รัฐบาลปักกิ่งย้ำจะไม่เปลี่ยนแปลงจุดยืนต่อไต้หวัน ภายหลัง "ไช่ อิงเหวิน" ชนะเลือกตั้งเมื่อวันเสาร์อย่างถล่มทลาย ฉุนรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐรีบแสดงความยินดี

    ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน วัย 63 ปี ซึ่งยืนกรานปฏิเสธแม่แบบ "หนึ่งประเทศ สองระบบ" ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 วาระ 4 ปีด้วยคะแนนถล่มทลายในการเลือกตั้งเมื่อวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2563 โดยพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพีพี) ของเธอก็ได้ที่นั่ง ส.ส.ข้างมาก

    รายงานเอเอฟพีเมื่อวันอาทิตย์กล่าวว่า ผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการเผยว่า ไช่ได้คะแนนสนับสนุนถึง 8.2 ล้านคะแนน หรือ 57% มากกว่าชัยชนะของเธอเมื่อปี 2559 ถึง 1.3 ล้านคะแนน ส่วนหัน กั๋วอวี๋ คู่แข่งจากพรรคก๊กมินตั๋ง (เคเอ็มที) ที่มีแนวนโยบายเป็นมิตรกับจีน ได้คะแนน 39% และยอมรับความพ่ายแพ้แล้ว พรรคดีพีพีก็สามารถกวาดที่นั่งเกินครึ่งของสภานิติบัญญัติ 113 ที่นั่ง โดยได้ ส.ส. 61 ที่นั่ง ขณะที่เคเอ็มทีได้ 38 ที่นั่ง จำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์สูงถึง 75% เพิ่มขึ้นเกือบ 10% จากครั้งก่อน

    ข่าวรอยเตอร์กล่าวว่า การหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ ประเด็นที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดคือความพยายามของจีนที่จะทำให้ไต้หวันยอมรับการปกครองของจีนภายใต้แม่แบบ "หนึ่งประเทศ สองระบบ" และการประท้วงต่อต้านรัฐบาลในเขตปกครองพิเศษฮ่องกงของจีน

    กระทรวงการต่างประเทศของจีนออกแถลงการณ์ภายหลังไช่ชนะว่า ไม่ว่าสถานการณ์ภายในของไต้หวันจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร ข้อเท็จจริงพื้นที่ฐานที่ว่า มีเพียงจีนเดียวบนโลกใบนี้และไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน จะไม่เปลี่ยนแปลง

    ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ แสดงความยินดีต่อไช่ตั้งแต่วันเสาร์และยกย่องที่เธอพยายามสร้างเสถียรภาพกับจีนแม้จะเผชิญการกดดันอย่างไม่หยุดหย่อน กระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่นและอังกฤษก็ออกถ้อยแถลงแสดงความยินดีกับไช่และการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยของไต้หวันด้วยเช่นกัน

    กระทรวงการต่างประเทศของจีนแสดงความไม่พอใจกับท่าทีของสหรัฐ โดยเกิ้ง ซวง โฆษกกระทรวง กล่าวว่า จีนไม่พอใจอย่างรุนแรงและไม่เห็นด้วยกับการแลกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการทุกรูปแบบระหว่างไต้หวันกับประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน

    ไช่กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ ขณะพบกับเบรนต์ คริสเตนเซ็น ผู้อำนวยการสถาบันอเมริกันในไต้หวัน ซึ่งทำหน้าที่เสมือนสถานทูตของสหรัฐ ว่าเป็นอีกครั้งที่ประชาชนชาวไต้หวันใช้สิทธิในการออกเสียงเลือกตั้งเพื่อแสดงให้โลกเห็นค่านิยมของประชาธิปไตย

    "ประชาธิปไตยและเสรีภาพคือทรัพย์สินที่มีค่ามากที่สุดของไต้หวันอย่างแท้จริง และเป็นรากฐานของสัมพันธภาพระยะยาวระหว่างไต้หวันกับสหรัฐ" ไช่กล่าวพร้อมกับให้คำมั่นว่าจะร่วมมือกับสหรัฐอย่างใกล้ชิดมากขึ้นในด้านต่างๆ ตั้งแต่ด้านกลาโหมไปจนถึงด้านเศรษฐกิจ

    เมื่อวันเสาร์ ไช่เพิ่งเรียกร้องให้จีนรื้อฟื้นการเจรจา แต่เธอก็หวังให้รัฐบาลปักกิ่งเข้าใจว่าไต้หวันและประชาชนไต้หวันจะไม่ยอมจำนนต่อการข่มขู่

    คณะกรรมการกิจการจีนแผ่นดินใหญ่ของไต้หวันกล่าวว่า จีนควรเคารพผลการเลือกตั้งไต้หวันและหยุดกดดันเกาะแห่งนี้ รัฐบาลไต้หวันจะปกป้องอธิปไตยของสาธารณรัฐจีน และประชาธิปไตยและเสรีภาพของไต้หวัน

    ด้านสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนกล่าวว่า ไช่ชนะเลือกตั้งด้วยการใช้อุบายสกปรก, ประโคมภัยคุกคามจากจีน และสมคบคิดกับพวกตะวันตก ไช่และดีพีพีควรตระหนักว่าพวกเขาไม่ควรทำตามอำเภอใจเพราะความฟลุก.