ในขณะที่ยังไม่รู้ว่าจะเอาอย่างไรกับมาตรฐานทางกฎหมาย ที่จะรองรับการจัดงานวิ่งไล่ลุงในแต่ละพื้นที่ เมื่อบางพื้นที่ในภาคอีสานเริ่มมีการส่งหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเอาผิดผู้เข้าร่วมงานบางราย อย่างในจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ "อิสรีย์ อภิสิริรุจิภาส" อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ คนเดียวกับในวันที่ "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ไปช่วยหาเสียง ก่อนจะนั่งรถเหยียบมิดไมล์มาเซ็นเอกสารเรื่องหุ้นวี-ลัค มีเดีย จากบุรีรัมย์มากรุงเทพฯ ฐานผิด พ.ร.บ.ชุมนุม และคาดว่าจะมีตามมาอีกในบางจังหวัด

                แต่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครเองเป็นไปอย่างราบรื่น โดยยังไม่มีการเอาผิดใดๆ ตามมา ขณะที่ผู้ไปร่วมงานก็มาจากทั้ง “แดง-ส้ม” หลายก๊ก หลายก๊วน ไม่ว่าจะเป็นทีมเพื่อไทยพลัส ทีมไทยรักษาชาติ หรือทีมอนาคตใหม่ ที่มากันทั้งหัวหน้าพรรค ไปจนถึงเจ้าหน้าที่พรรค ยังไม่นับรวมกับบรรดานักวิชาการ พิธีกรรายการโทรทัศน์บางท่าน ที่มาร่วมแบบเงียบๆ รวมทั้งบรรดานักเคลื่อนไหวทั้งหลาย

                ที่น่าสนใจคือการปรากฏตัวของ "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่มาพร้อมกับครอบครัว ประเด็นที่น่าสังเกตคือ ก่อน "ธนาธร" จะมาให้สัมภาษณ์กับสื่อนั้น ก็เจอประชาชนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป และให้กำลังใจ อันเป็นเรื่องปกติของหนึ่งใน “เซเลบการเมืองยุคนี้” แต่ที่ดูพิเศษกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาคือ บรรดา "ทีมรักษาความปลอดภัย” ที่ล้อมหน้าล้อมหลังเจ้าตัวกันเป็นวงกลม ตั้งแต่เข้ามาในพื้นที่เวทีของการจัดงาน แม้แต่การให้สัมภาษณ์กับสื่อ ทีมรักษาความปลอดภัยเหล่านี้ก็ล้อมเจ้าตัว โดยจับมือกันไว้แน่นเลยทีเดียว

                การออกงานของ "ธนาธร" ช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นการออกไปจัดแฟลชม็อบที่สกายวอล์ก ปทุมวัน เมื่อวันเสาร์ที่ 14 ธ.ค.2562 รวมถึงงานวิ่งไล่ลุงเมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 ม.ค. ที่ผ่านมา หนึ่งในผู้ที่ตามประกบติด "ธนาธร" แบบเงาตามตัว อย่าง “ป๋วย-ไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร" อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ นครปฐม เขต 5 ที่พ่ายต่อ “พี่คนโตของบ้านใหญ่นครปฐม” อย่าง "เผดิมชัย สะสมทรัพย์" จากพรรคชาติไทยพัฒนา ในการเลือกตั้งซ่อมเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา

                “ป๋วย” มีชื่อเป็นกรรมการบริษัท แด๊ด รักษาความปลอดภัย ที่ประกอบการบริการรักษาความปลอดภัยทั่วไป และยังเป็นน้องชายคนเล็กในจำนวนพี่น้องผู้ชาย 4 คน ของ "พล.ต.ท.จำรัส จันทรขจร" อดีตผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ หนึ่งในพี่ชาย 3 คน ของเจ้าตัว มี “โป๊ะ-วัชระพันธุ์ จันทรขจร" อดีตหัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัย "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ยุคก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ที่เคยดำรงตำแหน่งอดีตเลขาธิการกองทุนฟื้นฟูเกษตรกร (กฟก.) อีกด้วย

                อีกคนที่น่าสนใจไม่แพ้กัน และเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่น่าจะจำกันได้เป็นอย่างดีคือ “สมบัติ ทองย้อย” ที่เดินวนเวียนอยู่กับการชุมนุมของพรรคอนาคตใหม่ เจ้าตัวเคยเป็นอดีตการ์ด นปช. ซึ่งเป็นรุ่นน้องคนสนิทของ “เสธ.แดง-พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล" ผู้ล่วงลับ ที่มักจะปรากฏตัวยาม "เสธ.แดง" ขึ้นเวทีปราศรัย อยู่เสมอ เช่นเดียวกับแกนนำ นปช.รายอื่นๆ รวมทั้งอดีตนายกรัฐมนตรีอย่าง "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร"

                ที่ผ่านมาเจ้าตัวถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเพ่งเล็ง ว่าเป็นหนึ่งในผู้มีอิทธิพลในจังหวัดสมุทรปราการ เคยถูกตรวจค้น พบอาวุธปืน วิทยุสื่อสาร และเคยตกเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยคดียิง "สุทิน ธราทิน" หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัย กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ที่ถูกยิงขณะเดินขบวนคัดค้านการเลือกตั้งล่วงหน้า บริเวณหน่วยเลือกตั้งหน้าวัดศรีเอี่ยม ย่านบางนา เป็นเหตุทำให้เสียชีวิต เมื่อวันที่ 26 ม.ค.2556 แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็พ้นข้อครหา

                นอกจากนี้ ระหว่างการครองอำนาจของ คสช. "สมบัติ" เคยถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเรียกไปให้ข้อมูล ในกรณีที่เจ้าตัวไปร่วมชุมนุมและไปให้กำลังใจกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่ไปสวดมนต์ในวัดพระธรรมกาย ถึงความเชื่อมโยงระหว่างกลุ่ม นปช. ฝ่ายรักษาความปลอดภัยของ นปช. และผู้ชุมนุมที่วัดพระธรรมกาย ครั้งเกิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ล้อมวัด เพื่อจะบุกรวบตัว "พระไชยบูลย์ ธัมมชโย" หรือ "พระธัมมชโย"

                เช่นเดียวกับการปรากฏตัวร่วมกับ "กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง” เมื่อครั้งที่ "รังสิมันต์ โรม" ส.ส.อนาคตใหม่ ยังเป็นแกนนำการชุมนุม โดยในบรรดากลุ่มคนเสื้อแดงต่างรู้กันว่า "สมบัติ" มีอาชีพขายเครื่องกรองน้ำ ตามที่เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า “ผมก็บอกเขาไปว่า ผมเนี่ยนะจะไปเรียกระดมคนได้ ผมเป็นแค่คนขายเครื่องกรองน้ำ พวกเขาก็รู้ดี เพราะตามเฟซบุ๊กผมอยู่ตลอดเวลา และที่ผมไปที่ธรรมกายก็เพราะว่าต้องการไปเป็นกำลังใจให้ ไปช่วยยกน้ำ ไปสังเกตการณ์แค่นั้น แล้วก็กลับบ้าน ตอนไปก็ยังโพสต์เฟซบุ๊กอยู่เลย ไม่ได้ปกปิดอะไร แต่มันกลับมีข่าวออกมาว่าผมเตรียมจะไปป่วนที่วัด” พร้อมทิ้งท้ายว่าหลังเซ็น MOU กับเจ้าหน้าที่ โดยระบุว่าจะไม่เคลื่อนไหวทางการเมืองอีก และห้ามออกนอกประเทศก่อนที่จะได้รับอนุญาต “ผมก็ต้องเซ็นไปแหละ แต่ก็แปลกใจมากๆ ที่คนขายเครื่องกรองน้ำอย่างผมนี่นะ ทำไมมันถึงถูกให้ความสำคัญกับเจ้าหน้าที่ขนาดนี้”

                ที่ผ่านมา "สมบัติ" เองถูกหมายหัวว่าเป็น “ตัวจี๊ด” ของกลุ่มการ์ด นปช. (สายฮาร์ดคอร์) เสียด้วย และจากวีรกรรมที่ผ่านๆ มาจนถึงตอนนี้ ก็ชัดเจนแล้วว่า "สมบัติ" ไม่ใช่คนขายเครื่องกรองน้ำธรรมดาแน่ๆ และเจ้าตัวจะถูกจับตาจากรัฐมากขึ้นอย่างแน่นอน หลังมาปรากฏตัวร่วมกับหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ในช่วงนี้.