มีคำถามว่า เคยมีผู้นำประเทศอื่นคิดจะสังหารนายพลกอเซ็ม สุไลมานีของอิหร่านมาก่อนหรือไม่
คำตอบคือ เคยมีและหลายครั้ง...แม้สมัยอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุชก็เคยมีการนำเสนอข้อมูลที่จะนำไปสู่การ "เก็บ" นายพลคนนี้
แต่ในทุกกรณีที่ผ่านมา ลงท้ายผู้นำเหล่านั้นก็สรุปว่า "ไม่คุ้มกับความเสี่ยงที่จะตามมา" จึงระงับแผนนั้นเอาไว้ทุกครั้ง
แต่โดนัลด์ ทรัมป์มีวิธีคิดและการตัดสินใจที่ไม่เหมือนใคร เขาต้องการพิสูจน์ว่าเขามีความแกร่งกล้าพอที่จะพิชิตศัตรูของสหรัฐฯ ได้มากกว่าผู้นำมะกันคนก่อนๆ
สังเกตว่าหนึ่งในข้อความทวีตของเขาในช่วงนั้นคือ การเอารูปธงชาติสหรัฐฯ ขึ้นโดยไม่ให้รายละเอียดอะไร
นั่นคือการส่งสัญญาณว่าเขาได้สั่งการให้ทำอะไรที่ตอกย้ำความเป็น "อเมริกาต้องมาก่อนทุกอย่าง" แล้ว
นักวิเคราะห์อเมริกันที่เคยทำงานในหน่วยราชการลับของสหรัฐฯ บอกว่า การตัดสินใจสังหารผู้นำชาติอื่นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเกินกว่าที่จะถือเป็นทางเลือกของการดำเนินนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงได้
เพราะหาก "จัดการ" กับผู้นำคนอื่นได้ เขาก็ย่อมจะแก้แค้นได้เช่นกัน และนั่นเท่ากับเป็นการเปิดทางให้ชีวิตและทรัพย์สินของอเมริกาทั่วโลกตกอยู่ในภาวะที่ต้องเสี่ยงอย่างยิ่ง
หนึ่งในโอกาสที่จะเก็บนายพลอิหร่านคนนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคม ปี 2007
ผู้บัญชาการหน่วยปฏิบัติการร่วมพิเศษชื่อ Stanley McChrystal ได้เห็นภาพสดๆ ของขบวนรถที่นำนายพลสุไลมานีข้ามจากอิหร่านเข้าอิรัก
เขาเขียนเล่าไว้ในนิตยสาร Foreign Policy เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ในจังหวะนั้นเขาสามารถจะสั่งการถล่มขบวนรถเพื่อสังหารนายพลคนสำคัญของอิหร่านได้เลย เพราะเขาเชื่อว่านายพลคนนี้อยู่เบื้องหลังปฏิบัติการหลายครั้งที่มีผลทำให้ทหารอเมริกันในอิรักต้องเสียชีวิตบ่อยครั้ง
แต่เขาตัดสินใจไม่สั่งให้สังหารนายพลอิหร่านคนนี้
"เพราะผมไม่ต้องการให้มีการสู้รบกันอย่างดุเดือดและต้องตั้งรับผลทางการเมืองที่จะวุ่นวายพอสมควร" เขาบอก
เขายอมรับว่า "การตัดสินใจที่จะไม่ทำอะไรบางอย่างบ่อยครั้งก็เป็นเรื่องยากที่สุด และก็ไม่ใช่การตัดสินใจที่ถูกต้องเสมอไป"
นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาต้องการจะสื่อว่าหากเขาสั่งการให้ "เก็บ" นายพลสุไลมานีวันนั้นจะถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแต่อย่างใด
ต่อมาอีกหนึ่งปี สายข่าวอิสราเอลที่ทำงานกับสหรัฐฯ รายงานว่า มีข่าวกรองยืนยันว่านายพลสุไลมานีได้เคลื่อนไหวในจุดที่เป็นเป้าการโจมตีได้
แต่นายกฯ อิสราเอลขณะนั้นคือ Ehud Olmert ตัดสินใจไม่เดินหน้าสั่งถล่มคร่าชีวิตเขา
เป็นการตัดสินใจร่วมของสหรัฐฯ กับอิสราเอล ว่าการสั่งเก็บนายพลคนสำคัญของอิหร่านในจังหวะนั้นอาจจะ "เสี่ยงเกินไป" และอาจเข้าข่าย "ได้ไม่คุ้มเสีย"
อีกครั้งหนึ่ง หน่วยรบพิเศษอังกฤษที่เกาะติดความเคลื่อนไหวของนายพลคนนี้ก็รายงานถึงระดับนำว่าสามารถยืนยันจุดที่พร้อมจะสั่งการสังหารเขาได้
แต่รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษขณะนั้น David Miliband สั่งห้ามทหารอังกฤษเดินหน้าจัดการเป้าหมายนั่น
เหตุผลที่ตัดสินใจเช่นนั้นคือ "เราควรจะเลือกแนวทางการทูตกับอิหร่านจะดีกว่า"
ต่อมาในปี 2015 ระหว่างการถกแถลงของคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศในรัฐสภาสหรัฐฯ ส.ส.จากฟลอริดาของพรรครีพับลิกันตั้งคำถามดังๆ ว่า
"ถ้าหน่วยงานของเราปฏิบัติการทางอากาศอยู่ คนอย่างกอเซ็ม สุไลมานีจะถือว่าเป็นเป้าของการโจมตีได้หรือไม่"
คำตอบจากอดีตนายพลยอห์น อัลลัน ซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษต่อต้านไอซิสของประธานาธิบดีโอบามาคือ
"ณ ขณะนี้เราไม่มีความตั้งใจใดๆ ที่จะจับเขาเป็นเป้าของการโจมตีของเรา"
ถามว่าทำไม นายพลมะกันคนนั้นตอบว่า
"เพราะเราเข้าไปอิรักเพื่อช่วยรัฐบาลนั้นจัดการกับไอซิส นั่นคือเป้าหมายของเราที่นั่น เราไม่ได้ต้องการจะไปเปิดศึกกับอิหร่าน ผมเชื่อว่านั่นเป็นประเด็นสำคัญที่เราต้องตระหนักอยู่เสมอ ผมขอพูดแค่นั้นนะครับ"
ต้องไม่ลืมว่าแม้นายพลสุไลมานี ในฐานะผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษ Quds ยาวนานถึง 21 ปี จะมีความขัดแย้งกับอเมริกาในหลายๆ เรื่อง แต่กรณีการต่อต้านไอซิสในอิรักและซีเรียนั้น ถือเป็นเป้าหมายเดียวกับอเมริกาเหมือนกัน
นี่คือเหตุผลลึกๆ ที่มะกันมักไม่พูดในที่สาธารณะ และโดนัลด์ ทรัมป์ "ห่าม" เกินไปที่จะเข้าใจ!
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |