วานนี้ (๑๖ ต.ค.) หมากัดกันในสภาฯ เสียงดังลั่น

                ท่าทางกรรมาธิการปราบโกงของสภาผู้แทนราษฎร  ไม่น่าจะมีเวลาทำงานให้ประชาชน เพราะเอาเวลาไปเคลียร์เรื่องตัวเอง งับกันเองเสียส่วนใหญ่

                โง่เง่า ต่ำตม ที่สุด ที่เคยเห็นมาจริงๆ

                หันไปดูพรรคอนาคตใหม่ ช่วงนี้ท็อปฟอร์มมาก!

                โดยเฉพาะ "ปิยบุตร แสงกนกกุล"

                เชี่ยวชาญกฎหมาย แล้วยังเจ้าเล่ห์อีกต่างหาก

                ภาษาที่เขาใช้กันคือ ฉลาดแกมโกง

                กรณีการย้ายพรรคของ "ศรีนวล บุญลือ" ได้เห็นธาตุแท้ของนักกฎหมาย คนรุ่นใหม่ กระจ่างแจ้งเลยทีเดียว

                จู่ๆ "ปิยบุตร" ก็บอกว่า

                "การขับออกจากพรรคจะต้องไปตรวจสอบความถูกต้องเรื่ององค์ประชุมในวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๒ ก่อน"

                อ้าว...ต้องย้อนกลับไปอีกหรือ

                นี่ก็เลยเวลาที่ "ศรีนวล" ต้องไปหาพรรคใหม่อยู่ภายใน ๓๐ วันแล้ว

                ส่วน "พรรณิการ์ วานิช" อ้างว่า...

                "ภายในสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนและดำเนินการส่งเอกสารให้กับสภาผู้แทนราษฎรและคณะกรรมการการเลือกตั้ง ความล่าช้าที่เกิดขึ้นขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะพรรคอนาคตใหม่มีคดีที่ต้องดำเนินการเตรียมข้อต่อสู้จำนวนมากถึง ๓๐ คดี ประกอบกับทีมกฎหมายของพรรคมีขนาดเล็ก ทำให้ต้องมีการจัดลำดับความสำคัญ"

                คือมันมีปัญหาข้อกฎหมายอยู่ว่า ๔ ส.ส.อนาคตใหม่ที่ถูกขับออก จะต้องมีหนังสือยืนยันจากพรรคอนาคตใหม่ว่า ได้ขับออกจากพรรคแล้ว             

                จากนั้น ๔ ส.ส.ก็ถือหนังสือที่ว่าไปให้กับพรรคที่จะสังกัดใหม่

                ก็เหมือนหนังสือส่งตัวผู้ป่วยจากโรงพยาบาลหนึ่งในอีกโรงพยาบาลหนึ่งนั่นแหละ

                เพียงแต่พรรคอนาคตใหม่ต้องทำหนังสือแจ้งไปยัง กกต.ก่อน แล้ว ๔ ส.ส.ก็ไปเอาที่ กกต.            

                หลักการควรจะเป็นแบบนั้น

                แต่ กกต.บอกว่า ๔ ส.ส.ไปสมัครเข้าพรรคใหม่ได้เลย

                ถ้ามันง่ายแบบนั้น ก็คงจะดี แต่ทำแล้วจะมีปัญหาข้อกฎหมายตามมาทีหลังหรือเปล่า เอาเข้าจริง กกต.เองก็ตอบไม่ได้

                เอาล่ะ...ประเด็นหลักมันอยู่ที่ พรรคอนาคตใหม่ตั้งใจออกเอกสารให้เลยเวลา ๓๐ วันทำไม

                รู้อยู่แล้วใช่หรือไม่ว่า อาจทำให้ ๔ ส.ส.พ้นสภาพได้ หากมีคนหัวหมออ้างกฎหมายมีช่องว่าง แล้วย้อนมาเล่นงาน ๔ ส.ส.หลังจากนี้

                สิ่งที่นักการเมืองในพรรคอนาคตใหม่ต้องรู้ นอกจากกฎหมายแล้ว ยังต้องมีน้ำใจนักกีฬาด้วย

                ปากบอก วิ่งไล่ลุงเป็นกีฬา

                นักกีฬามันต้องมีน้ำใจ

                นี่อะไร...ตั้งใจเหยียบซ้ำ

                จะโกรธจะเคืองอะไรกันก็ตามแต่ แต่เมื่อกฎหมายเปิดทางให้ ส.ส.ย้ายพรรคได้ ก็ควรให้เดินไปตามนั้น ไม่ใช่เล่นเกมสกปรกเพื่อให้คนที่ไม่ชอบหน้า พ้นสมาชิกภาพการเป็น ส.ส.

                คือ...อยากให้ดูคำว่า กฎหมาย และน้ำใจนักกีฬา หากพรรคอนาคตใหม่ไม่เข้าใจจริง ก็ลองดู กรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีหนังสือถึงสภาฯ เรียกตัว พิธา ลิ้มเจริญรัตน์, ปิยบุตร แสงกนกกุล และพรรณิการ์ วานิช ไปดำเนินคดีอาญา จากการชุมนุมสกายวอล์กปทุมวัน

                นั่นเป็นการชุมนุมไล่รัฐบาล

                สภาฯ ลงมติเสียงเอกฉันท์ ๓๖๘ เสียง ไม่ส่งตัว ไม่มีใครค้าน

                ตามกฎหมายสภาฯ จะส่งตัวให้ตำรวจก็ได้

                แต่น้ำใจนักกีฬา ส.ส.รัฐบาลนับร้อยคนร่วมโหวตไม่ส่งตัวให้ตำรวจ

                และนั่นทำให้ ทั้ง "ปิยบุตร" และ "ช่อ" มานั่งแถลงข่าวเล่นเกมสกปรกกับ ๔ ส.ส.ที่ถูกขับ

                การเป็นคนรุ่นใหม่ มีความคิดใหม่ อย่างเดียวไม่พอ

                พวกคุณต้องเรียนรู้ความเป็นมนุษย์ด้วยว่าต่างกับสัตว์อย่างไร.