14 ม.ค.63- นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา เผยแพร่แถลงการณ์พรรคชาติไทยพัฒนา ระบุว่า ตามที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีพรรคการเมืองที่เคยมีการกู้ยืมเงินมาใช้ในกิจกรรมทางการเมืองของพรรค และผลการค้นข้อมูลย้อนหลังจากงบการเงินของพรรคการเมืองที่ส่งให้ กกต. ประจำปี 2556 ว่ามีพรรคการเมืองหลายพรรคที่กู้ยืมเงินจากบุคคลอื่นมาใช้ในกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งได้มีการระบุชื่อพรรคชาติไทยพัฒนาด้วยนั้น ในกรณีนี้พรรคได้เคยแถลงไว้อย่างชัดเจนแล้ว เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2562 จึงจะไม่ขอชี้แจงให้ความเห็นถึงกรณีนี้ซ้ำอีก
นายนิกร กล่าวอีกว่า ตนเองได้ทำหน้าที่บริหารพรรคมากว่า 20 ปีในฐานะผู้อำนวยการพรรค ตั้งแต่สมัยเป็นพรรคชาติไทยมาจนถึงชาติไทยพัฒนา ผ่านการการปฏิบัติตามกฎหมายพรรคการเมืองมา หลายฉบับ แต่ก็ไม่เคยเห็นการกู้ยืมเงินของพรรคชาติไทยและพรรคชาติไทยพัฒนามาก่อน ซึ่งเนื่องจากทางพรรคเห็นว่าการกู้ยืมเงินมาใช้ในกิจการพรรคนั้นโดยหลักการและเจตนารมณ์ของการตั้งพรรคการเมืองนั้นไม่น่าจะกระทำได้ ดังนั้นแม้ว่าผู้บริหารของพรรคในอดีตจะมีฐานะการเงินดีพอที่จะให้กู้เงินเพื่อมาใช้ในการบริหารพรรคและใช้จ่ายในการเลือกตั้งอย่างเพียงพอก็ตาม แต่ทั้งพรรคชาติไทยและ พรรคชาติไทยพัฒนาก็มิได้เคยดำเนินการดังกล่าวแต่อย่างใดเลย พรรคหารายได้โดยการขอรับบริจาคเงิน เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารพรรคตามที่กฎหมายพรรคการเมืองกำหนดและจัดระดมทุนในช่วงที่มีการเลือกตั้งตามกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายก็ตามที ด้วยเห็นว่าสอดคล้องทั้งหลักการของพรรคการเมือง ซึ่งเป็นสถาบันการเมืองของประชาชนและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย
นายนิกร กล่าวว่า ตนไม่ขอให้ความเห็นต่อกรณีที่นายปิยบุตรได้กล่าวถึงพรรคเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่เป็นจริงนี้ เพราะไม่อยากให้เป็นความขัดแย้งระหว่างพรรคการเมืองในช่วงที่ประชาชนต้องการความสามัคคีปรองดองของพรรคการเมืองภายหลังการเลือกตั้ง จึงขอสงวนความเห็นที่มีต่อการกระทำดังกล่าวไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิกรเคยออกแถลงการณ์ในนามพรรคชาติไทยพัฒนา เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2562 ถึงเรื่องดังกล่าวไว้ว่า พรรคชาติไทยพัฒนา ตั้งแต่ตั้งพรรคมาก็ไม่เคยกู้เงินผู้ใดมาเป็นรายได้ของพรรคเลย เอกสารที่นายปิยบุตรได้นำมาแถลงนั้นเป็นงบดุลเก่า ซึ่งระบุเกี่ยวกับเจ้าหนี้-เงินยืมทดรอง จากสาขาพรรคช่วงที่กองทุนเพื่อพัฒนาพรรคการเมืองยกเลิกการสนับสนุนสาขาพรรค แต่กฎหมาย กำหนดให้สาขาพรรคนั้นต้องมีการแสดงค่าใช้จ่ายต่อไป กรรมการสาขาพรรคจึงต้องเป็นผู้ทดรองจ่ายเงิน ดังกล่าวไป ถือเป็นเจ้าหนี้ทางรูปบัญชีสะสมมาหลายปี ซึ่งทางพรรคได้มีการสำแดงในรูปบัญชีส่งให้ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองรับทราบอยู่ตลอดมา มิได้เป็นเงินรายได้จากการกู้ยืมแต่อย่างใด.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |