ผ่าน 1 สัปดาห์ล่าไอ้เหี้ยมชิงทรัพย์ร้านทองลพบุรี "ผู้การ" เผยสอบปากคำพยานแล้ว 20 ปาก อุบไต๋ผลตรวจค้นจุดต้องสงสัย หวั่นคนร้ายรู้ตัวหลบหนี สั่งตั้ง กก.สอบเอาผิดเจ้าหน้าที่ปล่อยข้อมูลผ่านโซเชียลฯ "อดีตผู้ช่วย ผญบ." เข้าแจงที่มาอาวุธปืนหลัง ตร.ยึดมาตรวจสอบ เผยอาการผู้บาดเจ็บ 4 รายเริ่มดีขึ้น
ที่ สภ.เมืองลพบุรี วันที่ 16 ม.ค. พล.ต.ต.ณัฐพล ศุกระศร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี (ผบก.ภ.จว.ลพบุรี) แถลงข่าวประจำวันถึงความคืบหน้าคดีคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองใน จ.ลพบุรี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บ 4 รายว่า ในขั้นตอนสืบสวนสอบสวน ซึ่งครบ 7 วันที่คนร้ายก่อเหตุ ได้มีการเรียกสอบพยานบุคคลไปแล้วกว่า 20 ปาก แนวทางในการสืบสวนสอบสวนได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เป็นอย่างมาก แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้
พล.ต.ต.ณัฐพลกล่าวว่า ในการปฏิบัติการตรวจค้นเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่สื่อหลายสำนักรายงานว่าตรวจค้นปืนคนร้ายนั้น ทางตำรวจยืนยันไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเชื่อว่าคนร้ายน่าจะรอดูความเคลื่อนไหวของตำรวจอยู่อย่างใกล้ชิด ซึ่งทุกฝ่ายกำลังเร่งติดตาม และต้องการนำคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว
"เช่นเดียวกับที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้เดินทางมาประชุมด่วนทีมสืบสวนสอบสวนในคดีคนร้ายก่อเหตุชิงทองเมื่อช่วงเย็นวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ใช้เวลาประชุมเกือบ 2 ชั่วโมง ที่ห้องประชุมสำนักงานตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดลพบุรี โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพ ระบุไว้ว่าคนร้ายน่าจะหลบหนีไปจังหวัดข้างเคียงหรือจังหวัดชายแดนแล้ว เพราะข้อมูลและการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน โดยเชื่อว่าระยะเวลาที่ผ่านมา หากนานไปกว่านี้คนร้ายก็น่าจะออกจากพื้นที่ไปแล้ว" พล.ต.ต.ณัฐพลกล่าว
ถามว่าข่าวโซเชียลฯ ที่ถูกปล่อยออกมาจะดำเนินการอย่างไร ผบก.ภ.จว.ลพบุรียอมรับส่วนหนึ่งหลุดออกมาจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนและคาดโทษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้การนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนบางข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตัวบุคคล เป็นข้อมูลที่อันตราย และผู้ที่ถูกพาดพิงเตรียมตั้งทนายฟ้องแล้ว
"มีผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อนเดินทางมาพบกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจกับทางเจ้าหน้าที่ และได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว เพื่อหาตัวผู้โพสต์มาดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์" ผบก.ภ.จว.ลพบุรีกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจลพบุรี ได้จัดซ่อมแผนเผชิญเหตุให้กับตำรวจชุดสายตรวจที่ต้องออกปฏิบัติงานตามจุดต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในการตรวจค้นรถ และบุคคลต้องสงสัยเกี่ยวกับคดีดังกล่าว เพื่อสร้างความเข้าใจในขั้นตอนการปฏิบัติให้กับเจ้าหน้าที่ เนื่องจากคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีนี้มีพฤติกรรมที่โหดร้าย มีอาวุธปืน และสามารถยิงผู้บริสุทธิ์ได้โดยไม่มีความลังเลใจ
ขณะที่เวลา 12.10 น. นายสมนึก พวงภู่ อายุ 57 ปี อยู่ที่ 48/2 หมู่ 9 ต.นิคมสร้างตนเอง อ.เมืองลพบุรี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 ปัจจุบันประกอบอาชีพเกษตรกรรม เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ปากคำ
นายสมนึกกล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านพักของตนเอง และได้นำอาวุธปืนของตนมาทำการตรวจสอบ เนื่องจากเหมือนกับของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุ จึงเดินทางมาให้ปากคำตำรวจเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องปืน
"ปืนดังกล่าวเป็นปืนที่ซื้อมาเป็นปืนพกสั้น ซีแซด รุ่นชาโดว์ เอสพี 01 ซื้อมาในราคา 9,8000 บาท ซื้อมาหลายปีแล้ว มีทะเบียนถูกต้อง เหตุที่ซื้อก็เพื่อปกป้องทรัพย์สิน และชอบปืนชนิดนี้เพราะบรรจุกระสุนได้มาก ซึ่งของผมบรรจุได้ถึง 17+1 นัด และตั้งแต่ซื้อมาเคยยิงไปเพียงครั้งเดียว โดยยิงขึ้นฟ้าเท่านั้น และอาวุธปืนที่ตำรวจนำของผมมาทำการตรวจสอบมีความใหม่กว่าของคนร้าย" นายสมนึกกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านของนายสมนึก เนื่องจากตรวจสอบพบมีการครอบครองอาวุธปืนชนิดเดียวกับคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทอง โดยเป็นอาวุธปืน 1 ใน 13 กระบอกที่ตำรวจตรวจสอบ โดยบ้านของนายสมนึกอยู่ห่างจากร้านทองออโรร่า ห้างโรบินสันสาขาลพบุรี ประมาณ 10 กม.
ด้านผู้บาดเจ็บจากเหตุคนร้ายชิงทรัพย์ร้านทองใน จ.ลพบุรี จำนวน 4 ราย ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล โดยนายยุทธการ ชุนสนิท ผู้ที่ยืนเลือกซื้อทองอยู่หน้าร้านกับภรรยาและลูกสาว รักษาตัวที่โรงพยาบาลอานันทมหิดล, นางสุภาวดี ชุนสนิท ภรรยาของนายยุทธการ และนายประเสริฐ คงดี อายุ 22 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช, น.ส.เปมิกา กลิ่นดอกแก้ว พนักงานร้านทองออโรร่า รักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
นางวาสนา คงลี แม่ของนายประเสริฐ บอกถึงอาการลูกชายว่า อาการดีขึ้น รับรู้ตอบสนองและพูดได้มากขึ้น แต่ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู เพราะเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมาได้เข้าผ่าตัดเอาเลือดเสียบริเวณปอดออก ซึ่งยังไม่มีกำหนดย้ายออกไปห้องธรรมดา
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด และถือเป็นความโชคร้ายของลูกชาย หากออกจากโรงพยาบาลและรักษาตัวเป็นปกติแล้วไม่อยากให้กลับไปทำอาชีพนี้อีก เพราะเสี่ยงอันตรายและเป็นห่วง ซึ่งลูกชายเล่าให้ฟังว่าเคยพบชายรายหนึ่งลักษณะการเดินคล้ายคนร้ายมาเดินเล่นในห้างบ่อยครั้ง แต่ก็ไม่มั่นใจว่าใช่หรือไม่" นางวาสนากล่าว
แม่ของนายประเสริฐกล่าวว่า ในส่วนการเยียวยาตอนนี้มีหลายหน่วยงาน และห้างโรบินสันติดต่อเข้าให้การช่วยเหลือแล้ว
ผู้สื่อข่าวตรวจสอบอาการล่าสุดของผู้ป่วยทั้ง 4 รายว่า วันนี้อาการโดยรวมของทุกคนดีขึ้น แต่ยังคงอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด รักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โดยนายประเสริฐไม่มีเลือดออกภายในปอด ทานข้าวได้มากขึ้นกว่าทุกวัน แต่ยังพูดหรือออกเสียงดังไม่ได้, นางสุภาวดี มีความดันขึ้น เนื่องจากพักผ่อนไม่เพียงพอ แต่ยังไม่น่าเป็นห่วง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เริ่มทำกายภาพบำบัดให้แล้ว, นายยุทธการ เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวไปส่องกล้องบาดแผลในตับอยู่, น.ส.เปรมิกา ได้ผ่าตัดเส้นเลือด เพื่อให้เลือดไหลเวียนได้ดี แพทย์ได้ถอดเครื่องช่วยหายใจออกแล้ว
ที่ จ.ตาก พ.ต.อ.ภูเบศ แสงอร่าม ผกก.สภ.แม่สอด จ.ตาก นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดงานจราจรพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ ตั้งจุดตรวจ-สกัด ตามถนนสายต่างๆ ในเขตพื้นที่อำเภอแม่สอด ที่เป็นช่องทางเข้า-ออกตามชายแดนไทย-เมียนมา ตรวจสอบ ตรวจค้นเพื่อจับกุมผู้กระทำความผิด พ.ร.บ.จราจร รวมทั้งติดตามคนใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์ร้านทองภายในห้างโรบินสัน อ.เมืองฯ จ.ลพบุรี.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |