นายกฯ เปิดงานวันเด็กกระทรวงศึกษาฯ ขอทุกคนทำความดีจากหัวใจ


เพิ่มเพื่อน    

11 ม.ค.63 - เมื่อเวลา 08.30 น. ที่กระทรวงศึกษาธิการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานเปิดงานวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2563 โดยนายกฯกล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่ 5-6 ที่ตนได้มางานวันเด็ก เป็นที่น่ายินดีที่ได้พบปะกันทุกปี วันนี้เป็นวันที่เราจะส่งความรัก ความปรารถนาดีร่วมกันไปยังเด็กและเยาวชนไทยทั่วประเทศ รัฐบาลตระหนักดีว่าเด็กและเยาวชนทุกคนเป็นทรัพยากรที่มีค่า ซึ่งจะเติบโตขึ้นเป็นกำลังของชาติ อนาคตจะเป็นผู้ใหญ่ในวันหน้า หากเราต้องการผู้ใหญ่อย่างไรในวันหน้า ก็ต้องทำให้เด็กเข้มแข็งตั้งแต่วันนี้ในทุกเรื่อง ต้องเสริมสร้างสุขภาวะที่ดีต่อร่างกาย จิตใจ สติปัญญา คุณธรรม จริยธรรม อะไรดีก็ทำ ไม่ดีก็อย่าไปทำ ซึ่งเด็กทุกคนสามารถจะนำพาตัวเอง ครอบครัว ประเทศชาติไปข้างหน้าได้อย่างปลอดภัย  

นายกฯ กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือรู้รัก สามัคคีก็จะเกิดประโยชน์ด้านต่างๆ สังคมปลอดภัย ครอบครัวมีความสุขไม่ทะเลาะกัน ไม่เอาเปรียบซึ่งกันและกัน และที่สำคัญคือหน้าที่พลเมืองไทย ทำหน้าที่เพื่อชาติบ้านเมือง ซึ่งตนขอให้คำขวัญนี้เป็นของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ไปพร้อมกัน นอกจากความรู้ด้านวิชาการแล้ว เด็กต้องบ่มเพาะคุณธรรม จริยธรรม ความรัก สามัคคีต้องเกิดในใจ ทุกอย่างต้องเกิดที่จิตใจตัวเอง ทำความดีด้วยหัวใจของจิตอาสา ถ้าหัวใจไม่อยากทำ หัวใจไม่อยากรับ หัวใจไม่อยากคิด มันไปไม่ได้ทั้งหมด  มันจะลงไปสู่ที่แย่กว่าเดิมทุกครั้งไป

“หัวใจมีสองอย่างคือ หัวใจในการทำความดี และหัวใจในการจะทำความไม่ดี  เพราะฉะนั้นมันอยู่ที่เรา เหมือนเราเลี้ยงหมาป่าอยู่ในตัวไว้ 2 ตัว ตัวหนึ่งใจร้าย ตัวหนึ่งใจดี คุณจะเลี้ยงหมาป่าตัวไหน ถ้าเลี้ยงตัวใจดีคุณก็ดี ถ้าเลี้ยงตัวใจร้ายคุณจะเป็นผู้ร้ายต่อไปในสังคม ไม่ได้เกิดอะไรดีขึ้น เกเร มีสุนัข 2 ตัวเสมอ ผมก็มี 2 ตัว แต่ผมก็ต้องเลี้ยงตัวอารมณ์ดีๆ อารมณ์เย็นๆ อารมณ์ร้ายๆเหมือนหมาป่าใจร้ายผมไม่อยากเป็น” นายกฯกล่าว

นายกฯ กล่าวอีกว่า ทุกอย่างจะเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างสังคมให้มีความสงบสุขในอนาคตต่อไป การเรียนรู้หน้าที่พลเมืองไทยต้องตระหนักอยู่เสมอว่าเป็นกำลังให้ชาติบ้านเมืองด้วยสองมือ ด้วยหัวใจ สองขา สองแขน ตัวเรา 32 ประการ ถ้าเราใช้ทุกอย่างให้เกิดประโยชน์ตามกำลังความสามารถเป็นผลดีทั้งสิ้น ต้องยึดมั่นในระเบียบวินัย กฎหมาย เป็นผู้มีจิตสาธารณะเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ตามสมควร ช่วยเหลือกันได้ไม่ใช่รังเกียจเขา ก็คนไทยด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ใช่ศัตรูกันมาตั้งแต่ปางไหนชาติไหน มันอยู่ที่การทำความดี แต่จะทำถูกหรือผิดกฎหมายเท่านั้นเอง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อีกทั้งต้องปลูกฝังค่านิยมความเป็นไทย ประวัติศาสตร์ชาติไทยเป็นอย่างไร อย่าสอนประวัติศาสตร์ชาติไทยแค่ที่ว่าสมเด็จพระนเรศวรฯกลับมากู้ชาติเมื่อปีพ.ศ.นี้แล้วจบ ท่านไปอยู่ต่างประเทศกี่ปี ทำไมท่านไม่กลมกลืนไปอยู่ที่โน้นเลย ทำไมท่านถึงกลับมา อีกตั้ง 15 ปีแล้วมากู้ชาติ ต้องสอนอย่างนี้ พันท้ายนรสิงห์คัดท้ายเรือที่คลองโคกขามถูกโทษตัดศรีษะ ทรงให้อภัยแล้ว แต่ทำไมยังให้ตัดศีรษะอีก เพราะรักษากฎระเบียบ กติกากฎหมาย ต้องสอนอย่างนี้ ทุกอย่างต้องสอนให้คิดวิเคราะห์เป็น อ่านและแปลความ เด็กจะมีแรงกระตุ้นมากยิ่งขึ้น ฝากครูทุกคนด้วย หากสอนแบบท่อง ให้วงกลมตอบ ท้ายสุดจำอะไรไม่ได้ สาระก็หายไป แล้ววันนี้เราต้องกระตุ้นเด็กมากกว่าเดิม ไม่ให้เป็นพลเมืองที่เฉื่อยชา และให้รักชาติ ศาสนา  พระมหากษัตริย์ รักประเทศ ประพฤติตนให้เป็นแบบอย่างในการดำรงชีวิต เพื่อเติบโตแข็งแรงและสวยงามต่อไป

“คงมีแค่นี้ ไม่อย่างนั้นลุงก็พูดกับเราอีกนาน เพราะนานๆจะได้มีโอกาสคุยกับเราสักที ช่วงหลังๆก็พูดน้อยลง แต่ในใจมันมีเยอะ เรื่องมันเยอะ พยายามทำทุกอย่าง วันนี้พูดเร็ว เพราะคิดเร็ว มีพูดไม่เพราะบ้างต้องขอโทษ อะไรเป็นตัวอย่างที่ดีก็ทำไป ไม่ดีก็อย่าไปทำ และต้องทำให้ดีขึ้น ก็ไม่ใช่เลวร้ายอะไรหรอกนะ อยากบอกว่านายกฯก็ต้องดูตัวเองเสมอมา และขอบคุณคณะรัฐมนตรี บุคลากรทางการศึกษาและที่เกี่ยวข้องทุกคน หลายเรื่องถ้าเราปรับเปลี่ยนองคาพยพเหล่านี้แล้วไม่ดีขึ้น ผมว่ามันมีปัญหาแล้วละ มันมีปัญหาที่คน ถ้าทุกคนหันมาหากันก็จะแก้ปัญหาได้ โดยเอาเป้าหมายที่เราต้องการคือเด็กมีการพัฒนา เจริญก้าวหน้า“ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"