น่าจะออกไปทาง ข่าวปลอม ซะล่ะมากกว่า...ไม่ก็อาจเป็นเพราะผู้ให้ข่าว ท่านเกิดอาการ แปรปรวน ไปชั่วครั้ง ชั่วขณะ มันเลยกลายมาเป็นข่าวคราว ว่ารัฐมนตรีต่างประเทศไทยอ้างว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกาถึงกับต้องแจ้งเรื่อง แจ้งราว มาให้กระทรวงต่างประเทศไทยและบรรดาประเทศอาเซียนได้รับทราบล่วงหน้าถึง 1 วันเต็มๆ ก่อนลงมือลอบสังหารนายพลอิหร่าน กอเซ็ม สุไลมานี ซึ่งดูเหมือนโฆษกกระทรวงต่างประเทศ จะออกมา แก้ข่าว หรือ กลบเกลื่อนข่าว ไปเป็นที่เรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว...
--------------------------------------------
คือรัฐมนตรี ดอน ปรมัตถ์วินัย นั้น...คงปฏิเสธไม่ได้ท่านไม่ได้เป็น นักการเมืองอาชีพ ไม่ว่าจะสืบทอดอำนาจมาพร้อมๆ กับ บิ๊กตู่ อยู่ยาวว์ว์ว์ในตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศมา 5 ปี 6 ปี เข้าไปแล้ว แต่ในแง่ความหนาของหนัง ก็ยังไม่น่าถึงขั้นเกล็ดแตกลายงา เขี้ยวยังไม่ถึงกับติดสปริงไฮดรอลิกยืดได้-หดได้ ยิ่งช่วงหลังๆ เมื่อถูกหยิบมาใส่ไว้ในบัญชีรายชื่อแบล็กลิสต์ของฝ่ายค้าน ในฐานะหนึ่งในคิวของผู้ซึ่งต้องถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจในอีกแค่ไม่กี่วันนับจากนี้ ท่านเลยอาจเกิดอาการ ต่อมน้ำลายเหนียว ส่งผลให้กรามค้าง ลิ้นพันกัน ไปในบางช่วง บางขณะ...
-----------------------------------------------
การพูดจากับ ผู้สื่อข่าว ในเรื่องความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลอเมริกากับอิหร่าน ที่ประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮาแทบไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องด้วยเลย มันเลยไม่ถึงกับ โมกโข กัลยาณิยา สาธุ ซักเท่าไหร่ คือแม้ไม่ได้มีคำหยาบ คำถ่อย อะไรเอาเลยแม้แต่น้อย แต่บางคำมันอาจจะไม่ได้ความ หรือถูกหยิบเอาไปตีความ แปลความ ทำนองว่า...ก่อนคิดลงมือ ฆ่า ผู้นำทางทหารที่ได้กลายเป็น วีรบุรุษ ของชาวอิหร่าน หรือชาวมุสลิมแทบทั่วทั้งโลกไปแล้ว รัฐบาลอเมริกันกลับต้องส่งสาส์น ส่งสัญญาณ มาแจ้งให้ประเทศเล็กๆ อย่างประเทศไทย รวมทั้งบรรดาประเทศอาเซียนรับทราบเอาไว้ก่อนล่วงหน้าเป็นวันๆ การ เปล่งวาจา ที่ไม่ได้ความ ไม่ได้เรื่อง ได้ราว แม้จะไม่ถึงกับไม่งาม มันเลยไม่ได้ ยังประโยชน์ให้เกิดความสำเร็จ ใดๆ เลย แต่กลับส่งผลไปในด้านตรงกันข้ามซะเป็นหลักใหญ่...
-------------------------------------------
คือในแง่ ความเป็นไปได้ หรือความน่าจะเป็นไปตามข้อเท็จจริงนั้น ถ้าหากรัฐบาลอเมริกันดันมาแจ้งล่วงหน้าให้ประเทศไทยและประเทศอาเซียนรับทราบล่วงหน้ากันเป็นวันๆ โอกาสที่รัฐมนตรีประเทศใด ประเทศหนึ่ง ในอาเซียน โดยเฉพาะที่เป็นมุสลิมด้วยกันแบบชาวอิหร่านทั้งหลาย คงน่ามีเวลาพอที่จะส่งอีมง อีแมว หรือโทรศัพท์สายตรง ไปบอก ไปเตือน ผู้บัญชาการกองกำลัง Quds Force ของอิหร่านกันได้ไม่ยาก เพื่อไม่ให้ต้องเกิดเรื่อง เกิดราว เกิดปัญหาระหว่างประเทศที่กำลังกลายเป็นปัญหาของโลกทั้งโลกไปแล้วในทุกวันนี้...
--------------------------------------------
เพราะขนาดนายกรัฐมนตรีรักษาการอิรัก ที่เป็นเจ้าของพื้นที่ เจ้าของประเทศที่เกิดเหตุ ตัวนายกรัฐมนตรี อะเดล อับดุล มาห์ดี ท่านยังต้องออกมาสารภาพแบบตรงไป-ตรงมา ว่าทางการอเมริกันแจ้งให้ท่านได้รับทราบ เพียงแค่ไม่กี่นาที หรือไม่กี่วินาที ก่อนหน้าที่นายพล กอเซ็ม สุไลมานี จะเดินทางมาหาท่าน และแม้ท่านจะห้ามจะปราม จะไม่อนุญาตให้ทหารอเมริกันปฏิบัติการในลักษณะดังกล่าว แต่นอกจากทหารอเมริกันไม่คิดจะฟัง การแจ้งเตือนไปยังแขกของรัฐบาลอิรัก อย่างนายพลอิหร่าน ก็ไม่ทันการณ์ ไม่ทันเวลาไปซะแล้ว...
----------------------------------------------
ด้วยเหตุนี้...โอกาสที่รัฐบาลอเมริกา จะแจ้งมายังรัฐมนตรี ดอน ปรมัตถ์วินัย ว่าคิดจะเด็ดหัวผู้บัญชาการทหารอิหร่าน ชนิดล่วงหน้าเป็นวันๆ แบบเดียวกับที่ ฝ่ายค้าน บ้านเราแจ้งให้ทราบว่าใครบ้างที่อยู่ใน คิวฆ่า ของการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในคราวนี้ มันจึงไม่น่าจะเป็นไปได้ หรือไม่น่าจะสอดคล้องกับความจริง มากมายซักเท่าไหร่ การเปล่งวาจาที่ไม่ได้ออกไปทาง โมกโข กัลยาณิยา สาธุ ของรัฐมนตรีต่างประเทศไทยในคราวนี้ มันจึงอาจเป็นเพราะความผิดปกติของอวัยวะร่างกายในบางชิ้น บางส่วน ไปตามสภาพ หรือจะเป็นเพราะบรรดาผู้สื่อข่าว หูเฝื่อน หูไม่ดี เลยเข้าใจไปในคนละเรื่อง คนละราว ก็แล้วแต่จะว่ากันไป...
-------------------------------------------
แต่ถ้าจะให้สรุปโดยรวมแล้ว...ในหมู่บรรดาประเทศอาเซียนทั้งหลาย ผู้ที่ออกจะมี โมกโข กัลยาณิยา สาธุ อย่างเป็นพิเศษ คือทั้งพูดดี พูดงาม พูดเข้าท่า แถมยังมีเหตุมีผลแบบชนิดแทบเถียงไม่ออก ก็คงไม่น่ามีใครเกินไปกว่าผู้นำมาเลเซีย อย่างท่าน มหาธีร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีที่แก่ที่สุดในโลกนั่นแหละ อันนี้นี่เอง...ที่ต้องถือเป็น ของจริง และ ของแท้ แม้จะเป็นประเทศเล็กๆ แถมเล็กกว่าประเทศไทยซะด้วยซ้ำ แต่ในแง่ของความฉลาด ความมีสติ-ปัญญา รวมทั้งในแง่ของคุณภาพและคุณธรรม คงต้องยกให้ ท่านมหาธีร์ ถือเป็นเบอร์หนึ่งของอาเซียน อย่างมิอาจปฏิเสธ...
--------------------------------------------
โดยเฉพาะเมื่อท่านได้ชี้ให้เห็นถึงความเหมือนกัน คล้ายกัน ระหว่างกรณีลอบสังหารนายพล กอเซ็ม สุไลมานี โดยอเมริกัน กับการลอบสังหารนาย จามาล คาช็อกกี นักหนังสือพิมพ์ชาวซาอุฯ โดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลซาอุฯ ที่แม้จะเป็นชาวมุสลิมด้วยกันเองก็เถอะ ว่าต่างเกิดขึ้นบนองค์ประกอบแบบเดียวกัน คือ 1.เป็นการลอบฆ่า ลอบสังหาร แบบข้ามรัฐ ข้ามพรมแดนแห่งความเป็นชาติ 2.เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ไม่ว่าในประเทศหรือระหว่างประเทศ และ 3.เป็นการกระทำที่ผิดศีลธรรม ตามมาตรฐานสากล อย่างเห็นได้โดยชัดเจน ไม่เพียงแต่น้ำหนักของเหตุผลจะเป็นอะไรที่เถียงไม่ออกแล้ว ความงดงามของคุณธรรมที่แสดงให้เห็นจากคำพูดดังกล่าว จึงเป็นอะไรที่น่าทึ่ง น่าประทับใจเอามากๆ ชนิดน่าส่งรัฐมนตรีต่างประเทศไทยไปฝึกอบรม หรือไปดูงานที่มาเลเซียซักเป็นการชั่วคราว หรือถาวร ก็แล้วแต่จะว่ากันไป...
----------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Japanese proverb...“One kind word can warm three winter months. - คำพูดที่ไพเราะ งดงาม เพียงคำเดียว สามารถช่วยให้ฤดูหนาว อบอุ่นได้ถึงสามเดือน...”
--------------------------------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |