อัยการสั่งสอบสวนเพิ่มคดีเจ้าสัวล่าเสือดำ หลังอ่านสำนวนกว่า 800 หน้า ชี้สอบสวนยังไม่สิ้นกระแสความในประเด็นสำคัญเกี่ยวกับพฤติการณ์และผลการตรวจพิสูจน์ ขีดเส้นส่งด่วน 26 มี.ค.นี้ หากไม่ทันตามติดทุก 7 วัน ด้าน "เปรมชัย-ยงค์" ปฏิเสธติดสินบน บก.ปปป.จ่อออกหมายเรียก "นพดล พฤกษะวัน" มัด   ศาลให้ประกัน "เมียเจ้าสัว-คนสนิท" คดีครอบครองงาช้างแอฟริกาคนละ 3 แสน 
    ที่สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ถ.แจ้งวัฒนะ วันที่ 20 มีนาคม นางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 และนายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 ภาค 7 กาญจนบุรี หัวหน้าคณะทำงานอัยการคดีล่าเสือดำ พร้อมด้วยคณะรองโฆษก อสส. ประกอบด้วย นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์, นายประยุทธ เพชรคุณ และนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง ร่วมกันแถลงความคืบหน้าคดีที่นายเปรมชัย กรรณสูต อดีตประธานกรรมการบริหาร บ.อิตาเลียนไทยฯ, นายยงค์ โดดเครือ, นางนที เรียมแสน และนายธานี ทุมมาศ เป็นผู้ต้องหาที่ 1-4 ในข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานฯ และอื่นๆ รวม 10 ข้อหา ซึ่งพนักงานสอบสวนมีความเห็นควรไม่ฟ้อง 1 ข้อหา ร่วมกันทารุณกรรมสัตว์ฯ
     โดยนายธรัมพ์กล่าวว่า หลังจากอัยการพิจารณาสำนวนที่พนักงานสอบสวนส่งมา 857 หน้าแล้วนั้น   คณะทำงานอัยการได้มีความเห็นสั่งสอบสวนเพิ่มเติมอีก 3-4 ประเด็น เพื่อให้การสอบสวนสมบูรณ์และสิ้นกระแสความ โดยอัยการมีหนังสือแจ้งให้พนักงานสอบสวนทราบเพื่อดำเนินการแล้ว พร้อมกำชับให้ส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติมกลับมาให้อัยการภายในวันที่ 26 มี.ค.นี้ ซึ่งจะเป็นช่วงครบกำหนดฝากขังผู้ต้องหาครั้งที่ 4 (25 มี.ค.) และแม้ว่าคดียังมีระยะเวลาฝากขังได้อีก 3 ผลัด ประมาณกว่า 30 วัน แต่เราก็กำชับให้พนักงานสอบสวนดำเนินการโดยรวดเร็ว ยืนยันว่าการสั่งคดีนี้ก็เหมือนการสั่งคดีปกติทั่วไป
     ด้านนางสมศรีกล่าวว่า คณะทำงานได้พิจารณาโดยรอบคอบแล้วเห็นว่ามีบางประเด็นที่พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนมาแล้ว แต่ยังไม่สิ้นกระแสความ ซึ่งอัยการเห็นว่าเป็นประเด็นสำคัญ จึงมีคำสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติมหลายประเด็นเกี่ยวกับพฤติการณ์และผลการตรวจพิสูจน์บางเรื่องที่พนักงานสอบสวนยังไม่ส่งมาประกอบสำนวน โดยอัยการก็แจ้งให้พนักงานสอบสวนส่งเข้ามา ทั้งนี้ อัยการไม่ขอแถลงลงรายละเอียดว่าเป็นประเด็นใดบ้าง เกี่ยวกับข้อหาใด เพราะจะกระทบต่อรูปคดี และการตั้งประเด็นสู้ของผู้ต้องหา ถ้าสอบสวนเพิ่มเติมแล้วก็ไม่มีประเด็นใดเพิ่มเติมจากผลการสอบสวนเพิ่มเติมอีก หรือนอกเหนือจากสำนวนที่มีอยู่ในมือแล้ว เราก็คงจะสั่งคดีได้ทันภายในกำหนด เพราะคณะทำงานของอัยการอ่านสำนวนทั้งหมดแล้วกว่า 800 หน้า จึงเป็นที่มาของการสั่งสอบสวนเพิ่มเติม
    "เราได้กำชับกับพนักงานสอบสวนแล้วว่าให้ส่งรายงานโดยเร็วภายใน 26 มี.ค.นี้ แต่หากดำเนินการไม่เสร็จสิ้น ก็ให้รายงานผลทุก 7 วัน ซึ่งอัยการเราทำงานกันทุกวันทั้งเสาร์-อาทิตย์ จะคอยติดตามคดีไม่ให้หยุดนิ่ง เพราะทั้งสื่อมวลชนและประชาชนก็เฝ้าคอยว่าอัยการจะมีคำสั่งคดีเมื่อใด ขณะเดียวกันเราก็ได้รายงานให้นายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุด ทราบถึงความคืบหน้าต่างๆ ด้วย"
     อธิบดีอัยการภาค 7 กล่าวว่า ในส่วนของผู้ต้องหาจนถึงวันนี้ยังไม่มีรายใดยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมเข้ามา แต่หากยื่นเข้ามาก็ถือว่าเป็นสิทธิของผู้ต้องหา ซึ่งอัยการพร้อมทำงานทุกคดีอยู่แล้ว คดีนี้ไม่ใช่คดีใหญ่สำหรับพนักงานอัยการ เพราะคดีลักษณะเช่นนี้ก็เกิดขึ้นทุกวัน คดีโทษไม่สูง แต่บังเอิญเกี่ยวกับฐานะทางสังคมของผู้ต้องหาเป็นผู้มีชื่อเสียงและประชาชนให้ความสนใจ เราไม่กดดัน เพราะเราทำงานแบบนี้ทุกวัน ไม่ได้มีการตั้งคณะทำงานเฉพาะคดีของนายเปรมชัย คดีที่สำคัญอื่นก็มี เพื่อให้เกิดความรอบคอบ โดยเราจะมีผู้กลั่นกรองลักษณะของคณะทำงานอย่างน้อย 3 คน จึงไม่ต้องกังวล เราจะทำคดีนี้ให้ดีที่สุด การที่สังคมลงโทษก็เป็นโทษทางสังคมไป แต่อัยการต้องดูตามพยานหลักฐานการสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องก็อยู่ที่พยานหลักฐาน 
    ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พูดถึงการสั่งไม่ฟ้องข้อหาทารุณกรรมสัตว์นายประยุทธ รองโฆษกฯ กล่าวว่า มันเป็นข้อกฎหมาย เป็นรายละเอียดทางคดี แต่ถ้าไปดูคำนิยามในกฎหมายจะบอกว่าสัตว์ที่จะเข้าข่ายการทารุณกรรมสัตว์หมายถึงสัตว์เลี้ยง อย่างไรก็ดี ในส่วนของคดีนี้ อัยการยังไม่ได้ลงในรายละเอียด
     สำหรับคณะทำงานที่ร่วมกันพิจาณาดำเนินคดีนี้ ประกอบด้วย นายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 ภาค 7 เป็นหัวหน้าคณะทำงาน, นายทนง ตะภา อัยการจังหวัดทองผาภูมิ คณะทำงาน, พ.ต.ท.อำนาจ สุจริตชัย รองอัยการจังหวัดกาญจนบุรี คณะทำงาน และนายกฤษฎา ชูโต รองอัยการจังหวัดทองผาภูมิ คณะทำงานและเลขานุการ
ปฏิเสธติดสินบน
    เช้าวันเดียวกัน ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นายเปรมชัยพร้อมนายยงค์ โดดเครือ และ นายวิทูล แย้มพราย ทนายความส่วนตัวของนายเปรมชัย เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงาน จากนั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์ให้สัมภาษณ์ว่า เบื้องต้นนายเปรมชัยและนายยงค์ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา และขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ตนกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสรุปสำนวนให้เสร็จภายใน 30 มี.ค.นี้ เพื่อส่งให้กับ บก.ปทส.เป็นผู้รวบรวมส่งให้พนักงานอัยการ
     ด้าน พล.ต.ต.กมลกล่าวว่า นายยงค์ได้ยอมรับว่าเป็นเสียงตัวเองที่ปรากฏในคลิปหลักฐาน หลังจากนี้คณะพนักงานสอบสวนจะพิจารณาออกหมายเรียกบุคคลที่นายเปรมชัยอ้างว่าเป็นผู้ประสานงาน เพื่อให้เข้ามาในสถานที่เกิดเหตุมาสอบปากคำด้วยหรือไม่  ส่วนบุคคลที่นายเปรมชัยอ้างถึงก็คือ นายนพดล พฤกษะวัน อดีตข้าราชการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ปรึกษาบริษัท อิตาเลียนไทยฯ แต่จะออกหมายเรียกมาหรือไม่ ต้องพิจารณาก่อนจะเป็นประโยชน์ต่อคดีไหม
    ส่วนที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปสท.) นางคณิตา วิทยานันท์ ภรรยานายเปรมชัย กรรณสูต และนางวันดี สมภูมิ เข้ารับทราบข้อหามีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (งาช้างแอฟริกา) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ที่นางวันดีเป็นผู้ยืนยันว่างาช้างทั้ง 4 กิ่งที่ตรวจยึดได้เป็นงานช้างไทย มีตั๋วรูปพรรณถูกต้อง ส่วนการจดแจ้งมีภรรยาของนายเปรมชัยเป็นผู้ดำเนินการ      เมื่อทั้งคู่เดินทางมาถึง เจ้าหน้าที่ได้พาเข้าห้องสอบสวนทันทีเพื่อแจ้งข้อหา พร้อมนำงาช้างจำนวน 4 กิ่งมาให้ยืนยันความเป็นเจ้าของ โดยมีทนายเข้าร่วมรับฟังการสอบสวนด้วย     
    ต่อมาเวลา 11.30 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ได้เดินทางมาตรวจสำนวนการสอบสวน และเปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาเบื้องต้นให้การปฏิเสธว่าไม่ทราบว่างาช้างดังกล่าวเป็นงาช้างแอฟริกา ซึ่งทางเราก็ได้เชิญเจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานฯ มาชี้แจงให้ผู้ต้องหาทราบถึงรายละเอียด ถ้าจดแจ้งตาม พ.ร.บ.งาช้าง ในส่วนที่นางคณิตาให้การว่าเป็นงาช้างที่ได้รับเป็นมรดกตกทอดมา   แต่ พ.ร.บ.ศุลกากร มีตั้งแต่ปี 2467 เมื่อกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ยืนยันว่าไม่ใช่งาช้างไทยก็ต้องเป็นงาช้างจากต่างประเทศ เป็นสินค้าประเภทงาช้างนำเข้า แต่ไม่พบการสำแดงถึงที่มาที่ชัดเจน เข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.ศุลกากร 100%  
    พล.ต.อ.ศรีวราห์ยังกล่าวถึงกรณีทางเจ้าหน้าที่อัยการภาค 7 ได้แถลงสำนวนของนายเปรมชัยยังไม่สิ้นกระแสความว่า น่าจะเป็นประเด็นเรื่องในบันทึกการจับกุม เป็นเนื้อเก้ง แต่ผลตรวจเป็นเนื้อหมู ซึ่งจะต้องแจ้งพฤติการณ์แห่งคดีให้กับผู้ต้องหาทั้ง 4 รายทราบ  ประเด็นที่ 2 พนักงานอัยการทวงผลการตรวจพิสูจน์ในส่วนที่เหลือ ซึ่งเราได้รับจากกรมอุทยานฯ มาบางส่วนแล้ว เหลืออีกประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ จะรีบส่งให้อัยการ ส่วนสำนวน พ.ร.บ.อาวุธปืน ครอบครองงาช้าง และติดสินบน ได้สั่งกำชับไปแล้ว น่าจะเสร็จก่อนวันที่ 30 มี.ค.นี้    
ให้ประกันเมียเจ้าสัว
    ต่อมาช่วงบ่าย ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ร.ต.อ.ธีรภัทร์ ธรรมมีชูพงศ์ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปทส. ได้ยื่นคำร้องฝากขังนางคณิตา กรรณสูต อายุ 64 ปี และ น.ส.วันดี สมภูมิ อายุ 71 ปี คนสนิท ผู้ต้องหาคดีมีงาช้างแอฟริกาไว้ในครอบครองฯ มายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 20-31 มี.ค.นี้ เนื่องจากยังต้องสอบปากคำพยานอีก 4 ปาก รอผลการตรวจสอบลายพิมพ์มือผู้ต้องหา และรอตรวจสอบประวัติการต้องโทษ 
    โดยพนักงานสอบสวนระบุในคำร้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 7 ก.พ.2561 เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. ได้ร่วมกันนำหมายค้นศาลอาญาที่ 49/2561 ลงวันที่ 7 ก.พ.2561 เข้าค้นบ้านเลขที่ 12/3 ซอยศูนย์วิจัย 3 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. พบอาวุธปืนหลายรายการ และงาช้าง 2 คู่ 4 กิ่ง ซึ่งมีหลักฐานการขึ้นทะเบียน แต่ไม่พบเครื่องหมายประกันตัวที่ทางราชการออกให้ติดไว้ที่งาช้าง ซึ่งจากการตรวจพิสูจน์ทางพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) ปรากฏว่าเป็นงาช้างแอฟริกาที่ไม่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย ซึ่งเป็นซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 3 พ.ศ.2558  
    นอกจากนี้ พบว่านางคณิตาเป็นผู้ยื่นแบบแจ้งการครอบครองงาช้างเมื่อวันที่ 15 เม.ย.2558 โดยยืนยันว่าเป็นงาช้างที่ได้มาจากช้างตามกฎหมายว่าด้วยสัตว์พาหนะ (ช้างบ้านหรือช้างเลี้ยง) แต่นางคณิตาไม่สามารถนำหลักฐานมาแสดงได้ อ้างว่าเป็นงาช้างที่ได้จากมรดกเมื่อปี 2530 ซึ่งนางคณิตาได้สมรสและจดทะเบียนสมรสกับนายเปรมชัย เจ้าของบ้าน ดังนั้นผู้ต้องหาจึงเป็นหัวหน้าของบุคคลที่พักอาศัยอยู่ในบ้าน เป็นผู้รับผิดชอบในการครอบครองบ้านในฐานะเป็นเจ้าของได้ครอบครองงาช้าง โดยมีเจตนายึดถืองาช้างไว้เพื่อตนร่วมกับนายเปรมชัย และ น.ส.วันดี คนใกล้ชิดที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน
    เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (งาช้าง) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันนำหรือพาของที่ยังไม่ได้เสียภาษี ของต้องห้ามซ่อนเร้นเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันช่วย ซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพา หรือรับไว้โดยประการใดๆ ที่ตนรู้ว่าเป็นของนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร ข้อห้าม หรือข้อจำกัด ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 19, 47 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา 243, 246
     ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนไม่คัดค้านการประกัน ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาได้
    ต่อมาทนายความของผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 3 แสนบาท ขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ทั้งสองมีประกันตัวไปคนละ 3 แสนบาท โดยไม่ได้กำหนดเงื่อนไขใดๆ แต่ให้ผู้ต้องหาทั้งสองมารายงานตัวต่อศาลในวันที่ 7 พ.ค.นี้ (ช่วงครบกำหนดฝากขังครั้งที่ 4) ตั้งแต่เวลา 08.30 น.เป็นต้นไป.