นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมด้วยคณะที่ปรึกษา เดินทางไปยังจังหวัดเชียงราย เพื่อเชิญสิ่งของพระราชทาน จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปมอบให้กับราษฎรและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริบ้านธารทอง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย
ซึ่งเป็นโครงการฯ ที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อปี 2546 เพื่อหยุดยั้งการทำลายป่า โดยให้สถานีเป็นแหล่งจ้างงานผลิตอาหารที่ปลอดภัยและในขณะเดียวกันให้เป็นศูนย์การเรียนรู้การเกษตรที่ถูกวิธี โดยสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ได้ให้การสนับสนุนในงานด้านการขยายผลในทุกปี เกษตรกรสามารถนำความรู้ไปปฏิบัติในพื้นทีทำกินของตนเองได้เพื่อการดำรงชีพภายใต้แนวทางคนอยู่กับป่าได้อย่างยั่งยืนที่พึงประจักษ์ต่อประสิทธิผลในทุกวันนี้
ด้วยทรัพยากรธรรมชาติในบริเวณพื้นที่ที่เคยเสื่อมโทรมได้รับการฟื้นฟูอย่างถูกหลักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมและป่าไม้มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2546 โดยมีพื้นที่เป้าหมายจํานวน 7,000 ไร่ ปัจจุบัน ดําเนินการไปแล้ว 4,330 ไร่ ส่งผลให้สภาพป่าคืนความสมบูรณ์มาเป็นลําดับ เป็นแหล่งต้นน้ำของลุ่มน้ำจํานวน 3 สาย มีน้ำไหลตลอดทั้งปี คือ ลุ่มน้ำยาบ ที่มีลําห้วยผาแตก ห้วยขุนน้ำคํา และห้วยน้ำยาบแง่ซ้าย ในเขตอําเภอเชียงแสน รวมถึงลุ่มน้ำห้วยเม็งและลุ่มน้ำห้วยน้ำส้ม ในเขตอําเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ซึ่งทั้ง 3 ลุ่มน้ำนี้ ได้ไหลผ่านแหล่งทำประโยชน์ซึ่งเป็นพื้นที่ทำกินของราษฎรก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขง ส่งผลให้ผืนแผ่นดินไทยริมฝั่งแม่น้ำโขงมีความอุดมสมบูรณ์ทรัพยากรธรรมชาติ ดิน น้ำ ป่า เอื้อต่อการทำกินของราษฎรอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี จากประโยชน์ที่ได้รับดังกล่าวราษฎรในพื้นที่จึงร่วมมือกับเจ้าหน้าที่จากส่วนงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันดูแลผืนป่าอย่างเต็มที่โดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้งมีการเฝ้าระวังและป้องกันไฟป่าไม่ให้เกิดขึ้นในพื้นที่นอกเหนือจากการลดละเลิกการเผาวัสดุเหลือใช้จากงานด้านการเกษตร
การนี้ องคมนตรีและคณะ ได้ชมการสาธิตการทำแนวกันไฟ โดยใช้เครื่องเป่าลมที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชด้วย
นายกมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 กรมอุทธยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชเปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานเครื่องเป่าลมให้กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชและกรมป่าไม้ จำนวน 200 เครื่อง ซึ่งเครื่องเป่าลมนี้จะเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการทำแนวกันไฟป่า รวมไปถึงการดับไฟป่าที่ยังไม่รุนแรงมากนัก ที่สำคัญเครื่องนี้มีน้ำหนักเบาเจ้าหน้าที่สามารถพกพาเข้าพื้นที่ที่ทุรกันดารในป่าได้เป็นอย่างดี ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมป่าไม้ ได้ร่วมกับประชาชนในพื้นที่ทำแนวกันไฟ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงที่อยู่ใกล้ หรืออยู่ติดกับพื้นที่ทำการเกษตรของราษฎรซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องทำแนวกันไฟเพื่อป้องกันไม่ให้ไฟที่เกิดจากการเผาเพื่อทำลายวัสดุการเกษตรของราษฎรลุกลามเข้ามายังพื้นที่ป่า ก็ได้รับผลดีอย่างเป็นที่น่าพึงพอใจยิ่ง
“เครื่องเป่าลมพระราชทานเหล่านี้ทางหน่วยงานของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 จังหวัดเชียงรายได้รับพระราชทานมาจำนวน 12 เครื่อง ได้แจกจายไปใช้งานใน 16 สถานี สถานีละ 2 เครื่อง ขณะนี้ได้นำไปใช้ในทุกพื้นที่ที่รับผิดชอบแล้ว และหลังจากเจ้าหน้าที่นำไปใช้พบว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในพื้นที่สูงเจ้าหน้าที่สามารถนำเครื่องเป่านี้ไปใช้งานในพื้นที่ได้ ซึ่งเครื่องเป่าลมจะช่วยเป่าเอาใบไม้หรือเศษกิ่งไม้เล็กๆ ที่เป็นเชื้อไฟอย่างดีไปอยู่ในแนวเดียวกันหากเกิดไฟป่าขึ้นมาก็จะไม่ลุกลาม หรือขณะที่เกิดไฟกำลังเผาไหม้อยู่เครื่องเป่านี้ก็จะช่วยเป่าเอาใบไม้เข้าไปสุ่มในกองไฟที่กำลังลุกไหม้ไฟก็จะเผาหมดโดยไม่เกิดการลุกลามขยายวงออกมา คือสามารถกำจัดวงการเกิดไฟป่าได้และลดการสูญเสียได้เป็นอย่างดี” นายกมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 กล่าว
พร้อมกันนี้องคมนตรีและคณะยังได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชและราษฎรในพื้นที่สร้างฝายชะลอความชุ่มชื้นและร่วมปล่อยพันธุ์ปลาน้ำจืดที่เป็นปลาท้องถิ่นลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติบริเวณพื้นที่ต้นน้ำ เพื่อเป็นแหล่งอาหารโปรตีนให้กับราษฎรในพื้นที่อีกด้วย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |