รัฐมนตรีต่างประเทศ ดอน ปรมัตถ์วินัย ชี้แจงว่าท่านได้พูด “คลาดเคลื่อน” กรณีที่บอกว่าสหรัฐฯ ได้แจ้ง “ล่วงหน้าหนึ่งวัน” ต่อไทยประเด็นการลอบสังหารนายพลคนสำคัญของอิหร่าน
    แต่คุณดอนไม่ได้บอกว่า “คลาดเคลื่อน” อย่างไร และความผิดพลาดนั้นเกิดจากอะไร
    ทั้งๆ ที่การให้ข้อมูลที่ว่านี้เป็นความผิดต่อวิถีปฏิบัติทางการทูตและการเมืองระหว่างประเทศ
    อีกทั้งยังทำให้ประเทศไทยตกอยู่ในฐานะสุ่มเสี่ยงกับการถูกตีความว่ารู้เห็นเป็นใจกับการประทำของสหรัฐฯ ในกรณีนี้
    ย้อนไปอ่านข่าวเรื่องนี้เพื่อความเข้าใจว่า คุณดอนตอบคำถามนักข่าวอย่างไร เพื่อการวิเคราะห์ให้ได้ถูกต้องแม่นยำ มิใช่การคาดเดาหรือตีความนอกลู่นอกทาง
    ข่าวชิ้นนี้ตีพิมพ์ในหลายๆ สื่อมีเนื้อหาละม้ายคล้ายกันว่า
    ดอนเผยอเมริกา ส่งซิกให้ไทย 1 วัน ก่อนสังหารนายพลอิหร่าน!
    เมื่อเวลา 13.50 น. วันที่ 7 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์หลังประชุม ครม.กรณีที่นายปณิธาน วัฒนายากร อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ต้องการให้รัฐบาลส่งสัญญาณให้ประเทศในอาเซียนส่งสัญญาณให้สหรัฐอเมริกา ประนีประนอมหรือพูดคุยเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกาและอิหร่าน ว่า 
    ที่จริงก่อนเหตุการณ์จะเกิดขึ้นในวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา ทางสหรัฐฯ ได้ประสานมายังไทยเมื่อวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุเหตุผลว่าจะต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งการแจ้งก่อนล่วงหน้าหนึ่งวันเพื่อให้เกิดความเข้าใจว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น รวมถึงมีการติดต่อกับอาเซียนอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ช่องว่างที่จะไปยับยั้งอะไรกันในวันนั้น 
    และเราเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วจะไม่เกิดซ้ำ หรือว่าไม่บานปลายไป ส่วนท่าทีของไทยก็มีคำกล่าวออกไปแล้ว ซึ่งเราก็ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และไม่อยากให้สถานการณ์บานปลาย ไม่มีการยั่วยุ อยากให้ช่วยกันลดความตึงเครียด เพื่อให้ความสงบสุขและสันติภาพไม่ถูกรบกวน โดยตอนนี้คนไทยที่อยู่ในอิหร่านมีประมาณ 300 คน ซึ่งเราก็มีการแจ้งเตือนไปแล้ว
    นายดอนกล่าวถึงกรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เชิญผู้นำอาเซียนเยือนสหรัฐฯ เพื่อหารือสมัยพิเศษในช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 ซึ่งเป็นคำเชิญก่อนเกิดสถานการณ์ความขัดแย้งนั้นว่า หลายๆ ประเทศทราบว่าได้มีการตอบรับไปแล้ว ยังคงเป็นแค่คำเชิญอยู่ ส่วนไทยในหลักการโอเคแล้ว เพียงแต่ยังติดในเงื่อนเวลาเท่านั้นเอง เบื้องต้นอาจเป็นเดือนมีนาคม แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นช่วงไหน
    เมื่อถามว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะต้องรายงานให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ทราบหรือไม่ นายดอนกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องรายงาน เพราะทุกคนรับทราบกันอยู่แล้ว
    ประโยคสำคัญอยู่ตรงที่รัฐมนตรีต่างประเทศบอกว่าสหรัฐฯ แจ้งมาที่ไทยหนึ่งวันก่อนปฏิบัติการนั้น
    “....โดยระบุเหตุผลว่าจะต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งการแจ้งก่อนล่วงหน้าหนึ่งวันเพื่อให้เกิดความเข้าใจว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น รวมถึงมีการติดต่อกับอาเซียนอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ช่องว่างที่จะไปยับยั้งอะไรกันในวันนั้น”
     เขาแจ้งมาอย่างไรไม่แน่ชัด เพราะคุณดอนบอกว่า “ให้เหตุผลว่าจะต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้...”
    ยิ่งเมื่อคุณดอนบอกว่า “...แต่ไม่ใช่ช่องว่างที่จะไปยับยั้งอะไรกันในวันนั้น” ก็ยิ่งทำให้เชื่อว่าสิ่งที่พูดถึงนั้นคือปฏิบัติการนี่นั่นแหละ
    คำถามสำคัญๆ ที่รัฐมนตรีดอนต้องตอบข้อสงสัยของคนไทยก็คือ
    1.จริงหรือที่สหรัฐฯ แจ้งไทยล่วงหน้าเรื่องนี้? สหรัฐฯ เห็นไทยมีความสำคัญขนาดนั้นหรือ...ในเมื่อผู้นำพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสเองยังโวยวายว่าทรัมป์ไม่ได้แจ้งให้พวกเขาทราบล่วงหน้าด้วยซ้ำไป
    2.ถ้าสหรัฐฯ ไม่ได้แจ้งไทยจริง คุณดอนเอาข้อมูลนี้มาจากไหน?
    3.ถ้า (จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม) สหรัฐฯ แจ้งไทยล่วงหน้าหนึ่งวันจริง ความข้อนี้ทราบถึงระดับไหนของรัฐบาลไทย นายกรัฐมนตรีได้ทราบหรือไม่ และเมื่อเราทราบแล้วได้แจ้งสหรัฐฯ ไปว่าอย่างไรในฐานะที่ไทยมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับทั้งสหรัฐฯ และอิหร่าน
    เพียงแค่ให้โฆษกกระทรวงต่างประเทศออกมาชี้แจงว่าข่าวชิ้นนั้น “คลาดเคลื่อน” โดยไม่มีคำอธิบาย
    และในวันต่อมา รัฐมนตรีดอนเองออกมาพูดย้ำประโยคเดียวกัน
    ย่อมไม่อาจจะตอบข้อสงสัยของคนไทยทั่วไปได้
    คำว่า “คลาดเคลื่อน” ย่อมหมายถึงผิดจากข้อเท็จจริง
    รัฐมนตรีต่างประเทศจึงต้องชี้แจงว่า “ข้อเท็จจริง” นั้นเป็นเช่นไร
    หลักการสอบสวนผู้อยู่ในเหตุการณ์ที่ต้องการความกระจ่างคือการตอบ 3 คำถามหลักคือ
    1.ท่านรู้อะไร
    2.ท่านรู้เมื่อไหร่
    3.รู้แล้วท่านทำอย่างไร.