15 ม.ค.63-นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "การปิดปากปิดจมูก"ไม่สามารถแก้ปัญหาฝุ่น2.5ไมครอนได้ และก็แก้ปัญหาทางการเมืองไม่ได้ด้วยเช่นกัน
ผมยังไม่เห็นรัฐบาลสืบทอดอำนาจชุดนี้
ลงมือทำอะไรในองค์รวมอย่างเป็นวิทยาศาสตร์
เพื่อจัดการกับฝุ่น2.5ไมครอน
ที่เป็นอันตรายกับสุขภาพของประชาชนไทยทั้งประเทศเลยครับ
เห็นมีแต่รองนายกฯบอกว่า
ให้สวมมาสก์ปิดปากปิดจมูกเท่านั้นเอง
นั่นป้องกันได้จิ๊บจ๊อยมาก
แม้แต่ผู้ที่สวมมาสก์
ก็มิได้หมายความว่าจะป้องกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
อาจจะไม่ถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำไป
การแก้ปัญหาฝุ่น2.5ไมครอนนั้น
ถ้าหาความรู้สักหน่อยก็พอจะทราบแล้วว่า
มีต้นกำเนิดใหญ่ๆอยู่ไม่กี่อย่างเท่านั้นเองเช่น
1.ควันรถยนต์โดยเฉพาะรถที่มีเครื่องยนต์อายุการใช้งานนาน
หรือเครื่องยนต์ชำรุด
รถบันทุก ยิ่งปล่อยฝุ่นควันเพิ่ม รถจักรยานยต์ก็ไม่น้อย
ดังนั้นการเข้มงวดกับเรื่องรถยนต์ที่ปล่อยไอเสียออกมาต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัด
2.การเผาทำลายต้นไม้ใบหญ้า
รวมทั้งสิ่งที่เหลือจากการเกษตรกรรมทั้งหลาย
ในที่โล่งแจ้งไม่ว่าจะกองเล็กหรือกองใหญ่
รัฐต้องเข้าไปห้ามปราม และให้คำแนะนำช่วยเหลือในการแก้ปัญหาสิ่งเหลือจากการเกษตรเช่นฟางข้าว ใบอ้อยฯลฯโดยนำไปหมักหรือแปรเป็นของมีค่านำมาใช้ได้
3.ฝุ่นจากการก่อสร้างขนาดใหญ่ทุกโครงการ ต้องหาทางลดและควบคุมจำนวนฝุ่นอย่างเข้มงวด
4.โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆทั่วประเทศต้องลดและควบคุมจำนวนฝุ่นอย่างเคร่งครัด ต้องยกระดับคุณภาพของเครื่องมือเครื่องจักรต่างๆให้ผลิตฝุ่นและของเสียน้อยลง
แปรสภาพของเสียให้ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม
5.โรงงานที่ใช้ถ่านหินทั้งหมดต้องได้รับการดูแลควบคุมอย่างเข้มงวดในเรื่องฝุ่นควันรวมทั้งก๊าซสารเคมีที่ปล่อยออกมา
นี่ผมขอยกตัวอย่างบางตัวอย่างเท่านั้น
เพราะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องเข้ามาดูแลอย่างเต็มที่
และลงมือแก้ไขโดยเร็วที่สุด
แต่นี่เห็นพูดแต่มาสก์ปิดปากปิดจมูกเท่านั้น
ประจานให้เห็นการสิ้นท่าหมดปัญญา
ในการแก้ปัญหาสำคัญของบ้านเมืองในแง่มุมของสิ่งแวดล้อมสุขอนามัยเพียงมุมเดียวนะครับ แต่ก็สำคัญเพราะอาจจะนำมาสู่ปัญหาโรคทางเดินหายใจ โรคผิวหนัง โรคมะเร็ง และอีกสารพัดโรค
การแก้ปัญหาทางด้านอื่นก็ล้มเหลวหมด อาทิ
เศรษฐกิจก็ได้แต่ดิ่งเหวไม่เห็นอนาคต
ผู้คนส่วนใหญ่ของประเทศยากจนลง
คนฆ่าตัวตายเพราะไม่เห็นหนทางแก้ปัญหานับวันมากยิ่งขึ้น
ปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรยิ่งแก้ยิ่งทรุด
ขณะนี้ยางไหลรูดลงไปที่ "สี่โลร้อย"แล้วครับ
สงสัยว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันเก่งเฉพาะ
ในการ "ปิดปากปิดจมูก"เท่านั้นกระมังครับ
เพราะเห็นรัฐบาลออกมาแสดงท่าทีในการขัดขวางกิจกรรม"วิ่งไล่ลุง"หรือ"เดินเชียร์ลุง"พร้อมกันทั้งนายกฯและรองนายกฯ
นี่คงจะเป็นพราะกิจกรรม "วิ่งไล่ลุง"ส่งผลสะเทือนให้ประชาชนพร้อมใจกันออกมาแสดงความเห็นทางการเมืองต่อต้านรัฐบาลอย่างกว้างขวาง และมีแนวโน้มที่จะขยายวงกว้างออกไปอย่างไม่ที่สิ้นสุด
รัฐบาลก็เลยต้องการ "ตัดต้นไฟเสียแต่ต้นลม"
แต่เรื่องฝุ่น2.5ไมครอนไม่สามารถแก้ได้ด้วยการ "ปิดปากปิดจมูก"ดอกครับ
และก็ไม่ทราบว่าปัญหาทางการเมืองจะสามารถแก้ได้ด้วยการ "ปิดปากปิดจมูก"ด้วยเหมือนกันหรือเปล่า??
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |