ไทด์-เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ ป่วยพบก้อนเนื้อบริเวณหัวไหล่ ต้องได้รับการผ่าตัดด่วน พร้อมรอลุ้นผลตรวจว่าจะเป็นเนื้อดีหรือเนื้อร้าย ล่าสุดเจ้าตัวได้มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซบSHOW

          “ก่อนเนื้อใหญ่ขนาดไหน ก็ตอนแรกที่เจอเลยเท่าก้อนมะยม เอามือจับกลิ้งไปกลิ้งมาได้ ไม่เจ็บไม่มีปัญหาอะไรเลย พอผ่านไป 3 ปีก็ยังไม่มีอะไรเดือดร้อนกับชีวิต แต่มันเริ่มกำเริบตอนที่เราอยู่อุบลราชธานีไปช่วยน้ำท่วม ไปอยู่ที่นั่น 3 เดือน มันกำเริบเพราะทุกวันผมต้องถือถุงข้าวสารอาหารแห้งแจกพี่น้องประชาชน ถุงนึงเกือบ 10 กิโลกรัม วันนึง 3,000 ถุง แล้วเราคนเดียวจะไม่ให้ใครเปลี่ยน คือเราอยากทำอะไรแล้วต้องทำให้เสร็จ น้ำหนักจากการยกข้าวมันทำให้กำเริบ มันไปเบียดเสียดสีพอดี เรารู้สึกแปลบๆตรงที่ก้านคอ ที่ศรีษะด้วย มันผิดปกติแต่เราก็กินยาแก้ปวด ทนเอา จนเสร็จภารกิจกลับมาที่กรุงเทพฯมันก็ผิดปกติหลายครั้งแต่เราก็ยืดเยื้อมานานมาก จนทนไม่ไหว เลยไปหาคุณหมอเขาจับดูบอกว่าต้องผ่าแล้ว เพราะว่ามันทับเส้นมากมาย

 

 

          ขนาดโตขึ้นจากวันแรกๆครับ จากเม็ดมะยมมาเป็นมะนาว จากมะนาวมาเป็นมะกรูด ผ่าออกมา 5 เซนติเมตรครับ ถ้าเก็บไว้แล้วไม่มีผลกระทบก็ทำให้เราแค่รำคาญเฉยๆ แต่นี่เราไปยกของหนักทุกวันๆมันเลยเป็นผลกระทบ หมอก็บอกว่าถ้าเก็บเอาไว้นานๆเนื้อจากที่มันอักเสบมันโดนกระแทกโดนบดทุกวันมันอาจจะกลายเป็นมะเร็งขึ้นมาได้ ตอนนี้หมอกำลังเอาก้อนเนื้อไปตรวจว่ามันจะเป็นแค่ก้อนเนื้อหรือก้อนเนื้อร้าย

          หมอบอกให้ผ่าตัดจะด่วนหรือไม่ด่วนอยู่ที่เราได้เลย ตอนที่เริ่มปวดหาหมอหมอนัดผ่าแล้วสัก 1-2 ปีก่อน แต่เราไม่ผ่า เพราะกลัวเข็มมาก ต้องมีข้อตกลงกับหมอก่อนอย่าให้ผมเห็นเข็มเด็ดขาดวางยาสลบผมก่อนหรืออะไรก็แล้วแต่ หลังจากผ่าก็สลืมสลือร่างกายรู้สึกหมดแรง เพราะว่าเราไม่เคยโดนผ่ามาก่อน ลูกมาเยี่ยมยังไม่รู้เรื่องเลย แผลเจ็บตอนที่ตื่นขึ้นมา หลังจากนั้นไม่มีเจ็บไม่มีปวดเลยครับ

 

 

          รอผลตรวจชิ้นเนื้อแอบเครียดนิดหน่อยครับ อายุผม 58 ปีเต็ม ไม่เคยไปตรวจเลือด ไม่เคยไปตรวจสุขภาพ ไม่เคยเลย แต่วันที่ผมผ่าเขาตรวจเช็คทุกอย่าง ผลออกมามันดีมากไม่เป็นอะไรเลย ดีหมดทุกอย่าง ก้อนเนื้อมีโอกาสกลับมาเป็นใหม่ครับ แต่ผมไม่ทราบว่ามันเกิดจากสาเหตุอะไร

          ลูกสาว ตอนเลิกเรียนคนขับรถก็พามาที่โรงพยาบาล มีฝาแฝดใบเตย-ใบตอง อายุ 15 ปี มู่หลาน 13 ปีครับ ได้ยินสียงเขาวิ่งไปวิ่งมา แต่เราก็ยังไม่รู้เรื่องไม่สามารถลืมตามาพูดอะไรได้มาก แต่เป็นแค่วันเดียวอีกวันก็รู้เรื่องแล้วครับ”