14 ม.ค.63- นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ระบุ ไม่เสียเวลากับพวกวิ่งไล่ลุง เดินเชียร์ลุง ที่จัดขึ้นพร้อมกันเพื่อวัดพลังมวลชนว่า เป็นอีกครั้งที่พล.อ.ประยุทธ์ ใช้วิธีลอยตัวเหนือปัญหา คนออกมาวิ่งไล่เกือบจะทั่วทั้งประเทศและอีกหลายเมืองทั่วโลก สื่อมวลชนทั้งในประเทศ ต่างประเทศเกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จะมาทำเป็นทองไม่รู้ร้อนไม่ได้ เลิกคิดเข้าใจผิดได้แล้วว่า คนออกมาวิ่งไล่ลุง เป็นมวลชนจัดตั้งมีกลุ่มทุนอยู่เบื้องหลัง 

"การที่ชนชั้นกลางและคนรุ่นใหม่ออกมาไล่มากขนาดนี้ แสดงว่าประชาชนตกผลึกแล้วว่า ตั้งแต่การรัฐประหาร 5-6 ปีที่ผ่านมา ทำให้ประเทศไทยเสียโอกาส ศักยภาพการแข่งขันติดลบ ประชาชนหลอนวาทะแห่งปี อย่าเพิ่งเบื่อก็แล้วกัน ยังไงก็อยู่อีกนานพอสมควร ซึ่งถ้าอยู่แล้วทำประโยชน์ แก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องได้ ประชาชนคงไม่ออกมาไล่มากขนาดนี้" 

นายอนุสรณ์กล่าวว่าความพยายามตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป เพื่อรวบรวมเป็นข้อมูลนำเสนอสภาปฏิรูปและก็ส่งลูกวนกันไปมา พายเรือในอ่างเครือข่ายแม่น้ำ 5 สาย ไม่มีผลสัมฤทธิ์ใด ถึงวันนี้นอกจากความปรองดองสมานฉันท์จะไม่เกิด ความขัดแย้งกลับมากขึ้น ตัวพล.อ.ประยุทธ์ กลายเป็นศูนย์กลางความขัดแย้งเสียเอง ประชาชนตั้งคำถามว่า ที่ผ่านมาตั้งแต่คสช.จนถึงรัฐบาลหลังเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ มีความจริงใจแค่ไหนในการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในประเทศ หรือซื้อเวลา ท่องคาถาจะอยู่ยาวตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีอย่างเดียว

“พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ลาออกตอนนี้ ก็ต้องไปลาออกตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจอยู่ดี เพราะพรรคเพื่อไทยและพรรคฝ่ายค้าน มีใบเสร็จเปิดแผลทุจริตรัฐบาลจนอยู่ไม่ได้ ถ้าเห็นแก่ประเทศชาติและประชาชน ควรลาออก" นายอนุสรณ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อปลายปี 2556-ต้นปี 2557 รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกมวลมหาประชาชนเรือนล้านคนออกมาขับไล่ แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกฯหุ่นเชิดกลับนิ่งเฉย ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน จนเกิดสูญญากาศการเมือง สุดท้ายถูกรัฐประหารในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557.