มแล้วขับ 32.68% ขับรถเร็วเกินกำหนด 29% คนหรือรถตัดหน้ากระชั้นชิด 17.48% ขณะที่พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ คือ การไม่สวมใส่หมวกนิรภัย หรือหมวกกันน็อค ตามมาด้วยการดื่มแล้วขับ และการขับรถเร็วเกินกำหนด

“จากสถิติเราพบว่า คนเป็นปัญหาหลักของการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะต้องบูรณาการในการหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก วันนี้ปรึกษาหารือ เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด แต่ละหน่วยจะต้องรับไปเพื่อวิเคราะห์ เหตุที่เกิดขึ้นจริงๆ คืออะไรอย่างจังหวัดเป้าหมาย เช่น ที่จังหวัดสุพรรณบุรี เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด เราต้องลงไปว่าที่ไหน เพราะอะไร ถ้าอะไรเป็นปัญหาทางกายภาพ การก่อสร้างที่เป็นต้นเหตุก็แก้ที่กายภาพ อะไรที่เป็นปัญหาของคนก็ต้องไปให้ความรู้ ซึ่งต้องบูรณาการกับกระทรวงมหาดไทย (มท.) จังหวัดต่างๆ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต้องทำงานหนักในเรื่องนี้ ต้องโฟกัสในหมู่บ้านคนที่เสียชีวิตมาจากที่ไหน และเกิดมาจากสาเหตุอะไร ซึ่งจะต้องเข้มข้นด้วย” นายศักดิ์สยาม กล่าว

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า ได้มอบนโยบายให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ไปพิจารณามาตรการในการออกหลักสูตรสอบใบอนุญาตขับรถ (ใบขับขี่) ในรถทุกประเภท พร้อมปรับปรุงใหม่ให้เป็นมาตรฐานสากล โดยนำตัวแบบจากประเทศที่ประสบความสำเร็จในเรื่องของสถิติอุบัติเหตุเกิดขึ้นน้อย อาทิ เยอรมนี สวิสเซอร์แลนด์ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ และบูรณาการร่วมกับ พ.ร.บ.จราจร ในการบังคับใช้ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อกำหนดมาตรการตัดคะแนนใบขับขี่ จนถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตด้วย ขณะเดียวกันให้เพิ่มเติมในเรื่องการตัดคะแนนรถด้วย ซึ่งถือเป็นการช่วยป้องกันอุบัติเหตุ และลดมลภาวะ PM 2.5 

นอกจากนี้ได้ให้การบ้านทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ไปบูรณาการหามาตรการต่างๆ ในการลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุลง พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีมาใช้ โดยมอบหมายให้นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานฯ และสั่งการให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) บูรณาการร่วมกับกรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และกองทัพอากาศ (ทอ.) ที่จะนำโดรนมาใช้ในการบริหารจัดการ อำนวยความสะดวก และสร้างความปลอดภัยในการเดินทางให้กับประชาชน รวมถึงให้ ทล.จัดตั้งศูนย์ควบคุมฯ (Operation Room) เพื่อประเมินสถานการณ์แบบเรียลไทม์ในแต่ละเส้นทาง อีกทั้ง ประชาชนยังสามารถรับทราบข้อมูล เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเดินทางได้ด้วย 

ทั้งนี้ จะมีการประชุมเพื่อติดตามเรื่องดังกล่าวอีกครั้งในช่วงต้น ก.พ.นี้ จากนั้นจะสรุปรายละเอียด และเริ่มดำเนินการก่อนที่จะถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2563 นี้

“สิ่งที่ข้าราชการกระทรวงคมนาคมได้ทำ ถือว่ามีประสิทธิภาพที่ดีมากๆ แต่ต้องเพิ่มกำลังในการทำอีก ซึ่งการสำเร็จจะอยู่ที่การมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชน สถิติจะได้ลดลงเป็น 0 สิ่งเหล่านี้ต้องช่วยกันทั้งประเทศ ผมเชื่อว่าหากช่วยกัน ก็ลดได้หมด หากพวกเราช่วยกัน เชื่อว่าจะสำเร็จ และในช่วงสงกรานต์ 2563 ที่จะถึงนี้ ได้วางเป้าไว้ว่าจะลดลงกว่านี้อีก และเชื่อว่าเราทำได้” นายศักดิ์สยาม กล่าว